พลังงานแย้มข่าวดีแนวโน้มราคาแอลพีจีเริ่มลดลง

เอ็นโก้ 24 พ.ค. – รัฐมนตรีพลังงานแย้มข่าวดีว่าสถานการณ์ราคาแอลพีจีในตลาดโลกเริ่มปรับตัวลดลง ขณะที่ กบง. เตรียมประกาศปรับลดราคาแอลพีจีลงตลาดตลาดโลกเย็นนี้


นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า สถานการณ์ราคาก๊าซแอลพีจีในตลาดโลกเริ่มปรับตัวลดลงตั้งแต่ช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา จาก 585 เหรียญสหรัฐ/ตัน เหลือ 543 เหรียญสหรัฐต่อตัน และมีแนวโน้มปรับตัวลดลงเรื่อย ๆ ซึ่งกระทรวงพลังงานจะมีการพิจารณาปรับลดราคาแอลพีจีในประเทศในการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ในช่วงเย็นวันนี้ (24 พ.ค.) โดยจะประกาศได้ว่าจะปรับลดราคาลงได้เท่าไหร่ และใช้มาตรการอย่างไร 

นอกจากนี้ ในการประชุม กบง.จะมีการพิจารณามาตรการบรรเทาผลกระทบจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น โดยยืนยันตามมาตรการที่ประกาศไปก่อนหน้านี้ คือ การรักษาระดับราคาน้ำมันดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาท/ลิตร และสนับสนุนให้ผู้ประกอบการรถบรรทุกและรถโดยสารใช้น้ำมันไบโอดีเซลบี 20 ซึ่งจะมีผลให้น้ำมันที่ภาคขนส่งใช้อยู่ในระดับ 27 บาท/ลิตร และไม่จำเป็นต้องปรับขึ้นค่าบริการ  


ส่วนความกังวลผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับค่าไฟฟ้านั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ชี้แจงว่า การผลิตไฟฟ้าในประเทศไทยส่วนใหญ่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง ซึ่งจะไม่ได้รับผลกระทบทันทีจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่จะเห็นผลในอีก 6 เดือนข้างหน้า พร้อมยืนยันว่าปีนี้จะไม่มีการปรับขึ้นค่าไฟฟ้าจากผลกระทบด้านราคาน้ำมัน ส่วนปีหน้าจะปรับขึ้นหรือไม่ ต้องดูรายละเอียดเพิ่มเติม แต่จะพยายามบริหารจัดการไม่ให้กระทบกับค่าไฟและค่าครองชีพของประชาชน

ขณะเดียวกันวันนี้มีการประชุมสัมนาเชิงปฏิบัติการซ้อมแผนรองรับสภาวะฉุกเฉินด้านพลังงาน ประจำปี 2561 โดยมีผู้บริหารหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งในสังกัดกระทรวงและภาคเอกชนเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง  สำหรับการซักซ้อมมีการจำลองสถานการณ์สมมติที่เกิดกับระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของประเทศ หรือเกิดอุบัติเหตุท่อก๊าซขัดข้องที่ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้พลังงานในภาคส่วนต่าง ๆ ในวงกว้าง โดยได้ซักซ้อมการระดมความเห็น แนวทางแก้ไข ทดสอบการประสานงานระหว่างหน่วยงาน  การสั่งการตามอำนาจหน้าที่ของแต่ละหน่วยในการแก้ไขสถานการณ์ การใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ แนวทางการตัดสินใจจากการซ้อมแผนจะนำไปสู่ข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงให้กับประเทศต่อไป.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง