ย้อนรอยคดี “เปรี้ยว” และเพื่อน ฆ่าหั่นศพ “แอ๋ม”

กทม. 10 พ.ค.-ย้อนรอยคดี “เปรี้ยว” และเพื่อน ฆ่าหั่นศพ “แอ๋ม” เมื่อปี 60 


คดีฆ่าหั่นศพ “น้องแอ๋ม” ตกเป็นข่าวดังทันที เมื่อวันที่ 25 พ.ค.2560 ชาวบ้านในพื้นที่ บ.โนนสง่า ม.9 ต.คำม่วง อ.เขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น พบศพสาวถูกฆ่าหั่นแยกออกเป็น 2 ท่อน จากนั้นมือฆ่าได้นำศพฝังดิน ขณะนั้นยังไม่มีใครทราบว่าผู้ตายคือใคร ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวน ก่อนทราบว่า ผู้ตายคือ น.ส.วาริสรา กลิ่นจุ้ย หรือแอ๋ม อายุ 23 ปี ทำงานอยู่ร้านคาราโอเกะแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.ขอนแก่น เบื้องต้นหลังพบศพเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งปมในการสังหารไว้คือ ขัดแย้งส่วนตัว เรื่องชู้สาว รวมไปถึงลวงฆ่าเพื่อชิงทรัพย์ 


และช่วงเช้าของวันที่ 29 พ.ค.60 ศาลจังหวัดขอนแก่นได้อนุมัติออกหมายจับผู้ต้องหาในคดีฆ่าหั่นศพน้องแอ๋ม ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และปิดบังซ่อนเร้นทำลายศพ โดยผู้ถูกกล่าวหาเป็นชาย 1 คน หญิง 3 คน ประกอบด้วย นายวศิน อายุ 22 ปี , น.ส.จิดารัตน์อายุ 21 ปี , น.ส.ปรียานุช  อายุ 24 ปี และ น.ส.กวิตา อายุ 25 ปี

และช่วงเย็นของวันที่ 29 พ.ค. นายวศิน 1 ในผู้ต้องหา ได้ติดต่อเข้ามอบตัวกับตำรวจ ที่ กองบังคับการตำรวจภูธร จ.อุดรธานี จากการสอบสวนนายวศินให้การเบื้องต้นว่ารู้เห็นกับการฆาตกรรมจริง โดยซัดทอด น.ส.ปรียานุช หรือ เปรี้ยว เป็นผู้ลงมือฆ่าและทำลายศพ โดยก่อนเกิดเหตุไปเช่ารถซีอาร์วีมาให้ตนเป็นคนขับ จากนั้นได้ลักพาตัวน้องแอ๋ม โดยระหว่างทาง น.ส.เปรี้ยวได้ใช้ถุงพลาสติกคลุมหัวน้องแอ๋มแล้วซ้อม ซึ่งน้องแอ๋มก็พูดออกมาว่า ซ้อมเลย ถ้ารอดไปได้จะมาเอาคืน ปรากฏว่า น.ส.เปรี้ยวซ้อมและบีบคอน้องแอ๋มจนขาดใจตายบนรถ นายวศินระบุ เปรี้ยวบอกให้พาไปยังที่ดินของตนเองใน อ.เขาสวนกวาง เพื่อนำศพน้องแอ๋มไปทิ้ง ระหว่างทางได้ซื้ออุปกรณ์พวก เลื่อย ใบมีด ถุงพลาสติก ปูนซีเมนต์ และเสียม ตามร้านขายวัสดุก่อสร้าง ส่วนผู้ที่ลงมือหั่นศพคือ น.ส.เปรี้ยว ตนเองไม่ได้ทำ เพียงแค่มีหน้าที่ขับรถให้เท่านั้น ก่อนจะขับรถไปที่รีสอร์ต ในพื้นที่บ้านโนนทัน ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น แล้วลงมือหั่นศพแอ๋มด้วยตัวเอง ส่วนสาเหตุมาจาก น.ส.เปรี้ยวมีความแค้นส่วนตัวกับน้องแอ๋ม โดย น.ส.เปรี้ยวอ้างว่าน้องแอ๋มเป็นสายชี้เป้ากับตำรวจให้จับกุม เปรี้ยวในคดียาเสพติด เมื่อมีโอกาสจึงคิดแก้แค้น


