พระนครศรีอยุธยา 3 ก.ค.- ชลประทาน 12 เริ่มระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยาจากฝนตกบ่อยระยะนี้และไม่ให้กระทบชุมชนริมฝั่ง ด้านผู้ว่าฯ อยุธยาห่วงพื้นที่ลุ่มต่ำแม่น้ำ-ลำคลอง เตือน 6 อำเภอเฝ้าระวัง หากเกิดภาวะน้ำเอ่อให้รีบแจ้งทันที
นายสุจินต์ ไชยชุมศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น นายอำเภอ และกำนันผู้ใหญ่บ้าน ติดตามสถานการณ์แม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำน้อยในระยะนี้อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะเขตอำเภอบางบาล พระนครศรีอยุธยา บางปะอิน บางไทร เสนา และผักไห่ แจ้งเตือนประชาชนพื้นที่ริมฝั่งเตรียมรับมือแม่น้ำอาจเพิ่มสูงขึ้น หากอยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำให้ระวังน้ำท่วมขัง และหากเกิดสถานการณ์น้ำล้นตลิ่งให้รีบรายงานมายังจังหวัดทันที พร้อมภาพถ่ายที่เกิดขึ้น
ทั้งนี้ เนื่องจากกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยร่วมกับกรมชลประทาน (สำนักงานชลประทานที่ 12) ได้ติดตามสถานการณ์น้ำในเขื่อนเจ้าพระยา เพราะสัปดาห์ที่ผ่านมามีฝนตกกระจายอย่างต่อเนื่องและตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ส่งผลให้ระดับน้ำและปริมาณน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้น ล่าสุดวันที่ 2 ก.ค.2561 สถานีวัดน้ำ C2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 804 ลบ.ม./วินาที และปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา 490 ลบ.ม./วินาที ดังนั้น เพื่อความเหมาะสมกับสถานการณ์ สำนักงานชลประทานที่ 12 จำเป็นต้องเพิ่มการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยาในเกณฑ์ 500-600 ลบ.ม./วินาที โดยจะไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ริมตลิ่งแม่น้ำเจ้าพระยา หากไม่มีฝนตกเพิ่มก็จะลดการระบายน้ำเป็นลำดับ
ด้านนายชูเกียรติ บุญมี นายกเทศมนตรีตำบลบางบาล อำเภอบางบาล ประกาศให้ชุมชนริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยางทั้ง 6 ตำบล รวมถึงคลองบางบาลและคลองบางหลวง ซึ่งเป็นลำคลองขนาดใหญ่เชื่อมกับแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำน้อย ให้เตรียมพร้อมไว้ล่วงหน้า เพื่อความไม่ประมาท.-สำนักข่าวไทย