กรมป่าไม้เผยความสำเร็จยึดคืนที่ป่าจากนายทุนได้ตามเป้า

กรมป่าไม้ 28 ก.ย.-กรมป่าไม้เผยยึดที่ป่าคืนจากนายทุนได้กว่าแสนไร่ คิดเป็นมูลค่ากว่า 9 พันล้านบาท และพบรีสอร์ทบ้านตากอากาศบุกรุกที่ป่ากว่า 2,000 แห่ง ภาคเหนือมากที่สุด


นายชลธิศ สุรัสวดี อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวถึงผลการดำเนินการยึดคืนผืนป่าในปี 2559 ของกรมป่าไม้ ว่า ผลการดำเนินงานตลอดปีที่ผ่านสามารถยึดคืนผืนป่าจากกลุ่มนายทุน และผู้มีอิทธิพลทั่วประเทศจับกุมดำเนินคดีได้ 6,500 คดี ผู้ต้องหา 1,929 คน โดยเป็นคดีบุกรุกพื้นที่ป่า 3,049 คดี ยึดพื้นที่ป่ากลับมาได้รวม 103,124 ไร่ มูลค่าความเสียหายเป็นเงินถึง 9,281 ล้านบาท ซึ่ง จ.กาญจนบุรี เป็นจังหวัดที่มีการดำเนินคดีได้มากที่สุด 13,943 ไร่ รองลงมาคือ จ.น่าน 13,616 ไร่ โดยเป้าหมายที่กรมป่าไม้วางไว้จะยึดคืนผืนป่ามาได้หนึ่งแสนไร่ถือว่าทำได้ตามเป้าพื้นที่ทั้งหมดจะนำ มาฟื้นฟู บางส่วนจะนำไปจัดสรรตามนโยบายจัดที่ดินทำกินให้กับราษฎร ผู้ยากไร้ต่อไป

นอกจากนี้ยังได้จับกุมผู้กระทำผิดลักลอบตัดไม้ และขนไม้ผิดกฎหมาย แจ้งความดำเนินคดีจำนวน 3,451 คดี ไม้ของกลางส่วนใหญ่ที่พบได้แก่ ไม้สัก ไม้พะยูง ไม้ประดู่ ไม่แดง และไม้มะค่า รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 700 ล้านบาท


ส่วนการตรวจสอบบ้านพักตากอากาศ และรีสอร์ทที่สร้างในเขตป่าสงวนแห่งชาติทั่วประเทศ เบื้องต้นพบจำนวน 1,958 ราย แบ่งเป็นภาคเหนือ 1,025ราย ภาคกลาง 229 ราย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 400 ราย และภาคใต้ 304 ราย ตรวจสอบแล้วเสร้จ 476 ราย แจ้งความดำเนินคดีแล้วไม่มีเอกสารสิทธิจำนวน 94 รายเป็นรีสอร์ทที่ผู้ประกอบการสามารถนำเอกสารทางราชการมาแสดงกับเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ 144 รายและอีก 114 รายที่คาดว่าจะเป็นเอกสารที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และอยู่ในพื้นที่นอกความรับผิดชอบของกรมฯอีก 124 ราย

อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวอีกว่า ในส่วนรีสอร์ทที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบเอกสารสิทธิ มีทั้งหมด 1,022 รายกรมป่าไม้จะประสานกับกรมที่ดิน สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (สปก.) ตรวจสอบความถูกต้องต่อไป ขณะที่นโยบายทวงคืนผืนป่าจากกลุ่มนายทุนและผู้มีอิทธิพลต่อไป

ส่วนการเข้าจับกุมพบว่ามีกลุ่มนายทุนฟ้องกลับแล้วประมาณ 4 คดีประกอบด้วยที่ จ.ภูเก็ต 3 คดี และ เพชรบูรณ์อีก 1 คดี มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 50 ล้านบาท ซึ่งเรื่องนื้เป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่ทุกคนยอมรับว่าจะต้องมีเรื่องนี้เกิดขึ้น แต่ยืนยันจะต่อสู้ตามกระบวนกฎหมายอย่างถึงที่สุด.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง