วอชิงตัน 28 ต.ค.- สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐหรือยูเอสทีอาร์ (USTR) เปิดเผยตัวเลขการค้าทวิภาคีกับไทยว่า สหรัฐเป็นฝ่ายขาดดุลการค้าสินค้าให้ไทย 19,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 582,653 ล้านบาท) เมื่อปีก่อน และขาดดุลการค้าภาคบริการให้ไทย 962 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 29,046 ล้านบาท) เมื่อปี 2560
เว็บไซต์ยูเอสทีอาร์ระบุว่า ไทยเป็นคู่ค้าสำคัญและพันธมิตรของสหรัฐมาตั้งแต่สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตในปี พ.ศ.2376 ตามสนธิสัญญาไมตรีและพาณิชย์ ทั้งสองประเทศพบปะกันอย่างสม่ำเสมอตามกรอบข้อตกลงการค้าและการลงทุนทวิภาคีปี 2545 เพื่อหารือเรื่องการขยายการค้าและแก้ไขประเด็นสำคัญ เช่น ทรัพย์สินทางปัญญา ศุลกากร เกษตร ปัจจุบันไทยเป็นคู่ค้าสินค้าอันดับที่ 20 ของสหรัฐ มูลค่าการค้าสินค้าทวิภาคีปีก่อนอยู่ที่ 44,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.34 ล้านล้านบาท) สหรัฐเป็นฝ่ายขาดดุลให้ไทย 19,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 582,653 ล้านบาท) ลดลงร้อยละ 4.2 จากปี 2560 ขณะที่การค้าภาคบริการทวิภาคีอยู่ที่ 6,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 202,352 ล้านบาท) ในปี 2560 สหรัฐเป็นฝ่ายขาดดุลให้ไทย 962 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 29,046 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นร้อยละ 34.0 จากปี 2559
ปีที่แล้วไทยเป็นตลาดส่งออกสินค้าใหญ่อันดับที่ 26 ของสหรัฐ สหรัฐส่งออกสินค้ามาไทย 12,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 380,543 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นร้อยละ 14.5 จากปี 2560 เฉพาะสินค้าเกษตรไทยเป็นตลาดส่งออกใหญ่อันดับที่ 13 ของสหรัฐ สินค้าหลักได้แก่ ถั่วเหลือง ฝ้าย กากดีดีจีเอสหรือส่วนที่เหลือจากการผลิตเอทิลแอลกอฮอล์ ข้าวสาลี และอาหารสำเร็จ ส่วนไทยเป็นผู้ส่งออกอันดับที่ 16 ของสหรัฐ โดยส่งออกไป 31,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 963,438 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.4 จากปี 2560 คิดเป็นร้อยละ 1.3 ของที่สหรัฐนำเข้าทั้งหมด สินค้าเกษตรที่ไทยส่งออกหลักได้แก่ ข้าว ผักผลไม้แปรรูป ยางและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง ถั่วจากพืชยืนต้น และขนมขบเคี้ยว
สำหรับรายชื่อสินค้าไทยที่จะถูกตัดสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรเป็นการทั่วไปหรือจีเอสพี (GSP) ตั้งแต่วันที่ 25 เมษายนปีหน้า สามารถตรวจสอบได้ตามเว็บไซต์นี้ https://ustr.gov/sites/default/files/files/gsp/Products_to_be_removed_from_GSP_eligibility_for_Thailand.pdf .- สำนักข่าวไทย