ปัจจัยต่างประเทศยังกดดันหุ้น-เงินบาท

กรุงเทพฯ 6 พ.ค. –  ตลาดหุ้นไทยและเงินบาทสัปดาห์หน้ายังถูกกดดันจากปัจจัยต่างประเทศ ทั้งผลการเจรจาการค้าสหรัฐและจีน  และถ้อยแถลงเจ้าหน้าที่เฟด กสิกรไทยคาดเงินบาทเคลื่อนไหว 31.50-31.90 บาทต่อดอลลาร์  และหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,755-1,770 จุด


บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัดรายงานว่าสัปดาห์ที่ผ่านมา (30 เม.ย.-4 พ.ค.) เงินบาทอ่อนค่าเข้าใกล้แนว 31.75 บาทต่อดอลลาร์ฯ  โดยเงินบาทขยับแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยในช่วงต้นสัปดาห์ ขณะที่นักลงทุนบางส่วนทยอยขายเงินดอลลาร์ฯ เพื่อปรับโพสิชันก่อนการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อย่างไรก็ตาม เงินบาทลดช่วงบวกทั้งหมดและกลับมาปรับตัวอ่อนค่าลงในช่วงที่เหลือของสัปดาห์สอดคล้องกับสถานะขายสุทธิพันธบัตรไทยของนักลงทุนต่างชาติ ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ ได้รับแรงหนุนหลังจากแถลงการณ์การประชุมเฟดสะท้อนภาพแรงกดเงินเฟ้อที่ขยับขึ้นเข้าใกล้ระดับเป้าหมายของเฟดในปีนี้  โดยวันศุกร์ที่ 4 พฤษภาคม เงินบาทอ่อนค่ามาอยู่ที่ระดับ 31.74  เทียบกับ 31.59 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า 

สำหรับสัปดาห์หน้า (7-11 พ.ค.) ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 31.50-31.90 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยจุดสนใจของตลาดน่าจะอยู่ที่การตอบรับของตลาดต่อตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐ ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด และผลการเจรจาด้านการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่สำคัญ ได้แก่ ตัวเลขเงินเฟ้อที่สะท้อนจากดัชนีราคาผู้บริโภค ดัชนีราคาผู้ผลิต เดือนเมษายน นอกจากนี้ ตลาดอาจรอติดตามข้อมูลเศรษฐกิจเดือนเมษายนของจีนด้วยเช่นกัน


ด้านตลาดหุ้นไทยสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีร่วงลงช่วงปลายสัปดาห์ โดยดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,779.87 จุด ทรงตัวเมื่อเทียบกับระดับปิดช่วงปลายสัปดาห์ก่อน อย่างไรก็ตาม มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันปรับลดลง ร้อยละ 11.00 จากสัปดาห์ก่อนมาที่ 54,690.63 ล้านบาท ส่วนตลาดหลักทรัพย์ mai ปิดที่ 488.45 จุด เพิ่มขึ้นร้อยละ  0.50 จากสัปดาห์ก่อน

ส่วนสัปดาห์หน้า (7-11 พ.ค.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,770 และ 1,755 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,800 และ 1,810 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ การตอบสนองของตลาดต่อผลการเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด และการทยอยประกาศผลการดำเนินงานของ บจ.งวดไตรมาส 1/2561 ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐ อื่น ๆ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภค ดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนเมษายน ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศที่สำคัญอื่น ๆ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภคของประเทศในแถบยุโรป และข้อมูลเศรษฐกิจเดือนเมษายนของจีน.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง