ออกแถลงการณ์ 4 ข้อ งานวันเสรีภาพสื่อมวลชนโลก

กทม.3 พ.ค.-สมาคมนักข่าวฯร่วมสื่อมวลชน จัดงานวันเสรีภาพสื่อมวลชนโลก ออกแถลงการณ์ 4 ข้อ ให้ คสช.”โละ เลิก ล้าง”คำสั่งที่ลิดรอนสื่อ พร้อมเรียกร้องสื่อทำหน้าที่ตามกรอบจริยธรรมวิชาชีพ 


นายปราเมศ เหล็กเพ็ชร์ นายกสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์เเห่งประเทศไทย เป็นประธานการจัดกิจกรรมวันเสรีภาพสื่อมวลชนโลก  โดยสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์เเห่งประเทศไทย ร่วมกับสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทยจัดขึ้น เนื่องในวันที่ 3 พ.ค.ของทุกปี องค์การยูเนสโกประกาศให้เป็นวันเสรีภาพสื่อมวลชนโลกเพื่อตอกย้ำถึงเจตนารมณ์ของ”เสรีภาพสื่อมวลชน”ซึ่งเป็น”เสรีภาพของประชาชน”ให้ทุกคนได้ตระหนักถึงความสำคัญของสื่อมวลชนมืออาชีพที่ต้องมีเสรีภาพ 


ภายในงานมีการกล่าวไว้อาลัยเเก่สื่อมวลชนที่ได้รับบาดเจ็บเเละเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่โดยในปี2560มีสื่อมวลชนทั่วโลกเสียชีวิตกว่า46 ราย มากที่สุดในประเทศอิรักเเละซีเรีย พร้อมยืนไว้อาลัยให้กับการสูญเสียที่เกิดขึ้น


อีกทั้งมีการกล่าวเเถลงการณ์เนื่องในวันเสรีภาพสื่อมวลชนโลก  ระบุว่า ปัจจุบันสถานการณ์ด้านเสรีภาพของสื่อมวลชนไทยอยู่ในภาวะไม่ปกติ ทั้งยังอยู่ภายใต้ประกาศและคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)หลายฉบับ เปิดทางให้อำนาจรัฐแทรกแซง ควบคุมการทำหน้าที่ของสื่อ ลิดรอนสิทธิการรับรู้ข่าวสารและเสรีภาพในการเเสดงความคิดเห็นของประชาชน ขัดต่อเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ จึงขอเสนอต่อฝ่ายที่เกี่ยวข้องดังนี้ 

1.ให้รัฐบาลโดยคสช.ต้องระมัดระวังการออกกฎหมายที่จำกัดเสรีภาพของประชาชนเเละสื่อมวลชน พร้อมกับ“โละ เลิก ล้าง”ประกาศหรือคำสั่งของ คสช.ที่ลิดรอนเสรีภาพสื่อซึ่งก็คือเสรีภาพของประชาชน

2.ให้ คสช.เเละคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์เเละกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.)ต้องปฏิรูปสื่อวิทยุเเละโทรทัศน์โดยปราศจากการครอบงำ เพื่อให้การดำเนินงานของสื่อสอดคล้องกับเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญเเละกำลังเข้าสู่บรรยากาศการเลือกตั้งตามโรดเเมป 

3.เรียกร้องให้ประชาชนเเละผู้ใช้สื่อในทุกแพลตฟอร์มระมัดระวังการเผยเเพร่หรือส่งต่อข้อมูลที่ผิดกฎหมาย ข่าวปลอมที่ไหลทะลักบนสื่อออนไลน์และขอให้ประชาชนช่วยตรวจสอบควบคุมการทำหน้าที่ของสื่อมวลชนให้อยู่ในกรอบจริยธรรมเเห่งวิชาชีพ 

และ4.เรียกร้องให้สื่อมวลชนทุกเเขนงพึงตระหนักการทำงานภายใต้กรอบจริยธรรมเเห่งวิชาชีพท่ามกลางการเปลี่ยนเเปลงทางการเมืองเเละปฏิรูปประเทศด้านต่างๆโดยเฉพาะการปฏิรูปสื่อมวลชน เเละขอยืนหยัดพร้อมที่จะรับการถูกตรวจสอบจากสังคมด้วยวิถีทางอันถูกต้อง ชอบธรรมด้วยกฎหมายตามระบอบประชาธิปไตย

ภายหลังการกล่าวเเถลงการณ์มีการเสวนา “ปลดล็อคคำสั่ง 0.4 เดินหน้าเสรีภาพประชาชน” โดย น.ส.พูนสุข พูนสุขเจริญ ทนายความเเละหัวหน้าฝ่ายข้อมูลศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน กล่าวว่า ตั้งเเต่มีการรัฐประหารในปี 2557สถานการณ์การเมืองทำให้สื่อไม่สามารถออกมา     แสดงข้อเท็จจริงเเละความเห็นได้อย่างเต็มที่ ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา กสทช.ลงโทษสื่อเกี่ยวกับประกาศคำสั่ง คสช.อาทิ ประกาศที่97/57 เเละ103/57 ถึง 52 ครั้งมากที่สุดคือวอยซ์ทีวี19 ครั้ง ทั้งยังมีคำสั่งระงับการออกอากาศชั่วคราวเป็นระยะ ขณะเดียวกันมีประชาชนอย่างน้อย 1,340 รายถูกเรียกรายงานตัวเเละปรับทัศนคติ,ประชาชน2,177คนถูกดำเนินคดีในศาลทหารที่มีการพิจารณาคดีเพียงชั้นเดียวอีกทั้งกิจกรรมการเสวนาชุนนุมถูกปิดกั้นโดยคำสั่ง คสช.ที่ 3/58 จึงอยากเสนอว่าสิ่งที่สื่อจะทำได้คือช่วยปลดล็อคเสรีภาพของเเสดงความเห็นของประชาชนเพื่อการทำงานหรือช่วยตรวจสอบข้อเท็จจริงร่วมกันได้ในอนาคต

ด้านนายก้าวโรจน์ สุตาภักดี นายกสมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ กล่าวว่า ในมุมของสื่ออนไลน์สิ่งที่น่ากลัว คือข่าวปลอมที่มีการส่งต่ออย่างเเพร่หลายโดยไม่มีการไตร่ตรอง ยิ่งตั้งเเต่มีการรัฐประหารก็มีข่าวลือต่างๆเกิดขึ้นในสื่อโซเซียลจำนวนมาก สิ่งที่สื่อมวลชนต้องมีเเละตระหนักไม่ว่าจะแพลตฟอร์มไหนต้องรับผิดชอบเเละสำนึกต่อการทำหน้าที่เพื่อรายงานความจริงให้ประชาชนได้รับทราบ ย้ำว่าคุณภาพของข่าวเป็นสิ่งที่สำคัญเเละมีประโยชน์ต่อประชาชน

ขณะที่น.ส.ฐิติรัตน์ ทิพย์สัมฤทธิ์กุล อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า การควบคุมสื่อไม่จำเป็นต้องเป็นรูปแบบกฎหมายเท่านั้น ภาคสังคมก็มีส่วนสำคัญมากเ เต่เมื่อพูดถึงกฎหมายกฎหมายดิจิทัล หรือร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ พ.ศ…. สิ่งที่กฎหมายควรจะเป็นคือควรมีความมั่นคงของระบบในตัวของโครงสร้างไม่ใช่เนื้อหาเพราะในประเทศที่ให้ความสำคัญด้านสิทธิมนุษยชน ความมั่นคงช่วยให้เสรีภาพมันเติบโตไม่ใช่ไปควบคุมสิทธิของประชาชน จึงควรระมัดระวังกฎหมายที่กำลังจะออกมา มิเช่นนั้นจะมีการนำไปใช้กฎหมายในเชิงที่ผิดเจตนารมณ์เเละลิดรอนสิทธิของประชาชน .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

