กทม. 30 เม.ย. – วันสุดท้ายของการยืนยันตัวตนความเป็นสมาชิกพรรคการเมือง แต่ละพรรคการเมืองเช็กยอดอดีต ส.ส. ใครอยู่ใครไปเริ่มเห็นเค้าลาง แต่แกนนำพรรคการเมืองต่างเชื่อว่ายังไม่ถือเป็นที่สิ้นสุด จนกว่าจะเริ่มปลดล็อกคำสั่ง คสช. จึงจะชัดเจน ติดตามจากทีมข่าวการเมือง สำนักข่าวไทย
วันนี้ถือเป็นวันสุดท้ายที่พรรคการเมืองที่มีอยู่เดิมจะต้องยืนยันตัวตนสมาชิกพรรคเก่า โดยต้องนำเอกสารบัตรประจำตัวประชาชน พร้อมเงิน 100 บาท เป็นค่าบำรุงสมาชิกรายปี หรือ 2,000 บาท เป็นค่าสมาชิกตลอดชีพ และหลังเปิดให้สมาชิกพรรคยืนยันตัวตน ปรากฏว่าทุกพรรคการเมืองมีสมาชิกเก่ามายืนยันตัวตนได้ไม่ถึงร้อยละ 20 โดยแกนนำพรรคต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เป็นเพราะระยะเวลาที่จำกัด และเงื่อนไขเรื่องค่าสมาชิกที่ถือเป็นของใหม่และถือเป็นเรื่องใหญ่สำหรับคนที่มีรายได้จำกัด ทำให้พรรคประชาธิปัตย์ที่เคยมีสมาชิก 2.5 ล้านคน เหลือคนยืนยันสมาชิกพรรคเพียง 80,000 คน โดยที่ สกลธี ภัททิยกุล ไปเป็นรองผู้ว่าฯ กทม. นายธานี เทือกสุบรรณ ไปตั้งพรรคใหม่ นายชื่นชอบ คงอุดม ไปร่วมงานกับพรรคใหม่ของบิดา ขณะที่มีรายงานว่านายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ ซึ่งขาดสมาชิกภาพเนื่องจากไปอุปสมบท น่าจะลาไปร่วมงานกับคนในรัฐบาล ยังพบความเคลื่อนไหวไปพูดคุยกับนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล
ขณะที่พรรคเพื่อไทยส่วนใหญ่อดีต ส.ส.ยังเหนียวแน่นยืนยันตัวตนกันเกือบหมด ยกเว้นกลุ่มวาดะที่ค่อนข้างชัดว่าจะย้ายไปก่อตั้งพรรคประชาชาติ ที่ร่วมกับนายสุรพล นาควานิช ส่วนอดีต ส.ส.บ้าน 111 ที่ถูกเว้นวรรคทางการเมือง 5 ปี ไม่มีสมาชิกภาพ จึงไม่ได้รายงานตัว
แต่ส่วนใหญ่ อาทิ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ นายภูมิธรรม เวชยชัย นายยงยุทธ ติยะไพรัช พร้อมกลับมาเมื่อ คสช.ปลอล็อก แต่ที่ต้องตามคือความเคลื่อนไหวของกลุ่มสะสมทรัพย์ ที่ครั้งหนึ่งนายกรัฐมนตรีเคยตีกอล์ฟด้วย
ด้านพรรคชาติไทยพัฒนามีสมาชิกมายืนยัน 2,500 คน จาก 24,710 คน แต่ไร้เงากลุ่มลูกชาย พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ที่คาดว่าน่าจะไปร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทย เช่นเดียวกับกลุ่มบ้านริมน้ำของนายสุชาติ ตันเจริญ ทำให้พรรคภูมิใจไทยมีคนยืนยันสมาชิก 1,700 คน จากกว่า 100,000 คน แต่แกนนำทุกพรรคไม่กังวล เพราะมั่นใจว่าไม่ใช่คำตอบสุดท้าย
การเคลื่อนไหวดังกล่าวนี้ถือเป็นเพียงเบื้องต้นที่สะท้อนให้เห็นว่าอดีต ส.ส.กลุ่มไหนจะทำการเมืองที่ใด แต่หากปลดล็อกคำสั่ง คสช.เมื่อไร เท่ากับทุกคนจะหงายไพ่ให้เห็นชัดถึงสังกัดที่แน่นอน และอาจเห็นเงาสะท้อนของรัฐบาลในอนาคต . – สำนักข่าวไทย