ตำรวจ สภ.แม่สาย จ.เชียงราย ประสานข้อมูลทางการพม่า พบว่า 24 พฤษภาคม 2560 น.ส.จิดารัตน์ โทร.ไปหาเจ้าของร้านโอโซนคาราโอเกะ เมืองท่าขี้เหล็กซึ่งเป็นคนไทยขอกลับมาทำงาน จากนั้น 25 พฤษภาคม 2560 น.ส.ปรียานุช, น.ส.กวิตา และ น.ส.อภิวันท์ นั่งเครื่องบินจากกรุงเทพฯ ไปลงสนามบินแม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย ก่อนนั่งรถแท็กซี่ไปชายแดน อ.แม่สาย นายเก๋สั่งลูกน้องนำรถไปรับเข้าทำงาน

ก่อนที่วันที่ 3 มิ.ย.60  เจ้าหน้าที่ฝ่ายเมียนมาสามารถจับกุมตัว 3 ผู้ต้องคดีฆ่าหั่นศพได้ และนัดส่งมอบตัวกันที่กลางสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 1 อ.แม่สาย จ.เชียงราย โดย ผวจ.ท่าขี้เหล็กนำคณะมาส่งให้ด้วยตัวเอง ประกอบด้วย เปรี้ยว, เอิร์นและแจ้  โดยหลังจับตัวได้ พลเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร นำทั้งหมดมาสอบปากคำด้วยตัวเองที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ 

เป็นข่าวดัง หลังมีคลิปหลุด เปรี้ยวเอิร์น ถูกขุดคุ้ยที่มาที่ไปกันอย่างต่อเนื่อง สำหรับ เปรี้ยว หรือ น.ส.ปรียานุช โนนวังชัย และ น.ส.กวิตา ราชดา หรือเอิร์น 2 เพื่อนสนิท ที่ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีฆาตกรรมหั่นศพ “น้องแอ๋ม” น.ส.วริศรา กลิ่นจุ้ย อายุ 22 ปี อย่างโหดเหี้ยม ล่าสุดชาวโซเชียล ยังขุกคุ้ยเรื่องราวเกี่ยวกับที่ 2 สาว ไลฟ์สดผ่านทางเฟซบุ๊ค ด้วยสีหน้า ท่าทางสดชื่น ในช่วงเวลาที่ก่อนจะก่อเหตุด้วย ซึ่งหลังมีการเผยแพร่ก็ถูกชาวเน็ตวิพากษ์วิจารณ์ไปต่างๆนาๆ และหากตรวจสอบที่เฟซบุ๊กส่วนตัวของเปรี้ยว จะพบว่ามีการไลฟ์สดจากต่างประเทศบ่อยครั้ง โดยครั้งหนึ่ง เปรี้ยวเคยพูดผ่านไลฟ์เฟซบุ๊กหลังร้องเพลง ผู้สาวขาเลาะ ของลำไย ไหทองคำ ด้วยว่า “ปล่อยหัวใจไปแล้วนะคะ ใครก็ได้ช่วยรับที เป็นเด็กบ้านนอก ใสๆ ซื่อๆ ไม่มีฤทธิ์ไม่มีเดช”

นอกจากนี้ในคืนเกิดเหตุ อภิรักษ์ ชัชอานนท์ หรือ “เสี่ยโป้ อานนท์” คนเคยสนิทเปรี้ยว ได้เล่าว่า ตนรู้จักเปรี้ยวมาได้ 1 เดือนแต่เป็นช่วงก่อนเกิดเหตุฆ่าน้องแอ๋ม บางครั้งเปรี้ยวก็ถ่ายหน้าอก ถ่ายอวัยวะเพศให้ดู หรือบางครั้งส่งเสียงครางมาเพื่อให้ตนมีอารมณ์และให้ไปหา อภิรักษ์บอกต่อว่าช่วงวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา เปรี้ยวส่งคลิปสั้นๆ 1 วินาทีมาให้ โดยเป็นคลิปที่เปรี้ยวนั่งอยู่ภายในรถ ก่อนส่งข้อความมาว่า ส่งผิด และก็โทรศัพท์มาหาตนแต่ไม่ได้รับเพราะจังหวะนั้นอยู่กับภรรยา หลังจากนั้น พอตนเห็นข่าวเปรี้ยวครั้งแรกก็ตกใจ ไม่เคยทราบมาก่อนว่าเปรี้ยวมีพฤติกรรมที่โหดเหี้ยมขนาดนี้

