ปชป.-พท.ชี้รัฐธรรมนูญปราบโกง แค่โฆษณาชวนเชื่อ

กรุงเทพฯ 16 พ.ค.- “อภิสิทธิ์-พงศ์เทพ” ชี้รัฐธรรมนูญปราบโกงแค่การตลาด โฆษณาชวนเชื่อ ไม่เปิดช่องประชาชนมีส่วนร่วม


เมื่อเวลา 09.00 น.ที่โรงแรมมิราเคิลแกรนด์คอนเวนชั่น คณะกรรมาธิการการเมือง สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) จัดสัมมนาหัวข้อ “รัฐธรรมนูญปราบโกง จะสัมฤทธิ์ผลได้จริงหรือไม่” นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา แกนนำเพื่อไทย และนายบรรเจิด สิงคะเนติ อดีตคณบดีคณะนิติศาสตร์ สถาบันพัฒนาบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ร่วมแสดงความคิดเห็น

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า การที่รัฐธรรมนูญฉบับนี้ตั้งฉายาว่ารัฐธรรมนูญปราบโกงถือเป็นการตลาดที่ดีมาก เพราะจับประเด็นการทุจริตหรือการโกงที่สังคมตั้งข้อรังเกียจในช่วงการลงประชามติรัฐธรรมนูญ แต่ตนเป็นคนหนึ่งที่ลงประชามติไม่รับรัฐธรรมนูญ เพราะเป็นห่วงว่าบทบัญญัติเกี่ยวกับการปราบปรามการทุจริตหลายเรื่องอาจจะไม่ได้ผลตามที่บอกไว้ เพราะมีทั้งส่วนที่ไปในทางบวกและส่วนที่น่าเป็นห่วง 


หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ส่วนที่น่าเป็นห่วงในประเด็นเรื่องโครงสร้าง เช่น การเอากระบวนการถอดถอนทางการเมืองออกไป ทำให้ กระบวนการตรวจสอบกลับไปสู่การอภิปรายไม่ไว้วางใจที่จบแล้วก็แล้วไป แต่ถ้าจะตั้งเรื่องสู่ ป.ป.ช. หรือส่งเรื่องไปศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ก็จะเป็นอำนาจของผู้มีอำนาจ   

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า การที่ ป.ป.ช. ต้องทำหน้าที่ปราบปรามการทุจริต และเพิ่มภาระเรื่องจริยธรรมด้วยนั้น จะทำให้การทำงานของ ป.ป.ช. ยากลำบากขึ้น เพราะการทุจริตกับเรื่องการผิดจริยธรรม แม้จะเป็นเรื่องเลวร้ายเหมือนกัน แต่ลักษณะไม่เหมือน และมาตรการดำเนินการก็ไม่เหมือนกัน ดังนั้นจะกลายเป็นการส่งจริยธรรมขึ้นสู่ระบบตุลาการ ซึ่งจะทำให้เกิดข้อโต้แย้งมากมาย และไม่ยอมรับการตัดสิน   

หาก ป.ป.ช. เป็นผู้ดำเนินการไม่ชอบเสียเอง จะต้องไปยื่นผ่านประธานรัฐสภา แต่เมื่อประธานรัฐสภามาจากฝ่ายรัฐบาล และหากเกิดการทุจริตจากฝ่ายรัฐบาล ป.ป.ช. ไม่ตรวจสอบ พอจะเล่นงาน ป.ป.ช. ประธานรัฐสภาบอกว่าไม่มีมูล  แล้วจะทำอย่างไร  


หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า วันนี้มีรัฐธรรมนูญ มาตรา 63 กำหนดให้ประชาชนมีส่วนร่วม แต่การมีส่วนร่วมของประชาชนสิ่งแรกที่จะทำได้คือการช่วยตรวจสอบทรัพยสินผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่มีการเปิดเผย แต่กฎหมายใหม่กลับกำหนดการเปิดเผยทำโดยสรุป ซึ่งไม่ทราบว่าสรุปอย่างไร แต่จะทำให้การตรวจสอบโดยสังคม และประชาชน ลดน้อยลง จึงมีคำถามว่าจะส่งเสริมให้คนไปตรวจสอบอย่างไร   

“รัฐบาลปราบโกงทั้งนั้น แต่ปราบโกงฝ่ายตรงข้าม บางชุดฝ่ายตรงข้ามไม่โกงยังยัดเยียดข้อหาให้ ซึ่งการจะวัดว่าปราบโกงจริงหรือไม่ ต้องสร้างบรรทัดฐานขึ้นมา โดยสังคมต้องมีส่วนร่วม และสามารถกดดันให้การปราบโกงเกิดขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ แต่การจะให้ประชาชนมีส่วนร่วมนั้นประชาชนควรมีสิทธิเสรีภาพ ได้รับการคุ้มครอง รวมทั้งการใช้กฎหมายในทางปิดปาก ข่มขู่สื่อมวลชน ก็เป็นอีกทางหนึ่งที่ตัดการมีส่วนร่วมของประชาชน ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าเป็นห่วงอย่างมาก” นายอภิสิทธิ์กล่าว 