Chinese foreign ministry in January 2025

ถอดบทเรียนจากจีน แก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 จริงจัง

ปักกิ่ง 23 ม.ค. – สถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่และเร่งด่วนในไทยอยู่ในขณะนี้ หลายฝ่ายกำลังหาทางแก้ไขด้วยการมุ่งไปที่ต้นตอที่ทำให้เกิดฝุ่น จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ในปี พ.ศ. 2542 ประชากรโลกมากถึง 92% ได้รับฝุ่น PM2.5 ในระดับความเข้มข้นสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกกำหนด และถ้ารัฐบาลทุกประเทศไม่เร่งแก้ปัญหาอย่างเอาจริงเอาจัง ภายในอีก 7 ปีข้างหน้า หรือ พ.ศ. 2573 คุณภาพชีวิตคนทั่วโลกจะยิ่งเลวร้ายสุดขีด เพราะปริมาณ PM2.5 จะเพิ่มขึ้นจากเดิม 50% และประเทศที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า หากรัฐบาลตั้งใจจริงจัง ทุ่มสรรพกำลังความพยายาม จะสามารถกำจัดปัญหาฝุ่นควันพิษได้อย่างแน่นอนนั่นก็คือ จีน   จีนเคยมีคนเสียชีวิตเพราะมลพิษในอากาศปีละหลายล้านคน แต่ทุกวันนี้แม้แต่ธนาคารโลกยังยกย่องจีนว่า เป็นแบบอย่างของความพยายาม สามารถพลิกฟ้าหม่นเพราะฝุ่น PM2.5 ให้กลับเป็นฟ้าใสได้สำเร็จ ความพยายามของเหมา เจ๋อตุง ผู้นำจีนที่มุ่งเปลี่ยนสังคมเกษตรกรรมเป็นสังคมอุตสาหกรรม ทำให้จำนวนโรงงานในจีนเพิ่มขึ้นทวีคูณภายใน พ.ศ. 2502 แน่นอนว่า นโยบายเศรษฐกิจของผู้นำจีนช่วยให้คนจีนหลายล้านหลุดพ้นจากขีดความยากจน แต่ก็ต้องแลกกับชีวิตและสุขภาพ เพราะควันพิษจากโรงงานทำให้ฝุ่น PM2.5 พุ่งในระดับเกินกว่าจะรับไหว กว่ารัฐบาลจะรู้ตัวว่าปัญหามาถึงขั้นวิกฤต […]

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ผู้ป่วยเสียชีวิต

รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก-เสียชีวิต จากเหตุชายผิวสีคลุ้มคลั่ง

ผอ.รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก หรือเสียชีวิต จากเหตุต่างชาติผิวสีคลุ้มคลั่ง มีเพียงเจ้าหน้าที่ รพ.บาดเจ็บจากการถูกต่อยเล็กน้อย

ข่าวแนะนำ

ตร.ทางหลวงไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าไทย

ระทึก! ตำรวจทางหลวงขับรถไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าว 2 คัน สุดท้ายไม่รอด จนมุมบริเวณ ต.หาดท่าเสา อ.เมือง จ.ชัยนาท ตรวจสอบพบแรงงานต่างด้าวจำนวนมาก จึงนำตัวทั้งหมด พร้อมกับคนขับรถทั้ง 2 คัน ส่งดำเนินคดีที่ สภ.เมืองชัยนาท

คุมพ่อชาวรัสเซียฝากขัง จับลูกชายวัย 13 โยนลงทะเลเสียชีวิต

ตำรวจคุมตัว “หนุ่มรัสเซีย” ฝากขัง หลังก่อเหตุโยนลูกวัย 13 ปี ออกจากเรือ บริเวณหมู่เกาะสุรินทร์ จ.พังงา จนถูกใบพัดเรือบาดเจ็บสาหัส ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา อ้างเสียความทรงจำ ไม่รู้ทำอะไรลงไป

ดีเอสไอจ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ สืบคดี “แตงโม”

ดีเอสไอ นำผู้เชี่ยวชาญหลายด้านเปิดประชุมนัดแรก ลุยสืบสวน “คดีแตงโม” จ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ หาพยานหลักฐานใหม่ และบินเก็บข้อมูลระบบ Cloud ในมือถือทุกคนบนเรือ-นอกเรือ