ทำแผนเปรี้ยว ผู้สื่อข่าวเกาะติดตั้งแต่เช้า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น พร้อมด้วยตำรวจจากสำนักงานตำรวจภูธรภาค 4 ได้นำตัว นางสาวปรียานุช โนนวังชัย หรือ เปรี้ยว พร้อมเพื่อน นางสาวเอิร์น และ นางสาว แจ้ มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ หลังจากเมื่อคืนนี้มีการสอบปากคำทั้งคืน ที่สภ.เขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น รวม 6 จุด โดยมีประชาชนมารอตั้งแต่ช่วงเช้าแล้ว ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัย ซึ่งเจ้าหน้าที่ปิดกั้นเส้นทางระหว่างบ้านโนนสง่าและบ้านคำม่วง ไม่ให้รถผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้ามาบริเวณโดยรอบ นอกจากนี้มีทั้งตำรวจ ชุดควบคุมฝูงชนกู้ภัยสว่าง และอส.ตร. มาอำนวยความสะดวก ซึ่งการทำแผนในครั้งนี้มียายของน้องแอ๋มมาเฝ้ารอดูการทำแผนด้วย 

เมื่อวันที่ 6 มิ.ย.60 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) มีรายงานว่า พล.ต.ต.บัณฑิต ตุงคะเศรณี ผู้บังคับการตำรวจคนเข้าเมือง5 (ผบก.ตม.5) ลงนามในคำสั่ง ให้ พ.ต.ท.ฤทธิไกร กะระกล รองผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดเชียงราย และ ร.ต.อ.ธวัชศิลป์ บุญตันหล้า รองสารวัตรตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดเชียงราย ปฏิบัติราชการที่ ศปก.ตม.5 ทั้งนี้สืบเนื่องจากสังคมออนไลน์นำภาพเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดเชียงราย ภาพการปฏิบัติหน้าที่ไว้ไปเผยแพร่จนมีการตั้งข้อสังเกตถึงความไม่เหมาะสมในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองเชียงราย การปรากฏภาพของตำรวจทั้ง 2 นาย ส่งผลให้เสื่อมเสียภาพลักษณ์ของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

ภาพเจ้าปัญหาดังกล่าวเป็นภาพถ่ายคู่ ของตำรวจทั้งสอง คู่กับนางสาวปรียานุช โนนวังชัย หรือเปรี้ยว ผู้ต้องหาคดีฆ่า หั่นอำพรางศพ ระหว่างที่ผู้ต้องหาถูกควบคุมตัวที่กองกำกับการตรวจคนเข้าเมืองเชียงราย ในอิริยาบถสนุกสนานยิ้มแย้มแจ่มใส 

ล่าสุด 23 มีนาคม 61 เป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อีกครั้ง เมื่อมีแชทหลุดของ”เปรี้ยว” ผู้ต้องหาคดีฆ่าหั่นศพ”น้องแอ๋ม” ซึ่งถูกควบคุมตัวอยู่ที่เรือนจำกลางจังหวัดขอนแก่น แต่ล่าสุดกลับมีการเผยแชทหลุดผ่านโปรแกรมแมสเซ็นเจอร์ของเฟซบุ๊กระหว่างเปรี้ยวกับเพื่อนสนิท โดยมีการโชว์ภาพล่าสุดของเปรี้ยวซึ่งตัดผมสั้น เซลฟี่กันในเรือนจำแล้วส่งให้เพื่อนๆดู โดยเปรี้ยวยังบอกให้เพื่อนๆ เขียนจดหมายมาหาเพราะคิดถึงมาก โดยให้ที่อยู่เป็นเรือนจำกลางจังหวัดขอนแก่น เปรี้ยวยังบอกเพื่อนๆ ว่า “ขอบคุณที่ไม่รังเกียจฆาตกรอย่างเค้า” เพื่อยังปลอบว่าไม่เป็นไร เดี๋ยวได้อภัยโทษ แต่เปรี้ยวกลับบอกว่า “ประหารมั้ง”

