ยะลา 11 มิ.ย.-หญิงคนหนึ่งนำรถจักรยานยนต์สตาร์ทไม่ติดไปซ่อม ช่างบอกว่า ปั๊มติ๊กเสีย ราคาประมาณพันบาท วันรุ่งขึ้นจะเอาเงินมาจ่าย พบรถถูกชำแหละทั้งคัน รวมถึงโดนเรียกค่าซ่อมเพิ่มเป็น 4,500 บาท พร้อมขู่ฆ่าถ้าไม่จ่าย
ผู้ใช้งานเฟซบุ๊กหญิงรายหนึ่งโฟสต์ข้อความ เล่าเหตุการณ์เมื่อวันที่ 8 มิ.ย.ที่ผ่านมาว่า ได้นำรถจักรยานยนต์สตาร์ทไม่ติด เข็นไปร้านซ่อมรถแห่งหนึ่ง อ.เมือง จ.ยะลา ช่างบอกว่าปั๊มติ๊ก หรือปั๊มหัวฉีดน้ำมันเสีย ถ้าจะเปลี่ยนก็ พันกว่าบาท แต่ตอนนั้นตนมีเงินแค่ 400 บาท เลยบอกช่างไปว่า เดี๋ยวพรุ่งนีจะเอาตังค์เข้ามาให้ เช้าวันรุ่งขึ้นเข้าไปที่ร้าน ก็เจอช่างกำลังแกะรถ จยย.ออกเป็นชิ้นๆ โดยช่างบอกว่าเสียหลายอย่าง พอถามราคา ช่างบอก ประมาณ 4500 กว่าบาท จึงไม่ซ่อมแล้ว ให้ช่างช่วยประกอบรถให้เหมือนเดิม โดยจะจ่ายค่าแรงให้ แต่ถูกปฏิเสธ พร้อมเรียกเงิน 3,430 บาท
อย่างไรก็ตามจึงไปแจ้งความ ที่ สภ.เมืองยะลา ร้อยเวรแนะนำให้ไปไกลเกลี่ยกัน โดยให้ สายตรวจที่อยู่บริเวณนั้น เข้าไปกับเธอ เมื่อเข้าไปถึงร้าน สายตรวจเจรจาบอกให้ประกอบรถ ซึ่งตนยินดีจะจ่าย ค่าปั๊มติ๊กตามที่ตกลงกันในตอนแรก คือพันกว่าบาท แต่ในบิลช่างเขียนมาค่าปั๊มติ๊กก็2300 บาทแล้ว ซึ่งสายตรวจได้เจรจากับว่าให้ยอมจ่าย 2300 บาท และค่าแรงช่างอีก 500 บาท แต่เรียกค่าเพิ่มอีก 500 บาท สายตรวจจึงให้ไปคุยกันที่โรงพัก
พอมาถึงโรงพัก ร้อยเวรแนะนำให้ไปหาช่างมาอีกคน เข้าไปที่ร้านซ่อมรถ เพื่อไปคุยว่าจะให้จ่ายเฉพาะอะไหล่ที่เลียจริงๆ พอช่างอีกคนเข้าไป เธอบอกว่า ช่าง 2 คนคุยกันเป็นภาษามุสลิมฟังไม่รู้เรื่อง เพิ่งมารู้ตอนหลังว่า ถูกข่มขู่ฆ่า จึงพาช่างกลับ แล้วรีบแจ้งร้อยเวร ซึ่งร้อยเวรก็บอกให้เธอไปคุยกับนิติกรที่ศาลเอง สรุปตอนนี้ แม้แต่ซากรถยังเอากลับมาไม่ได้.-สำนักข่าวไทย