กาญจนบุรี 21 มิ.ย.-ครูบาบุญชุ่ม ญาณสํวโร พระเกจิชื่อดังแห่งล้านนา พร้อมด้วยคณะศิษยานุศิษย์ กว่า 50 คน กราบร่างอดีตพระยันตระ ที่สำนักป่าสุญญตาราม อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี
เมื่อวานนี้ (20 มิ.ย.68) ที่สำนักป่าสุญญตาราม บ้านเกริงกระเวีย ตำบลปรังเผล อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี พระอนันต์ อภินนฺโท พระผู้ดูแลสำนักป่าสุญญตาราม พร้อมด้วยนายสุริยศักดิ์ เหมือนอ่วม นายอำเภอสังขละบุรี คณะสงฆ์ แม่ชี อุบาสก อุบาสิกา และพุทธศาสนิกชน กว่า 300 คน ได้มารอรับพระครูบาบุญชุ่ม ญาณสํวโร พระเกจิชื่อดังแห่งล้านนา เจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยเวียงแก้ว อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย พร้อมด้วยคณะศิษยานุศิษย์ กว่า 50 คน ซึ่งได้เดินทางมายังสำนักป่าสุญญตาราม เพื่อกราบร่างของอดีตพระยันตระ อมโรภิกขุ
โดยเมื่อเดินทางมาถึงครูบาบุญชุ่ม ได้เดินขึ้นศาลาวิปัสสนา ซึ่งเป็นสถานที่เก็บร่างของอดีตพระยันตระ โดยครูบาบุญชุ่ม ได้กราบนมัสการ พร้อมถวายพวงมาลัย ธูป เทียน ก่อนได้นำสวดมนต์ และเจริญสมาธิ เพื่อถวายแด่อดีตพระยัน พร้อมทั้งได้มอบเงินจำนวน 100,000 บาท เพื่อร่วมทำบุญในพิธีสวดพระอภิธรรมศพ และมอบเงินจำนวน 1,000,000 บาท เพื่อเป็นทุนในการจัดตั้งมูลนิธิพระอาจารย์ยันตระ อมโรภิกขุ ในการเผยแผ่พระพุทธศาสนา
สำหรับความสัมพันธ์ของอดีตพระยันตระ กับพระครูบาบุญชุ่ม นั้น พระครูบาบุญชุ่ม ได้เล่าให้คณะสงฆ์ และพุทธศาสนิกชนฟังว่า เมื่อครั้งที่ท่านบรรพชาเป็นสามเณร อายุ 12 ปีเศษ ได้ติดตามพระอาจารย์ยันตระ ธุดงค์ไปในสถานที่ต่างๆ ทางภาคเหนือ รวมทั้งในประเทศพม่า และอินเดีย ได้เห็นถึงวัตรปฏิบัติที่งดงามของครูบาอารย์ ได้รับความเมตตาในการอบรมสั่งสอน ในเรื่องวิปัสสนากรรมฐาน และพระธรรมวินัย จากพระอาจารย์ยันตระ ซึ่งหลังจากทราบข่าวการมรณภาพของท่านจึงตั้งใจจะเดินทางมาที่สำนักป่าสุญญตาราม เพื่อกราบสรีระสังขารท่านสักครั้ง แต่เนื่องจากการเดินทางที่ยากลำบาก เนื่องจากส่วนใหญ่ครูบาบุญชุ่มจะจำพรรษาอยู่ที่ประเทศเมียนมา

ก่อนเดินทางกลับครูบาเจ้าบุญชุ่ม ได้เข้าไปกราบร่างอดีตพระยันตระ ในโลงเย็นพร้อมพูดกับพระอนันต์ ว่าอาจารย์มองหน้าเราแล้วยิ้ม เหมือนท่านหลับอยู่ ทั้งนี้ ก่อนเดินทางกลับครูบาบุญชุ่ม ได้มอบวัตถุมงคล(ด้ายแดง)แก่พระอนันต์ อภินนฺโท สำหรับแจกให้กับผู้ที่ร่วมงานทุกคน พร้อมประกาศว่าในวันประชุมเพลิงพระอาจารย์เราจะมาอีกครั้ง และอาจจะอยู่ที่นี่สักระยะเวลาหนึ่ง โดยพุทธศาสนิกชนที่มาร่วมพิธีต่างร้องสาธุ ด้วยความดีใจ.-สำนักข่าวไทย