อีกทั้งยังได้มีแช็ตหลุดการสนทนาระหว่าง “เปรี้ยว” กับคนที่ชื่อว่า “เชค” ที่คาดว่าเป็นเพื่อนชายคนสนิท บอกว่า “เปรี้ยวไม่เคยลืมเชค” อีกทั้งคนที่ชื่อ “เชค” ยังได้พิมพ์มาอีกว่า ใจเปรี้ยวแข็งมาก พี่ยอมรับ ทุกอย่างจะผ่านไปได้ด้วยดี โดย เปรี้ยว ได้พิมพ์ตอบกลับไปว่า “ที่สุดอ้ะ แข็งไม่สู้อันนั้นเชคหรอก น้ำหอมที่ให้ใช้หมดยัง เก็บขวดไว้ด้วยนะ ถ้าเปรี้ยวได้ออกจะไปเอาขวดคืน จะเอามาทำโจ๋”.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

กระดูกเทียมไทเทเนียม นวัตกรรมไทยช่วยทหารกล้าชายแดน

กรุงเทพฯ 16 ส.ค.-สินค้า IP ไทยสุดเลิศ ผลิตกระดูกเทียมและอุปกรณ์ช่วยผ่าตัด ช่วยเหลือทหารแนวหน้าที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ต่อยอดส่งออกสร้างรายได้ให้กับประเทศไทยในระยะยาว นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กรมทรัพย์สินทางปัญญา ร่วมกับบริษัท เมติคูลี่ จำกัด ผู้ผลิตกระดูกเทียมและอุปกรณ์ช่วยผู้ป่วยผ่าตัด ช่วยเหลือทหารแนวหน้าที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา จำนวน 4 ราย ซึ่งรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี และโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าตามลำดับ เพื่อให้ทหารกล้าของไทยฟื้นฟูสภาพร่างกายให้กลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดีโดยเร็ว “ความร่วมมือครั้งนี้ เริ่มจากกระทรวงพาณิชย์ลงพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานีเยี่ยมผู้ประสบภัย ชายแดนไทย–กัมพูชา เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2568 จากนั้นได้ประสานกับ เมติคูลี่ ซึ่งได้รับเลือกจากกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ ให้เป็น IP Champion ในสาขาสิทธิบัตรการประดิษฐ์ประจำปีนี้ มอบแผ่นปิดกะโหลกเทียมไทเทเนียมออกแบบเฉพาะบุคคล และกระดูก มือเทียมไทเทเนียมเฉพาะบุคคลให้ทางโรงพยาบาลเพื่อให้นายทหารที่ผ่านการผ่าตัดเปิดกะโหลกศีรษะ 3 ราย และผ่าตัดข้อมือ 1 ราย ได้รับการรักษาที่มีความแม่นยำสูง ด้วยการออกแบบกระดูกที่มีขนาดจำเพาะกับสรีระผู้ป่วย ทำให้ผู้ป่วยฟื้นฟูร่างกายได้ดีขึ้น และสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้อย่างปกติ โดยกระทรวงฯ ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากกองบัญชาการกองทัพภาคที่ 2” […]

“นราธิวาส” จับยาไอซ์ลอตใหญ่ 900 กก. ซุกรถขนผัก

กทม.16 ส.ค.-“ภูมิธรรม” เผย “นราธิวาส” จับยาไอซ์ลอตใหญ่ 900 กก. ซุกรถขนผัก สั่งการเร่งขยายผลต่อเนื่อง พร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากว่าที่ร้อยตรี ตระกูล โทธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ว่าจากการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล ที่มุ่งปราบปรามยาเสพติดอย่างเด็ดขาด ในวันนี้ทางจังหวัดนราธิวาสร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ได้มีการแกะรอย และตรวจค้นรถกระบะที่มีการลักลอบขนส่งยาเสพติด บริเวณอำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส สามารถตรวจจับยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) ซุกซ่อนอยู่ในรถกระบะขนผัก จำนวน 30 กระสอบ น้ำหนักรวมประมาณ 900 กิโลกรัม และได้ทำการควบคุมตัวตัวผู้ต้องหาไว้ได้แล้ว นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า ตนได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม และนายเดชอิศม์ ขาวทอง รมช.มหาดไทย ลงพื้นที่จังหวัดนราธิวาส เพื่อติดตามการดำเนินงานและร่วมแถลงผลการจับกุมในวันที่ 16 ส.ค.นอกจากนี้ยังได้ให้กำลังใจผ่านผู้ว่าราชการจังหวัด ไปยังเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทุกท่านที่ทำหน้าที่อย่างเข้มข้น ตั้งใจ จนสามารถจับกุมกรณีการลักลอบขนส่งยาเสพติดล็อตใหญ่นี้ได้ และได้ให้ติดตามเพื่อขยายผลการจับกุมต่อไป.-319.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลย้ำเกษตรกรเร่งขึ้นทะเบียน-ปรับปรุงข้อมูลทางทะเบียน รับเงินช่วยเหลือ