ด้านนายพงศ์เทพ กล่าวว่า เวลาใช้คำว่ารัฐธรรมนูญปราบโกง เป็นการโฆษณาชวนเชื่อ การใช้คำว่าปราบโกงไม่ตรงเท่าไหร่  ต่เป็นการโกงอำนาจประชาชนมากกว่า ทั้งอำนาจในการถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และตำแหน่งสำคัญๆ และอาจจะกลายเป็นรัฐธรรมนูญส่งเสริมการโกงหรือไม่เพราะในมาตรา 279 ได้รับรองการกระทำของ คสช.ไว้ ซึ่งจะมีการยื่นตีความในอนาคตว่าการกระทำของ คสช.ทุกอย่างจะชอบด้วยกฎหมายรวมถึงเรื่องที่มีการทุจริตด้วยหรือไม่   

“ผมมองว่าการทุจริตเกิดจากผู้มีอำนาจ ดังนั้นควรจัดระบบการตรวจสอบผู้มีอำนาจอย่างกว้างขวาง รวมทั้งตรวจสอบองค์กรที่เข้าไปตรวจสอบผู้มีอำนาจด้วย เพราะปัจจุบันกลไกตรวจสอบถ่วงดุลเสียไปหมด แม้ปัจจุบันจะมีองค์กรตรวจสอบการทุจริตทั้งองค์กรอิสระ และศาล แต่ก็มาจากความเห็นชอบของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และในอนาคตก็มาจาก ส.ว.ที่มาจากการแต่งตั้งของ คสช. ดังนั้นหากคนใน คสช.เข้ามามีอำนาจอีกคนในองค์กรอิสระจะสบายใจหรือไม่ ในการตรวจสอบรัฐบาลในอนาคต”นายพงศ์เทพ กล่าว  

นายพงศ์เทพ กล่าวว่า หากจะให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม ต้องสามารถเข้าไปมีส่วนร่วมมากกว่าการชี้ช่องเบาะแส ขณะที่การกำหนดตำแหน่งยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินควรกำหนดในหลายตำแหน่ง ไม่ใช่กำหนดเพียงไม่กี่ตำแหน่งเหมือนในปัจจุบัน และควรจะเปิดเผยทุกตำแหน่งสู่สาธารณะชนให้ประชาชนสามารถเข้ามาร่วมตรวจสอบ รวมทั้งต้องปฏิรูประบบราชการเพื่อตัดขั้นตอนที่ทำให้เกิดการคอร์รัปชั่น ทั้งการใช้ดุลยพินิจซึ่งเป็นที่มาของการทุจริต หรือการหาประโยชน์ 

ด้านนายบรรเจิด กล่าวว่า รัฐธรรมนูญปราบโกงไม่ได้ เพราะรัฐธรรมนูญวางโครงสร้างและกลไก แต่ไม่ใช่ตัวปฏิบัติจึงปราบโกงไม่ได้  ดังนั้นรัฐธรรมนูญจึงทำได้อย่างเดียวคือ ป้องกันคนโกงไม่ให้เข้ามาเท่านั้น แต่รัฐธรรมนูญฉบับนี้กลับให้น้ำหนักไปที่มาตรการปราบปรามการทุจริตอย่างเดียว และไม่เปิดช่องให้กลไกทางการเมืองทำหน้าที่ ทำให้ทุกเรื่องถูกโยนมาจบที่องค์กรอิสระ ทั้งที่การปราบปรามการทุจริตอยู่ที่ว่าจะทำอย่างไรให้กลไกมีประสิทธิภาพ   

นายบรรเจิด กล่าวว่า ตนเห็นว่าเบื้องต้นควรเริ่มลงโทษทางวินัย ต่อมาใช้มาตรการทางแพ่ง และท้ายสุดจึงค่อยดำเนินการทางอาญา ไม่ใช่อย่างในปัจจุบันที่เอาทุกอย่างไปผูกไว้กับ ป.ป.ช. นอกจากนี้ยังเห็นด้วยกับมติคณะรัฐมนตรีเมื่อ 2-3 เดือนก่อน   ที่ระบุว่า หากเกิดการทุจริตในหน่วยงานราชการ ต้องดำเนินการสอบสวนภายในเวลากำหนด ซึ่งมตินี้ควรต้องพัฒนาเป็นกฎหมาย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพทางการปราบปรามการทุจริตด้วย   ดังนั้นประสิทธิภาพการลงโทษ คือหัวใจสำคัญของการปราบปรามการทุจริต .-สำนักข่าวไทย  

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

“เท้ง” เมินออปชันสุดท้ายเพื่อไทย มั่นใจ สส.ปชน.ไม่แตกแถว ย้ำไม่มีฟรีโหวต

รัฐสภา 4 ก.ย.- “เท้ง” ลั่น ไม่เสียดาย-ไม่ทบทวนมติโหวต “อนุทิน” นั่งนายกฯ เมินออปชันสุดท้ายเพื่อไทย ซัดไม่จริงใจ-ปล่อยข่าวชิงการเมือง มั่นใจ สส.พรรคประชาชน ไม่แตกแถว-ไม่มีฟรีโหวต นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ปฏิเสธกรณีที่มีกระแสข่าวความเห็นต่างภายในพรรคฯ ต่อการลงมติเลือกนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นนายกรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้ (5 ก.ย.) ว่า ไม่ได้มีความเห็นที่แตกต่างกันภายในพรรค และเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา จนถึงตลอดทั้งวัน ก็มีความชัดเจนแล้วว่า พรรคเพื่อไทย ยุติกระบวนการยุบสภา และเดินหน้าเสนอชื่อนายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ให้ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร พิจารณาเป็นนายกรัฐมนตรี พร้อมย้ำว่า กระบวนการตัดสินใจของพรรคประชาชน สิ้นสุดลงตั้งแต่คณะกรรมการบริหารพรรคฯ แถลงข่าว และลงนามร่วมกับพรรคภูมิใจไทยแล้ว ส่วนข้อเสนอไพ่ใบสุดท้ายของพรรคเพื่อไทย ที่จะยุบสภาทันทีหากนายชัยเกษม ได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภานั้น หัวหน้าพรรคประชาชน ระบุว่า ถ้ามีการเสนอมาก่อนหน้านี้ และมีการพูดคุยอย่างเป็นทางการ ก่อนพรรคฯ จะมีมติ ตนเชื่อว่า ตน และสส.ภายในพรรค จะรับไว้พิจารณา แต่กระบวนการที่ผ่านมา ยังคงมีการให้ข่าวกลับไป […]

ทบ.ชี้กัมพูชายั่วยุละเมิดข้อตกลง เกณฑ์คนประท้วงบ้านหนองจาน

4 ก.ย.- ทบ. เผยกรณีชาวกัมพูชาประท้วงที่บ้านหนองจาน ชี้เป็นการยั่วยุละเมิดข้อตกลงหยุดยิง กองกำลังบูรพาพร้อมตำรวจควบคุมฝูงชนเตรียมกำลังเพื่อป้องกันอธิปไตยและการกระทำผิดกฎหมาย วันนี้ (4 ก.ย.68) กองทัพบกได้รับรายงานจากศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 1 ว่าพบประชาชนชาวกัมพูชาประมาณ 150 คน เข้ามารวมตัวประท้วงแสดงความไม่พอใจในบริเวณใกล้กับหลักเขตแดนที่ 46 บ้านหนองจาน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ยังอยู่ในพื้นที่อ้างสิทธิ์ โดยพบว่าประชาชนบางส่วนมีลักษณะพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม แสดงท่าทียั่วยุเจ้าหน้าที่ พกพาไม้เป็นอาวุธ และบางรายมีลักษณะเป็นแกนนำของมวลชน ซึ่งสังเกตได้จากการใช้และพกพาวิทยุสื่อสารประจำตัว พร้อมพบว่ามีทหารกัมพูชาคอยสังเกตการณ์และร่วมอยู่ในกลุ่มมวลชนชาวกัมพูชาด้วย ซึ่งตั้งแต่เกิดเหตุ ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 1 โดยกองกำลังบูรพา ได้จัดกำลังพลร่วมกับชุดควบคุมฝูงชนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจภูธรสระแก้ว เข้าควบคุมสถานการณ์ พร้อมเตรียมดำเนินการกับกลุ่มผู้ประท้วง หากพบว่ามีการรุกล้ำอธิปไตยไทยและกระทำผิดกฎหมายในทันที ล่าสุด พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่าเมื่อเวลา 13.30 น. กองกำลังบูรพาได้รายงานเพิ่มเติมว่าทางกัมพูชามีการเกณฑ์ประชาชน ทั้งจากนอกพื้นที่ และที่สัญจรผ่านไปมา เข้ามาร่วมประท้วงและแสดงท่าทียั่วยุต่อทหารไทยในพื้นที่เพิ่มเติม ซึ่งการกระทำในครั้งนี้ ถือเป็นการละเมิดต่อข้อตกลงหยุดยิงที่ทั้งไทยและกัมพูชาได้มีมติเห็นพ้องร่วมกันในการดำเนินการ จากการประชุม GBC และ RBC ที่ผ่านมา รวมทั้งโฆษกกองทัพบกได้ย้ำว่า […]

“ภูมิธรรม” โพสต์แจง 2 ฉบับ ย้ำเจตนารมณ์รัฐบาลคืนอำนาจให้ ปชช.

