กรุงเทพฯ 19 มิ.ย. – ก.เกษตรฯ ส่งผู้แทนแจงยูเอสทีอาร์ ระบุไทยไม่ได้ต่อต้านนำเข้าเนื้อและเครื่องในสุกรจากสหรัฐ แต่ต้องศึกษาผลกระทบรอบด้าน
นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงการที่สมาคมผู้เลี้ยงสุกรของสหรัฐอเมริกาต้องการให้ไทยนำเข้าสุกรจากสหรัฐ ว่า ไทยไม่ได้ต่อต้าน แต่ต้องการศึกษาผลกระทบเกี่ยวกับความปลอดภัยของผู้บริโภคให้ชัดเจน เนื่องจากสหรัฐอเมริกาอนุญาตให้ใช้สารเร่งเนื้อแดงในการเลี้ยงสุกรได้ ชาวอเมริกันบริโภคเฉพาะเนื้อสุกร ขณะที่คนไทยรับประทานทั้งเนื้อ เลือด และเครื่องใน จึงจำเป็นต้องศึกษาว่าสารเร่งเนื้อแดงจะตกค้างอยู่ในระดับที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพหรือไม่ โดยวันนี้ (19 มิ.ย.) มีรองเลขาธิการสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) ร่วมกับผู้แทนกรมปศุสัตว์ไปชี้แจงต่อสำนักผู้แทนการค้าสหรัฐ (ยูเอสทีอาร์)
ด้านนายสุรชัย สุทธิธรรม นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติและนายสัตวแพทย์ปราโมทย์ ตาฬวัฒน์ นายกสมาคมสัตว์แพทย์ควบคุมฟาร์มสุกรไทย ได้เข้ายื่นหนังสือต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ผ่านนายณรงค์ พูลพิพัฒน์ รองอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เพื่อคัดค้านการนำเข้าสุกรของสหรัฐอเมริกา จากความกังวลด้านความปลอดภัยในอาหารของผู้บริโภค เพราะสหรัฐอเมริกาอนุญาตให้ใช้สารเร่งเนื้อแดงในการเลี้ยงสุกร
นายสุรชัย กล่าวว่า สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งสหรัฐอเมริกาสร้างแรงกดดันทางการค้าต่อยูเอสทีเอาร์ โดยเรียกร้องว่าหากไม่เปิดตลาดจะตัดสิทธิพิเศษทางภาษี (จีเอสพี) มีข้อน่ากังวลเกี่ยวกับการใช้สารเร่งเนื้อแดง Ractopamine ขณะที่สารดังกล่าวเป็นสารต้องห้ามตามพระราชบัญญัติควบคุมคุณภาพอาหารสัตว์ พ.ศ.2542 ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ 269) พ.ศ. 2546 กำหนดให้อาหารทุกชนิดต้องไม่พบการปนเปื้อนของสารนี้ นอกจากนี้ เกษตรกรยังประสบปัญหาราคาสุกรตกต่ำ โดยราคาสุกรเป็นหน้าฟาร์มเฉลี่ยกิโลกรัมละ 55 บาท แต่ต้นทุนการผลิตสูงถึงกิโลกรัมละ 63 บาท หากนำเข้าจากสหรัฐซึ่งมีต้นทุนต่ำกว่าเกษตรกรผู้เลี้ยงจะเดือดร้อนมากขึ้น เนื่องจากราคาจะตกต่ำลงไปกว่านี้.-สำนักข่าวไทย