ศาลฎีกานักการเมืองฯ 21 มิ.ย.-ศาลลดโทษจำคุกชูวิทย์เหลือ 1 เดือนหลังรับสารภาพคดีปกปิดบัญชีทรัพย์สินฯ หุ้นสถานบริการ
ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองอ่านคำพิพากษาคดีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จและปกปิดข้อเท็จจริง ไม่แสดงบัญชีทรัพย์สินเมื่อพ้นจากการดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.) ครั้งที่สอง
นายชูวิทย์ให้การรับสารภาพและไม่ต้องการใช้ทนายไต่สวน แต่ยืนยันว่าไม่ได้จงใจปกปิดบัญชีทรัพย์สินตามคำร้องของป.ป.ช. แต่เนื่องจากมีทรัพย์สินจำนวนมากกว่า 500 ล้านบาทและได้แสดงบัญชีดังกล่าวต่อป.ป.ช. แต่เงินลงทุนในห้างหุ้นส่วนภัตตาคารซิงกี่มีจำนวนน้อย เพียง 1 แสน 5 บาทเท่านั้นและเป็นเรื่องเก่าตั้งแต่ปี 2546 นอกจากนี้ยังได้โอนหุ้นดังกล่าวให้กับบุคคลอื่นไปแล้ว จึงเข้าใจว่าไม่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สิน
ศาลพิเคราะห์ว่านายชูวิทย์เป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองและเคยยื่นบัญชีทรัพย์สินเมื่อครั้งดำรงตำแหน่งส.ส.ครั้ง ที่ 1 มาแล้ว จึงเชื่อว่านายชูวิทย์จะต้องรู้ว่าตัวเองมีหน้าที่ยื่นบัญชีทรัพย์สินต่อป.ป.ช.ให้ครบถ้วน และถ้อยคำของนายชูวิทย์ขัดต่อถ้อยคำของพยานที่ระบุว่าเป็นผู้รับโอนหุ้น ซึ่งยืนยันว่าแม้จะเป็นผู้ถือครองหุ้น แต่มีหน้าที่ขอต่อใบอนุญาตสถานบริการเท่านั้น จึงเชื่อว่านายชูวิทย์ มีเจตนาไม่แสดงที่มาของทรัพย์สินและหนี้สิน ซึ่งถือเป็นหน้าที่สำคัญของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งเป็นไปเพื่อตรวจสอบการทำหน้าที่ของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
ศาลพิพากษาจำคุก 2 เดือน แต่นายชูวิทย์รับสารภาพ ศาลจึงลดโทษกึ่งหนึ่งเหลือ 1 เดือน แต่การที่นายชูวิทย์เคยถูกจำคุกนานเกิน 6 เดือน อีกทั้งพ้นโทษไม่เกิน 5 ปี ทำให้ศาลไม่รอการลงโทษ นอกจากนี้ยังห้ามนายชูวิทย์ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือตำแหน่งใด ๆ ในพรรคการเมืองเป็นระยะเวลา 5 ปีนับตั้งแต่นายชูวิทย์พ้นจากตำแหน่งในวันที่ 9 ธันวาคม 2556 จากนั้นนายชูวิทย์ยื่นขอประกันตัววงเงิน 2 แสนบาท แต่ศาลไม่อนุญาต เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวนายชูวิทย์ขึ้นรถไปเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ.- สำนักข่าวไทย