กทม. 4 ก.ย.- “ภูมิธรรม” โพสต์ข้อความชี้แจง 2 ฉบับ “เพื่อความกระจ่างชัดเรื่องการยุบสภา – เดินหน้าตามครรลองประชาธิปไตย” นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊กชี้แจง 2 ฉบับ “เพื่อความกระจ่างชัดเรื่องการยุบสภา – เดินหน้าตามครรลองประชาธิปไตย” โดยฉบับที่ 1 ระบุว่า “เพื่อความกระจ่างชัดเรื่องการยุบสภา” ในช่วงที่การเมืองยังสับสน ผมขอเรียนชี้แจงให้เกิดความกระจ่างชัดในประเด็นร่างพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎรดังนี้ รัฐบาลได้ดำเนินการจัดทำร่างพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร และส่งให้สำนักงานองคมนตรีพิจารณาแล้วเมื่อเย็นวันที่ 2 กันยายน 2568 ต่อมาได้รับแจ้งจากสำนักงานองคมนตรี ว่ายังมีประเด็นข้อกฎหมายที่มีการโต้แย้งและยังไม่เป็นข้อยุติ โดยเฉพาะประเด็นอำนาจของรองนายกรัฐมนตรีผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรีในการถวายคำแนะนำ จึงยังไม่เห็นสมควรนำร่างพระราชกฤษฎีกาขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายในเวลานี้ รัฐบาลเคารพในขั้นตอนและหลักนิติธรรมทุกประการ และจะนำกลับมาทบทวนและพิจารณาเพื่อให้เกิดความเหมาะสมถูกต้อง แต่ขอย้ำชัดว่า เจตนารมณ์ของรัฐบาลคือการคืนอำนาจให้ประชาชนโดยเร็วที่สุด จากนั้นได้โพสต์ ฉบับที่ 2 “เดินหน้าตามครรลองประชาธิปไตย” ระบุ เมื่อพรรคประชาชนได้แสดงจุดยืนชัดเจนว่าจะโหวตสนับสนุนพรรคภูมิใจไทย และมีการบรรจุวาระเลือกนายกรัฐมนตรีแล้ว ทุกพรรคการเมืองต้องแสดงความรับผิดชอบต่อการตัดสินใจของตน ให้ประชาชนได้เห็นว่ากลไกสภายังคงทำงานตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ สำหรับพรรคเพื่อไทย เราพร้อมเสนอชื่อศาสตราจารย์ชัยเกษม นิติสิริ เป็นนายกรัฐมนตรี และขอยืนยันต่อประชาชนว่า หากเราได้รับเสียงสนับสนุน […]

ชาวกัมพูชาลุกฮือประชิดชายแดนบ้านหนองจาน

4 ก.ย. – สระแก้วตึงเครียด! ชาวกัมพูชาลุกฮือประชิดชายแดนบ้านหนองจาน หลังไทยปักป้ายประกาศให้ออกจากพื้นที่ ขณะที่จังหวัดสุรินทร์ เจ้าหน้าที่พบหลักฐานชิ้นสำคัญลูกเหล็กสะเก็ดระเบิด “Ball Bearing” ในบ้านประชาชนเหยื่อจรวด BM-21 สถานการณ์ล่าสุดบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา บ้านหนองจาน ตำบลโนนหมากมุ่น อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว หลังจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทย นำโดยกำลังทหาร กรมป่าไม้ ตำรวจตระเวนชายแดน และฝ่ายปกครองในพื้นที่ ได้ร่วมกันติดตั้งป้ายประกาศ 3 ภาษา (ไทย–อังกฤษ–เขมร) เพื่อแจ้งเตือนให้ชาวกัมพูชาที่บุกรุกเข้ามาในพื้นที่เขตไทย ออกจากบริเวณดังกล่าวโดยทันที หากฝ่าฝืนจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากกระทำในพื้นที่เกินกว่า 25 ไร่ ต้องระวางโทษจำคุก ตั้งแต่ 2 ปี ถึง 15 ปี และปรับตั้งแต่ 10,000 ถึง 100,000 บาท ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป การติดตั้งป้ายดังกล่าว ทำให้กลุ่มชาวกัมพูชาที่อาศัยอยู่บริเวณแนวชายแดนไม่พอใจ และได้รวมตัวกันจำนวนหนึ่ง เคลื่อนเข้ามาใกล้แนวชายแดนฝั่งไทย […]