ทำเนียบฯ 16 ส.ค. – รัฐบาลย้ำเกษตรกรเร่งขึ้นทะเบียนและปรับปรุงข้อมูลทางทะเบียนปีการผลิต 2568/69 พร้อมรอรับเงินช่วยเหลือตามนโยบายรัฐบาล นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) เห็นชอบโครงการพัฒนาศักยภาพการผลิตข้าวของเกษตรกรปลูกข้าวปีการผลิต 2568/69 และนาปรังปีการผลิต 2568 โดยจะจ่ายเงินช่วยเหลือชาวนา ไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 10 ไร่ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากปัญหาต้นทุนการผลิตสูงและราคาข้าวที่ตกต่ำ ซึ่งเกษตรกรที่ทำนาปรังและนาปี จะได้รับเงินหลังจากลงทะเบียนและตรวจสอบสิทธิแล้วเสร็จ ทั้งนี้ คาดว่าจะเกษตรกรที่ทำนาปรังจะได้รับเงินเร็วที่สุดภายในเดือนกันยายน 2568 ส่วนเกษตรกรที่ทำนาปี จะได้รับในช่วงปลายปีนี้ หรือต้นปีงบประมาณ 2569 รัฐบาลโดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ขอเชิญชวนเกษตรกรทั่วประเทศ เร่งดำเนินการขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร ประจำปีการผลิต 2568/69 โดยเกษตรกรสามารถขึ้นทะเบียนเกษตรกรผ่านช่องทางการบริการของรัฐโดยไม่มีค่าใช้จ่ายดังนี้ วิธีที่ 1 แจ้งกับเจ้าหน้าที่ สำหรับเกษตรกรรายเดิม แปลงเดิม สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่สำนักงานเกษตรอำเภอทุกแห่ง หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีความพร้อม และร่วมเป็นหน่วยสนับสนุนที่เกษตรกรมีพื้นที่การเกษตรอยู่ รวมถึงแจ้งข้อมูลผ่านผู้นำชุมชนหรือตัวแทนอาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน (อกม.) หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย ส่วน เกษตรกรรายใหม่ และรายเดิม แต่เพิ่มแปลงใหม่ […]

“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท

รัฐสภา 15 ส.ค.-“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง ผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจ หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท ตั้งคำถามหลายรัฐวิสาหกิจมีผลกำไรดี จะมาตั้งของบอีกทำไม นายวีระ ธีระภัทรานนท์ ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ในเรื่องของรัฐวิสาหกิจ ว่า ในเอกสารงบประมาณที่เป็นงบประมาณรายจ่าย มาตรา 29 มีรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งของบประมาณรวมกันทั้งสิ้น 79,298 ล้านบาท แต่ค่าใช้จ่ายของรัฐวิสาหกิจทั้งหมด 1.43 แสนล้านบาท ซึ่งในรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งที่ของบประมาณมาตนไม่ค่อยติดใจ เพราะมีรัฐวิสาหกิจจำนวนหนึ่งไม่มีรายได้ อีกส่วนเป็นรัฐวิสาหกิจมีรายจ่ายมากกว่ารายได้ บางรัฐวิสาหกิจมีหนี้สินจำนวนมาก เช่น ขสมก. การรถไฟแห่งประเทศไทย นายวีระ ฝากไปถึงคนที่ต้องจัดการรัฐวิสาหกิจว่า รัฐวิสาหกิจที่มีปัญหารัฐบาลต้องตัดสินใจให้เด็ดขาดว่า รัฐวิสาหกิจเหล่านั้นคงอยู่ต่อไปในสภาพแบบนั้น หรือ จะดำเนินการแปรรูปให้เอกชนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เพื่อไม่ให้เกิดภาระการคลังในอนาคตอย่างที่เป็นอยู่ปัจจุบัน สำหรับกรณี บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งประสบความสำเร็จในการฟื้นฟูกิจการ โดยที่รัฐบาลยังถือหุ้นใหญ่อยู่ประมาณ 40% แต่ไม่มีสถานะภาพเป็นรัฐวิสาหกิจอีกต่อไป […]

