สธ.30พ.ค.-สธ.หารือระเบียบกระทรวงการคลังอีกพรุ่งนี้ ขณะนี้กลุ่มแพทย์ชนบทกดดันให้ สธ.แสดงท่าที และเห็นด้วยกับการยกเลิกระเบียบกระทรวงการคลัง เนื่องจากเกรงกระทบการจ้างในอนาคต
ในการประชุมซักซ้อมความเข้าใจระเบียบกระทรวงคลัง ว่าด้วยการจ้างพนักงานหรือลูกจ้าง โดยใช้จ่ายเงินนอกงบประมาณ พ.ศ.2561 โดยมีผู้อำนวยการ รพ.ทุกระดับ และนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด รวมกว่า 600 คนเข้าร่วมประชุม ซึ่งมีการแสดงความคิดเห็นของกลุ่มแพทย์ เกี่ยวกับระเบียบกระทรวงการคลังและการแสดงออกที่นัดชุมนุมหน้ากระทรวงการคลังในวันที่ 1 มิถุนายนนี้ เพื่อคัดค้าน
นพ.เจษฎา โชคดำรงสุข ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้ (31พ.ค.)นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมตน และตัวแทนกระทรวงฯอีก 5 คน จะได้เข้าหารือร่วมกับ รมว.คลัง เพื่อหาทางออกเรื่องนี้ โดยในการประชุม ครม.เมื่อวันที่ 25 พ.ค.ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ระบุว่าระเบียบของกระทรวง การคลังในเรื่องนี้ยังไม่ชัดเจน ทำให้ตีความยากและขอให้มีการปรับปรุง ดังนั้น เชื่อว่าในการหารือระดับรัฐมนตรี ในวันพรุ่งนี้น่าจะจบได้ด้วยดี
ด้าน นพ.เกรียงศักดิ์ วัชระนุกูลเกียรติ ประธานชมรมแพทย์ชนบท กล่าวว่า ยืนยันคัดค้านระเบียบกระทรวงการคลังและขอให้มีการยกเลิก และให้มีการปรับแก้ระเบียบเงินบำรุงกระทรวงสาธารณสุข ในข้อที่ 10 เนื่องจากมีการเอาไปผูกโยงให้การจ้างงานลูกจ้างที่ต้องขออนุมัติจากกระทรวง การคลังก่อน ทำให้การจ้างงานในกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งมีความเข้าใจในเนื้องานมากกว่า ไม่ได้รับการตอบสนองอย่างตรงจุด จึงต้องการให้มีการยกเลิก 2 ข้อนี้ ซึ่งจากนี้จะดูท่าทีของที่ประชุมวันพรุ่งนี้ หากยกเลิกระเบียบก็จะยกเลิกการชุมนุมที่จะมีขึ้นที่หน้ากระทรวงการคลังและทำเนียบรัฐบาล ในวันที่ 1 มิถุนายนนี้ โดยยืนยันว่าการเรียกร้องครั้งนี้ ไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง แต่เป็นการเรียกร้องในฐานะผู้ปฏิบัติงานในกระทรวงสาธารณสุข และต้องการเห็นภาวะผู้นำของปลัดกระทรวงฯ ซึ่งจากท่าทีวันนี้ก็พอใจ
นพ.เกรียงศักดิ์ กล่าวอีกว่า ระเบียบว่าด้วยเงินบำรุงและการจ้างงานของกระทรวงสาธารณสุข มีการปรับแก้ทุกยุคทุกสมัย ตั้งแต่ปี 2518 แก้ไขปรับปรุงในปี 2536 และ29 ม.ค.2561 ทำให้ล่าสุดการจ้างงานของกระทรวงสาธารณสุข ต้องกลับไปผ่านการขออนุมัติจากกระทรวงการคลัง คาดว่าขณะนี้ลูกจ้างของกระทรวงสาธารณสุข ที่มีตั้งแต่รายวัน ,รายปี และราย 4 ปี มีรวมกว่าร้อยละ 30-40 .-สำนักข่าวไทย