กรุงเทพฯ8 พ.ค. – ราคาขายปลีกน้ำมันดิบพุ่งสูงสุดรอบ 3 ปีครึ่ง คาด “ทรัมป์” คว่ำบาตรอิหร่าน ด้านปั๊มน้ำมันไทยลดราคาเท่ากัน แม้ไม่แจ้งราคาล่วงหน้าตามนโยบายกระทรวงพลังงาน
วันนี้ (8 พ.ค.) ผู้ค้าน้ำมันปรับลดราคากลุ่มเบนซิน-แก๊สโซฮอล์เท่ากัน 40 สตางค์ต่อลิตร โดยเป็นวันแรกที่ไม่มีผู้ค้ารายใดแจ้งราคาล่วงหน้าแก่ประชาชนผ่านช่องทางต่าง ๆ หลังกระทรวงพลังงานเรียกหารือวันที่ 4 พฤษภาคม และระบุว่าการแจ้งราคาล่วงหน้าเข้าข่ายผิดกฎหมายแข่งขันทางการค้า อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่าแต่ละรายไม่ได้ลดราคาแตกต่างกัน เหมือนที่นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน คาดหวัง ขณะที่ผู้บริโภคส่วนใหญ่เรียกร้องให้แจ้งราคาเช่นเดิม
ด้าน บมจ.ไทยออยล์รายงานว่าราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสปรับขึ้นประมาณร้อยละ 1.5 แตะระดับสูงกว่า 70 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลเป็นครั้งแรกตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 25 57 หลังตลาดมีความกังวลต่อภาวะอุปทานน้ำมันดิบตึงตัว เนื่องจากปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจของประเทศเวเนซุเอล่า และแนวโน้มที่สหรัฐอาจทำการคว่ำบาตรอิหร่าน โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ กล่าวว่า จะประกาศผลการตัดสินใจของสหรัฐต่อข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านภายในวันอังคารที่ 8 พฤษภาคม 2561 ซึ่งเร็วขึ้นกว่าเดิม 4 วันกำหนดการตัดสินใจข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านได้เลื่อนมาเป็นวันที่ 8 พฤษภาคมนี้
นักวิเคราะห์คาดการณ์สหรัฐจะทำการคว่ำบาตรอิหร่านอีกครั้ง ซึ่งส่งผลให้ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของอิหร่านลดลง 200,000-300,000 บาร์เรลต่อวัน
ด้าน ConocoPhillips บริษัทสำรวจและขุดเจาะน้ำมันดิบของสหรัฐได้เข้าควบคุมทรัพย์สินบนเกาะ Curacao, Bonaire และ St. Eustatius ที่ถือครองโดยบริษัทน้ำมันแห่งชาติของเวเนซุเอล่า (PDVSA) จากคำตัดสินของศาลปกครองเมื่อสัปดาห์ก่อน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อรายได้และการผลิตของ PDVSA ประมาณ 400,000 บาร์เรลต่อวัน ถือเป็น 1 ใน 3 ของปริมาณการส่งออกของ PDVSA.- สำนักข่าวไทย