ธ.ธนชาตคาดตลาดรถยนต์ปีนี้โตร้อยละ 10 ส่งผลดีสินเชื่อเช่าซื้อไปด้วย

บุรีรัมย์ 2 ก.ค.-ธนาคารธนชาต จำกัด(มหาชน) ประเมินตลาดรถยนต์ปีนี้
จะมียอดขายเติบโตประมาณร้อยละ 10
ส่งผลบวกสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ให้ขยายตัวตามไปด้วย ตั้งเป้าหมายปล่อยสินเชื่อใหม่ในส่วนเช่าซื้อรถยนต์ขยายตัวร้อยละ
20 ในปีนี้


นายประพันธ์ อนุพงษ์องอาจ
รองกรรมการผู้จัดการสายงานธุรกิจสินเชื่อรถยนต์ ธนาคารธนชาต เปิดเผยว่า
ตลาดรถยนต์ในปี
2561 มีแนวโน้มเติบโตจากปีที่แล้ว โดยยอดขายรถยนต์ใหม่ 5 เดือนแรกปีนี้ ขยายตัวร้อยละ 18 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
และคาดว่า  ครึ่งปีหลังตลาดรถยนต์จะขยายตัวต่อเนื่อง
และภาพรวมตลอดปี
2561 คาดว่าตลาดรถยนต์ใหม่จะเติบโตประมาณร้อยละ
10 โดยมียอดขายรถยนต์รวมประมาณ 950,000 -1,000,000 คัน

ขณะที่การปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ของธนาคาร  ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2561
ธนาคารธนชาตมียอดสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์แล้ว
380,000 ล้านบาท
เพิ่มขึ้นร้อยละ
9 จากปีที่แล้ว โดยร้อยละ 70 เป็นสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ใหม่ ร้อยละ 20
เป็นสินเชื่อรถยนต์มือสอง ที่เหลือร้อยละ
10
เป็นสินเชื่อรถแลกเงิน ซึ่งในปีนี้ ธนาคารธนชาตตั้งเป้าหมายปล่อยสินเชื่อใหม่ในส่วนเช่าซื้อรถยนต์รวมประมาณ
180,000 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 20 ซึ่งหากตลาดรถยนต์ยังขยายตัวได้มาก อย่างนี้
จะทำให้การปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ขยายตัวได้ดีตามไปด้วย


อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา
ธนาคารธนชาตได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ขึ้นอีกร้อยละ0.20
ต่อปี แต่เป็นการปรับขึ้นเฉพาะในส่วนดอกเบี้ยสินเชื่อที่เป็นโปรโมชั่น
โดยเป็นการปรับขึ้นตามแนวโน้มดอกเบี้ยนโยบายที่คาดว่า
น่าจะปรับขึ้นในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้

ขณะเดียวกัน ปีนี้ธนาคารได้ปรับปรุงบริการรองรับพฤติกรรมคนรุ่นใหม่
โดยนำระบบ 
“O to O” หรือ Online to
Offline มาใช้ในสินเชื่อรถยนต์ เน้นบริการผ่านช่องทางดิจิทัลด้วยโมบายแอพพลิเคชั่น
Thanachart Connect ให้ลูกค้าสมัครขอสินเชื่อได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยจะได้รับการติดต่อกลับจากเจ้าหน้าที่เช่าซื้อรถยนต์ภายใน 2 ชั่วโมง ซึ่งธนาคารเริ่มทดลองใช้งานระบบ “O to O” เมื่อ
2 – 3 เดือนที่ผ่านมา
ซึ่งได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี


นายอนุวัติร์ เหลืองทวีกุล รองกรรมการผู้จัดการ
ธุรกิจลูกค้ารายย่อยและลูกค้าธุรกิจขนาดเล็ก ธนาคารธนชาต เปิดเผยว่า ธนาคารมีแผนปรับปรุงรูปแบบการให้บริการของสาขาในเชิงรุก
คาดว่าจะใช้เวลา 1-2 ปี ปรับเปลี่ยนการบริการไปสู่รูปแบบการให้คำปรึกษาในเชิงลึก
นำร่องพัฒนาปรับโฉมสาขาให้ทันสมัย สะดวก รวดเร็ว
ส่วนนโยบายการปิดสาขา
ธนาคารจะลดสาขาที่ไม่มีความจำเป็นเท่านั้น เช่น สาขาที่อยู่ใกล้กัน
ซึ่งมีที่มาจากการควบรวมกิจการก่อนหน้านี้ ก็จะลดมารวมเป็นสาขาเดียวกัน
โดยถ่ายโอนลูกค้าไปอยู่สาขาเดียว ซึ่งเสียงสะท้อนของลูกค้าก็ไม่มีปัญหาอะไร
เพราะเป็นสาขาทิ่อยู่ใกล้กันอยู่แล้ว
สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง