สำนักข่าวไทย 3 ก.ค.-เปิดประวัติ “ครูบาบุญชุ่ม ญาณสังวโร” พระเกจิดังแห่งรัฐฉาน และเผยคำพูดสำคัญกับพ่อแม่ผู้ปกครองของทั้ง 13 ชีวิต ว่าทุกคนปลอดภัย อีก 2-3 วันจะออกมา
ทีมข่าวสำนักข่าวไทยได้ประมวลเหตุการณ์สำคัญเมื่อครั้งครูบาบุญชุ่ม ญาณสังวโร พระเกจิดังแห่งรัฐฉาน เดินทางมาที่ถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน และเผยคำพูดสำคัญกับพ่อแม่ผู้ปกครองของทั้ง 13 ชีวิต ว่าทุกคนปลอดภัย อีก 2-3 วันจะออกมา ถือเป็นอีกบุคคลสำคัญทางจิตวิญญาณที่สร้างขวัญและกำลังใจให้กับทุกคนในพื้นที่อย่างมาก เราได้รวบรวบช่วงสำคัญและประวัติของครูบาบุญชุ่มมาให้ได้ชมกัน
ย้อนกลับไปเมื่อค่ำวันศุกร์ 29 มิถุนายน การเดินทางมาของครูบาบุญชุ่ม ญาณสังวโร พระเกจิชื่อดังแห่งล้านนาจากรัฐฉาน มายังถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน อ.แม่สาย จ.เชียงราย สร้างขวัญกำลังใจและความหวังให้พ่อแม่ ผู้ปกครอง และญาติๆ ของทั้ง 13 ชีวิตที่ติดอยู่ภายในถ้ำเป็นอย่างมาก มีคำพูดสำคัญของครูบาบุญชุ่มที่ว่า ทำพิธีให้แล้ว อีก 2-3 วันจะออกมา หลังอัญเชิญพระพุทธรูปโบราณขนาดใหญ่เข้าไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาแผ่เมตตา ขอขมาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ พิธีเปิดตา ภายในถ้ำหลวง โดยมีพ่อแม่ ผู้ปกครองของทั้ง 13 ชีวิต เดินทางเข้าไปด้วย
วันที่ 30 มิถุนายน ครูบาบุญชุ่มกลับมาทำพิธีอีกครั้งที่ถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ทำพิธีสักการะศาลเจ้าแม่นางนอน พร้อมกับพระลูกศิษย์ และผู้ปกครอง ครูบาบุญชุ่มได้อธิษฐานจิตขอให้เด็กได้ออกมาในวันพรุ่งนี้ และเห็นในนิมิตว่าเด็กยังอยู่ ขอให้วิญญาณในถ้ำเปิดประตูถ้ำ ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองด้วย
ผ่านไปไม่ถึง 2 วัน ค่ำคืนวันที่ 2 กรกฎาคม ความหวังเป็นจริง มีข่าวให้คนไทยดีใจทั้งประเทศ เสียงเฮ เสียงปรบมือดังลั่น เมื่อผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายแถลงยืนยันว่าพบทั้ง 13 ชีวิตแล้ว ทุกคนปลอดภัย ซึ่งวันเวลาตรงตามที่ครูบาบุญชุ่มลั่นวาจาไว้ สร้างความอัศจรรย์และกล่าวถึงอย่างกว้างขวาง
เมื่อย้อนประวัติของครูบาบุญชุ่ม พบเป็นพระภิกษุผู้ทรงศีล ทรงคุณวิเศษ ด้านวิปัสสนากรรมฐาน และมักจำพรรษาภายในถ้ำกลางป่า และได้รับยกย่องว่าเป็นตนบุญแห่งล้านนา เช่นเดียวกับครูบาศรีวิชัย เกิดที่ อ.แม่จัน จ.เชียงราย โดยบรรพชาเป็นสามเณร ตั้งแต่ปี 2519 อายุเพียง 11 ปี ได้รับการขนานนามว่า หน่อตนบุญ ตั้งแต่บวชเรียนยังไม่ถึงพรรษา เมื่อครบอายุบวชเป็นพระในปี 2529 และจาริกไปทั่วประเทศไทย พม่า อินเดีย เนปาล ภูฏาน และหลวงปู่โง่น โสรโย วัดพระพุทธบาทเขารวก จ.พิจิตร พระเกจิผู้เห็นนิมิตแม่นยำและระลึกชาติได้ เป็นพระอาจารย์รูปสุดท้ายที่ส่งครูบาบุญชุ่มไปบำเพ็ญเพียรที่ภูเขาหิมาลัย ประเทศเนปาล ก่อนกลับมาประเทศไทย และปัจจุบันจำพรรษาเป็นเจ้าอาวาสอยู่ที่วัดพระธาตุดอนเรือง เมืองพง รัฐฉาน จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา เป็นเวลาร่วม 20 ปี จึงเป็นที่เคารพศรัทธาของชาวพุทธหลายประเทศ ทั้งไทย ลาว เมียนมา และภูฏาน
แต่เมื่อปี 2547 ครูบาบุญชุ่มถูกรัฐบาลทหารพม่าขับออกจากประเทศ จึงกลับมาอยู่ประเทศไทย มาสร้างวัดในที่ต่างๆ หลายแห่ง รวมทั้งดอยเวียงแก้ว อ.แม่สาย จ.เชียงราย และปี 2553 มีเหตุการณ์สำคัญที่บรรดาศิษยานุศิษย์ต่างกล่าวขานถึง เมื่อครูบาบุญชุ่มได้เข้าไปบำเพ็ญเพียรภายในถ้ำวัดถ้ำราชคฤห์ อ.งาว จ.ลำปาง เป็นเวลา 3 ปี 3 เดือน 3 วัน 3 ชั่วโมง 33 นาที ไม่มีการปลงผม ไม่ฉันอาหาร และไม่รับกิจนิมนต์ แต่ฉันเพียงผลไม้ และออกจากถ้ำในวันออกพรรษา 19 ตุลาคม 2556 จนเป็นที่เลื่องลือ ได้รับความนิยมศรัทธาอย่างกว้างขวางเพิ่มมากขึ้น แม้ครูบาบุญชุ่มจะเป็นที่เลื่องลือด้านอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ แต่มีบางข้อมูลบอกว่าท่านไม่นิยมสร้างเครื่องรางของขลัง ชื่อเสียงจึงไม่เป็นที่แพร่หลายในวงกว้างมากนัก แต่การมาเยือนถ้ำหลวงของตนบุญแห่งล้านนา ครูบาบุญชุ่ม ครั้งนี้ได้สร้างปาฏิหาริย์เกิดขึ้น เมื่อพบทั้ง 13 ชีวิต ปลอดภัยตามที่ท่านกล่าวไว้ และชื่อของครูบาบุญชุ่มคงจะเป็นที่จดจำและเป็นที่กล่าวขานไปอีกยาวนาน.-สำนักข่าวไทย