ออมสินตั้งเป้าลดเอ็นพีแอลเหลือร้อยละ 2.2

กรุงเทพฯ  19  มิ.ย. – ธนาคารออมสินเดินหน้าต่อต้านทุจริตคอร์รัปชั่น ตั้งเป้าลดเอ็นพีแอลปีนี้เหลือร้อยละ 2.2  ยืนยันเปิดบัญชีธนาคารให้กับวัดต่าง ๆ โปร่งใส คาดปีนี้มีวัดร่วมเปิดบัญชีกว่า 3,000 วัด



นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการ ธนาคารออมสิน กล่าวว่า ธนาคารออมสินมีความมุ่งมั่นพัฒนาองค์กรให้มีประสิทธิภาพและความโปร่งใส ลดปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่น ซึ่งที่ผ่านมาธนาคารออมสินติด 1 ใน 5 ขององค์กรที่มีคุณธรรมสุงสุดของประเทศ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวส่งผลดีต่อภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือ รวมถึงคุณภาพการปล่อยสินเชื่อที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น เนื่องจากระบบดังกล่าวจะช่วยให้ธนาคารคัดกรองลูกค้าอย่างเป็นระบบ เพราะมีการพิจารณาอย่างตรงไปตรงมา มีคณะกรรมการอนุมัติสินเชื่อแยกจากผู้พิจารณาสินเชื่อ ทำให้มีความโปร่งใสและไม่สามารถยัดเงินใต้โต๊ะได้เหมือนที่ผ่านมา 


ทั้งนี้ การปล่อยสินเชื่อที่มีคุณภาพยังสามารถควบคุมการเกิดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ได้ดีมากขึ้นด้วย โดยปีนี้ตั้งเป้าลดเอ็นพีแอลเหลือร้อยละ 2.2 – 2.3 จากปัจจุบันร้อยละ 2.4 ถือว่าต่ำที่สุดในระบบสถาบันการเงิน ดังนั้น จึงสะท้อนว่าการมีความโปร่งใสในองค์กรจะทำให้มีการปล่อยสินเชื่อที่ดีและมีหนี้เสียในปริมาณน้อยลง

ส่วนความคืบหน้าการจัดทำโครงการเปิดบัญชีธนาคารให้กับวัดต่าง ๆ เพื่อรับบริจาคเงินผ่านระบบคิวอาร์โค้ดนั้น  นายชาติชาย กล่าวว่า ปัจจุบันธนาคารส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปสำรวจตามวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศ เพื่อเชิญชวนเปิดบัญชีรับบริจาคเงินเข้าวัดโดยตรงกับธนาคารออมสิน ซึ่งขณะนี้มีการเปิดบัญชี 2,000 วัด ส่วนใหญ่เป็นวัดขนาดใหญ่ที่มีเงินหมุนเวียนสูง ตั้งเป้าภายในสิ้นปีนี้จะมีวัดเปิดบัญชีกับธนาคารออมสินรวมไม่ต่ำกว่า 3,000 วัด หรือคิดเป็นร้อยละ 10 จากปริมาณวัดทั่วประเทศ 40,000 วัด อย่างไรก็ตาม ธนาคารออมสินยืนยันไม่ได้ควบคุมเงินวัดหรือการเดินบัญชีของวัดต่าง ๆ แต่เป็นความสมัครใจ เชื่อว่าการมีบัญชีบริจาคโดยตรงลักษณะนี้จะช่วยแก้ปัญหาเรื่องความไม่โปร่งใสและการบริหารจัดการเงินของวัดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ขณะเดียวกันผู้บริจาคยังสามารถออกใบอนุโมทนาบุญ เพื่อนำไปลดหย่อนภาษีได้ด้วย โดยธนาคารออมสินส่งรายชื่อผู้บริจาคเงินผ่านคิวอาร์โค้ดแต่ละวัดส่งให้กรมสรรพากร เพื่อออกใบอนุโมทนาบุญก่อนนำไปลดหย่อนภาษีได้ต่อไป สำหรับสลากออมสินพิเศษ 5 ปี ขณะนี้จำหน่ายไปแล้วกว่าร้อยละ 80

นายบัณฑิต นิจถาวร กรรมการผู้อำนวยการสถาบันกรรมการบริษัทไทย กล่าวว่า ปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่นในประเทศไทยเป็นปัญหาที่สั่งสมมายาวนาน และเป็นปัญหาหาเชิงระบบ ซึ่งต้องสร้างความตระหนักรู้ให้ทุกคน ภาครัฐและภาคเอกชน เห็นถึงความสำคัญเร่งด่วนในการแก้ปัญหา โดยอยากจะให้คนไทยเชื่อว่า ทุจริตคอร์รัปชั่นสามารถแก้ไขได้ โดยทุกคนต้องมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง และเริ่มต้นจากการดำเนินชีวิตประจำวันที่โปร่งใสและซื่อสัตย์ . – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้

“แพทองธาร” นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมแสดงความยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้ ขอบคุณทุกภาคส่วนผ่านการต่อสู้กับอคติกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยโอบรับความหลากหลาย และเท่าเทียม

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 20 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ฝุ่น กทม.

คนกรุงจมฝุ่นต่อเนื่อง เช้านี้อยู่ระดับสีแดง 21 พื้นที่

กทม. อ่วมหนัก ฝุ่น PM 2.5 พุ่งต่อเนื่อง อยู่ระดับสีแดง ผลกระทบต่อสุขภาพ 21 พื้นที่ ย้ำสวมหน้ากากอนามัยขณะอยู่นอกอาคาร และงดกิจกรรมกลางแจ้ง