ปราจีนบุรี 4 พ.ค.-ตำรวจประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี จับพรานป่านำเนื้อกระทิงขายร้านอาหารกิโลกรัมละ 20 บาท ค้นบ้านยังเจออัดแน่นในตู้เย็น สอบสวนอ้างพบกระทิงนอนตายอยู่แล้ว จึงแล่เนื้อนำมาขาย เจ้าหน้าที่นำซากกระทิงที่เหลือ้ตรวจพิสูจน์ เบื้องต้นพบที่หัวกระทิงมีหัวกระสุนฝัง
จากกรณีที่มีผู้ชี้เบาะแสว่า มีร้านอาหารป่านำเนื้อกระทิงมาปรุงจำหน่ายให้ผู้ที่นิยมบริโภคอาหารป่าในร้านอาหารแห่งหนึ่งในพื้นที่ บ้านเขาน้อย อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ประจันตคาม จึงเข้าตรวจสอบพบว่าเป็นเนื้อกระทิงจริง จึงสอบถามจนทราบว่า มีนายอาคม ดียิ่ง อายุ 53 ปี ชาวบ้านหมู่ 13 ต.โพธิ์งาม อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี เป็นผู้นำมาขาย ตำรวจจึงขอหมายศาลจังหวัดปราจีนบุรี เพื่อเข้าตรวจค้นตามที่ได้รับเบาะแส
จากการตรวจค้นพบในตู้เย็นบ้านนายอาคม มีเนื้อกระทิงชำแหละแล้วอัดแน่น จึงตรวจยึดและควบคุมตัวนายอาคม มาสอบสวน ซึ่งยอมรับว่าเนื้อในตู้เย็นเป็นเนื้อกระทิง ได้มาจากการที่ตนเองขึ้นไปเก็บตะไคร่หินมาขาย พบกระทิงนอนตายโดยไม่ทราบสาเหตุ จึงแล่เนื้อเอามาขายในกิโลกรัมละ 20 บาทเนื่องจากเนื้อเริ่มเน่า แต่จากการตรวจสอบเนื้อกระทิงในตู้เย็นกลับพบว่ายังสดไม่เน่าอย่างที่นายอาคมอ้าง
จากนั้นชุดสืบสวนประสานกับป่าไม้และทหาร ร่วมพิสูจน์ ให้นายอาคมพาไปยังจุดที่พบกระทิงตาย โดยต้องใช้เวลาหลายชั่วโมง จึงพบซากกระทิงขนาดใหญ่น้ำหนักเกือบ 2 ตัน อายุระหว่าง 4-5 ปี ที่ถูกแล่เนื้อเหลือส่วนหัวกองไว้เพื่อรอมาเอาไปอีกรอบ ซึ่งจากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ป่าไม้พบว่ากระทิงน่าจะตายไม่เกิน 3 วัน จึงรวบรวมซากกระทิงลงมาพิสูจน์หาสาเหตุการตาย
ในเบื้องต้นพบที่หัวกระทิงมีหัวกระสุนฝังอยู่จำนวนหนึ่ง คาดน่าจะเป็นกระสุนปืนที่ทำให้กระทิงตัวดังกล่าวตาย หลังการพิสูจน์เบื้องต้นแล้ว เจ้าหน้าที่ป่าไม้จะนำซากและหัวกระทิงไปให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบสาเหตุอีกครั้ง ขณะที่นายอาคม ยืนยันว่าตนไม่ได้ยิงกระทิง ตอนไปพบกระทิงตายแล้วจนหมาในมาแทะ เห็นว่าเนื้อยังพอกินได้ จึงพาภรรยานำเนื้อกระทิงลงมาขาย จนกระทั่งมาถูกเจ้าหน้าที่จับกุม
สำหรับพื้นที่ป่าบริเวณดังกล่าวเชื่อมต่อเขาใหญ่ มีกระทิงชุกชุม และมักจะออกมาหากินพืชไร่ของชาวบ้านอยู่เป็นประจำ จนชาวบ้านเห็นเป็นเรื่องปกติ ซึ่งคาดว่าน่าจะมีมากกว่า 30 ตัว.-สำนักข่าวไทย