ข่าวแนะนำ

กต.โต้ท่าทีกัมพูชา ปมทุ่นระเบิดสังหารบุคคล

กรุงเทพฯ 17 ส.ค. – โฆษก กต. โต้ 4 ข้อ เกี่ยวกับท่าทีของฝ่ายกัมพูชา ปมทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ตามที่มีการสอบถามเกี่ยวกับท่าทีของฝ่ายกัมพูชาที่ออกมาแถลงในประเด็นทุ่นระเบิดสังหารบุคคลในช่วงที่ผ่านมานั้น นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ชี้แจงเพิ่มเติม ดังนี้ 1. เป็นที่น่าเสียดายที่กัมพูชาไม่รับข้อเสนอของไทยในการร่วมเก็บกู้ทุ่นระเบิด ในการประชุม RBC ระหว่างกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด กับกองบัญชาการภูมิภาคทหารที่ 3 ของกองทัพบกกัมพูชา เมื่อวานนี้ (16 ส.ค.68) โดยฝ่ายกัมพูชาระบุว่าต้องขึ้นอยู่กับพัฒนาการของการดำเนินการตามข้อตกลงหยุดยิง ตลอดจนเสนอให้มีความร่วมมือเฉพาะในบริเวณที่มีการปักปันเขตแดนแล้วเสร็จก่อน 2. ท่าทีของกัมพูชาดังกล่าว เป็นท่าทีที่ย้อนแย้งกันอย่างชัดเจน โดยกัมพูชาอ้างว่าให้ความสำคัญกับการเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรม แต่กลับสร้างเงื่อนไขและปล่อยให้อาวุธร้ายแรงเช่นนี้ยังคงอยู่และถูกนำไปใช้ ถือเป็นการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงของ GBC อย่างชัดเจน และไม่ให้ค่ากับชีวิตและความปลอดภัยของมนุษย์ที่เป็นพี่น้องประชาชนของทั้งสองประเทศ ซึ่งเป็นการกระทำที่ไร้มนุษยธรรม และตอกย้ำเจตนารมณ์ที่จะยังคงละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศต่อไป 3. นอกจากนี้ ตามการแถลงข่าวของโฆษก กห. กัมพูชา และกรณีนายเฮง รัตนา ผอ. CMAC เช้าวันนี้ ที่กล่าวอ้างว่าทุ่นระเบิด PMN-2 ที่นำมาเสนอต่อคณะทูต องค์การระหว่างประเทศ […]

“บิ๊กต่าย” ถกบอร์ดกลั่นกรอง เลื่อน “สำราญ-อิทธิพล” ขึ้นรอง ผบ.ตร.

กรุงเทพฯ 17 ส.ค. – ผบ.ตร. นั่งหัวโต๊ะประชุมกลั่นกรองแต่งตั้งนายพลสีกากี เลื่อน “สำราญ-อิทธิพล” ขึ้นรอง ผบ.ตร. ที่ห้องประชุม 2 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นประธานคณะกรรมการพิจารณาการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับ ตร. หรือ “บอร์ดกลั่นกรอง” พิจารณาแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับรอง ผบ.ตร.-ผบก. โดยมี พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.กรไชย คล้ายคลึง รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.นิรันดร เหลื่อมศรี รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จตช. และ พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง ผบช.สกพ. และเลขานุการ เข้าร่วมประชุม ทั้งนี้ […]

มทภ.2 ปฏิเสธรับตำแหน่งทางการเมืองหลังเกษียณ

กาฬสินธุ์ 17 ส.ค. – แม่ทัพภาค 2 ร่วมพิธียกเสาเอกเจดีย์โนนสาวเอ้ “หลวงปู่ศิลา” พร้อมปฏิเสธรับตำแหน่งทางการเมืองหลังเกษียณอายุราชการ “บิ๊กกุ้ง” พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 หลังมีหลายฝ่ายเรียกร้องให้ พล.ท.บุญสิน รับตำแหน่งทางการเมือง หรือต่ออายุราชการ จากผลงานแม่ทัพภาคที่ 2 อันโดดเด่น ถูกใจประชาชน วันนี้ พล.ท.บุญสิน ในฐานะลูกศิษย์คนดังของหลวงปู่ศิลา เดินทางมาร่วมพิธีฉลองประกาศตั้งวัดสวนธรรมปีติ และยกเสาเอก เสาโท เจดีย์โนนสาวเอ้ ณ วัดสวนธรรมปีติ ต.เชียงเครือ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ ขณะทำพิธียกเสาเอก เกิดปรากฏการณ์พระอาทิตย์ทรงกลด ท่ามกลางพุทธศาสนิกชนนับหมื่นคนเข้าร่วมพิธี ขณะที่หลายคนมารอต้อนรับ พล.ท.บุญสิน เพื่อมอบกำลังใจและขอบคุณที่ทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของไทยอย่างเต็มความสามารถจำนวนมาก พล.ท.บุญสิน เปิดเผยถึงแผนในอนาคตหลังจากเกษียณอายุราชการว่า จะไปทำหน้าที่เป็นทหารกองหนุน เป็นพลเมืองที่ดีของประเทศไทย ส่วนตำแหน่งทางการเมืองไม่ขอรับ ขอทำหน้าที่ดูแลประเทศชาติในส่วนที่เราสามารถทำได้.-สำนักข่าวไทย

ร่วมส่งดวงวิญญาณ “พลทหารรัฐภูมิ” แน่นวัด

สุรินทร์ 17 ส.ค. – ประชาชนจำนวนมากร่วมพิธีฌาปนกิจร่าง “พลทหารรัฐภูมิ” แน่นวัดกลางบัวเชด จ.สุรินทร์ พ่อเผยโล่งใจมีคนเข้าใจลูกชายมากขึ้น วัดกลางบัวเชด อ.บัวเชด จ.สุรินทร์ สถานที่จัดพิธีบำเพ็ญกุศลศพของพลทหารรัฐภูมิ เทพศิริ สังกัดกองร้อยทหารราบที่ 1623 ซึ่งก่อเหตุยิงวัยรุ่น 2 ราย ได้รับบาดเจ็บ เมื่อวันที่ 15 สิงหาคมที่ผ่านมา ก่อนถูกพบว่าเสียชีวิตบริเวณป่าริมคลองส่งน้ำบ้านเขื่อนแก้ว พื้นที่ อ.กาบเชิง โดยวันนี้มีพิธีฌาปนกิจศพพลทหารรัฐภูมิ ท่ามกลางความเศร้าโศกของญาติและเพื่อนร่วมงานที่มาร่วมพิธีเป็นอย่างมาก รวมถึงหน่วยงานต้นสังกัด ก่อนทำพิธีมีทหารกองเกียรติยศทำความเคารพศพ นายอำเภอบัวเชด เป็นประธานในพิธีขึ้นทอดผ้าบังสุกุล จากนั้นผู้ที่เข้าร่วมงานขึ้นวางดอกไม้จันทน์ โดยก่อนหน้าที่จะประกอบพิธี มีหลายหน่วยงาน องค์กรต่างๆ และประชาชน ร่วมกันมอบเงินจากกองทุนต่างๆ ให้กับครอบครัวของพลทหารรัฐภูมิ พ่อโล่งใจคนเข้าใจลูกชายมากขึ้นนายประยูร ผู้เป็นพ่อ เผยความรู้สึกว่าตอนนี้สบายใจขึ้นมากเกี่ยวกับข่าวของลูกชายที่ออกไปในครั้งแรกส่งผลกระทบต่อสภาจิตใจของคนในครอบครัว ก่อนมีการแก้ไขข่าวที่ถูกต้อง ตรงกับข้อเท็จจริง และมีคนมาให้กำลังใจจำนวนมาก บอกลูกชายครั้งสุดท้ายว่าลูกทำหน้าที่ได้ดีที่สุดแล้ว พ่อภูมิใจในตัวลูกชายมาก พร้อมยอมรับว่ามีคนมาขอสำเนาเลขบัญชีไปเปิดรับเงินบริจาค แต่ไม่ได้เป็นคนเปิดเอง และจะปิดรับบริจาควันจันทร์นี้ (18 ส.ค.) จนถึงขณะนี้ไม่ทราบว่าได้เงินเท่าไร มีน้องชายมาบอกว่าเขาจะโอนมาให้ 50,000 […]