กรุงเทพฯ 20 มิ.ย. – ก.เกษตรฯ เร่งแก้ปัญหาราคาสับปะรดตกต่ำ สั่งทุกหน่วยงาน พร้อมประสานเอกชนหาช่องทางระบายผลผลิต
นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สั่งการด่วนที่สุดถึงเกษตรและสหกรณ์จังหวัดทุกจังหวัดในฐานะเลขานุการคณะอนุกรรมการพัฒนาการเกษตรและสหกรณ์ระดับจังหวัด (อพก.) ให้เร่งแก้ปัญหาราคาสับปะรดตกต่ำ รวมทั้งขอความร่วมมือหัวหน้าส่วนราชการและภาคเอกชนช่วยกันหาช่องทางระบายออกสู่ท้องตลาดหรือโรงงานแปรรูปมากที่สุด และขอความกรุณาผู้ว่าราชการจังหวัดให้เป็นประธานในการจัดกิจกรรมต่าง ๆ เช่น สนับสนุนให้ภาคเอกชนจัดรายการขายสินค้าอื่น ๆ แล้วแถมสับปะรดเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรระบาย ซึ่งมีผลผลิตออกมามากในปีนี้
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้นายกฤษฎาได้ประสานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อให้โรงงานแปรรูปเพิ่มการรับซื้อ อีกทั้งประสานกระทรวงพาณิชย์ให้ใช้งบประมาณของคณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.) เร่งกระจายผลผลิต นอกจากนี้ กรมปศุสัตว์ยังได้ทำโครงการนำร่องคิดค้นสูตรอาหารสำหรับโคเนื้อและโคนมที่ใช้สับปะรดมาเป็นวัตถุดิบ โดยเก็บถนอมไว้ในรูปสับปะรดหมัก
ด้านกรมส่งเสริมสหกรณ์ยังได้เข้ามาสนับสนุนโครงการรับซื้อสับปะรดคัดทิ้ง เพื่อแปรรูปเป็นอาหารทีเอ็มอาร์ สำหรับโคนม สนับสนุนโดยใช้งบประมาณกลางปี 2561 (ไทยนิยมยั่งยืน) ให้สหกรณ์ฯ เป็นศูนย์รับซื้อ-แปรรูป และจำหน่ายอาหารทีเอ็มอาร์ให้แก่สมาชิกสหกรณ์และเกษตรกรผู้สนใจ โดยสนับสนุนเงินกู้ 4 ล้านบาท โดยสหกรณ์โคนมไทย-เดนมาร์ค อ่าวน้อย จำกัด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์เป็นที่แรกที่แปรรูปสับปะรดเพื่อเป็นอาหารสัตว์และส่งจำหน่ายเกษตรกรผู้เลี้ยงโคเนื้อในจังหวัดกำแพงแสน 30 ตัน ตั้งแต่วันที่ 12 พฤษภาคม 2561 เป็นต้นมา
ในช่วงเดือนพฤษภาคม – มิถุนายนของทุกปีเป็นช่วงฤดูที่สับปะรดออกสู่ตลาดมากที่สุด พบว่าปี 2561 จะมีผลสับปะรดสดออกสู่ตลาดประมาณ 2.46 ล้านตัน มากกว่าปีที่แล้วถึงร้อยละ 35 ทั้ง ๆ ที่ประเทศไทยมีความต้องการบริโภคและการส่งออกสับปะรดปีละไม่เกิน 2 ล้านตันต่อปี จึงมีผลผลิตเกินความต้องการ ประกอบกับมีสับปะรดที่ไม่ได้มาตรฐานมีผลขนาดเล็ก เนื่องจากประสบปัญหาภัยแล้งและโรงงานไม่รับซื้ออีกประมาณร้อยละ 20 ของผลผลิต ซึ่งเกษตรกรจำหน่ายราคา 0.80 – 1.00 บาทต่อกิโลกรัม จึงเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ราคาสับปะรดโรงงานขณะนี้มีราคาตกต่ำ สร้างความเดือดร้อนให้แก่เกษตรกรอย่างมาก.-สำนักข่าวไทย