“นพ.ชลน่าน” จี้นายกฯ-คสช.ลาออก

รัฐสภา 26 ก.พ.-“นพ.ชลน่าน” จี้ นายกฯ-คสช.ลาออก เปิดโอกาสเลือกผู้นำคนใหม่ หลังพบใช้คำสั่ง คสช.ระงับการทำเหมืองแร่ทองคำที่ จ.พิจิตร จนเกิดข้อพิพาทกับนักลงทุนต่างชาติ ชี้ไทยเสี่ยงเกิดความเสียหายใหญ่หลวง


นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า จากผลพวงของการใช้อำนาจจากคำสั่ง คสช. ที่ 72/2559 ลว.13 ธันวาคม 2559 ให้ระงับการทำเหมืองแร่ทองคำและการประกอบโลหะกรรมแร่ทองคำ ที่ จ.พิจิตร จนนำไปสู่ข้อพิพาทกับบริษัทผู้ลงทุนจากต่างประเทศ (ออสเตรเลีย) ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการรอฟังคำชี้ขาดจากอนุญาโตตลาการผู้ชี้ชาด หลังจากที่องค์คณะอนุญาโตตุลาการ ได้รับฟังข้อมูลจากคู่กรณีไปแล้ว เมื่อวันที่ 3-12 กุมภาพันธ์ 2563 ที่ประเทศสิงคโปร์  มองว่าผลน่าจะออกมาในทางลบต่อไทยที่จะแพ้คดี

นพ.ชลน่าน เชื่อว่า คำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการในอนาคต จะสร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวงต่อไทยที่จะเผชิญกับการบังคับตามคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการจากทรัพย์สินและสกุลเงินต่างประเทศจากความรับผิดชอบทางกฎหมาย ด้วยมูลค่ามหาศาลต่อไทย ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ที่เป็นไปตามความผูกพันจากพันธกรณีระหว่างประเทศของไทย ตามสนธิสัญญาการรับรองและบังคับตามคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการจากต่างประเทศ หรือที่เรียกว่า สนธิสัญญานิวยอร์ก (New York Convention 1958) เพราะคำชี้ขาดที่อนุญาโตตุลากาจะตัดสินมานั้น จะรวมถึงไทยที่จะถูกบังคับเอาจากทรัพย์สิน เงินสกุลไทย และต่างประเทศ ที่เป็นของราชอาณาจักรไทย ไม่ว่าจะเป็น หุ้น กองทุน ตราสารทางการเงิน หรือ อากาศยาน เรือ ที่มีสัญลักษณ์ธงไทยทั่วโลก อย่างที่ได้เคยเกิดขึ้นมาแล้ว อีกทั้งข้อพิพาทที่แท้จริงในเรื่องนี้จริง ๆ แล้วไม่ใช่เรื่องการปิดเหมือง หรือปิดประตูโรงานประกอบกิจการเหมืองทอง ตามความเข้าใจของประชาชน ซึ่งรัฐบาลปกปิดไม่ให้ความจริงต่อสาธารณชน ทั้ง ๆ ที่เป็นเรื่องความเสียหายจากการโอนกิจการเป็นของรัฐของคู่กรณีที่เป็นบริษัทผู้ลงทุนจากต่างประเทศ (ออสเตรเลีย)


นพ.ชลน่าน กล่าวอีกว่า ขณะเดียวกัน คำสั่ง คสช.จะถูกพิจารณาเป็นการฝ่าฝืนข้อตกลงเขตการค้าเสรีที่ราชอาณาจักรไทย-ออสเตรเลีย หรือ TAFTA ที่มีพันธกรณีระหว่างประเทศ และจะเข้าลักษณะการกระทำผิดของรัฐตามกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งไทยจะไม่รอดพ้นจากความรับผิดตามหลักความรับผิดชอบแห่งรัฐ โดยไทยจะเผชิญกับความรับผิดตามกฎหมายจากอัตราการชดใช้ค่าเสียหาย ค่าชดเชยความเสียหาย ค่าเสียโอกาส และข้ออ้างสิทธิอื่น ๆ อย่างเต็มจำนวนในเชิงพาณิชย์ ทั้งจากคู่กรณี (ออสเตรเลีย) รวมถึงนักลงทุนที่เสียหายอื่นที่จะเข้าแถวเรียกร้องขอความรับผิดชอบตามกฎหมายต่อไทย ดังนั้น นายกรัฐมนตรี และ คสช. ต้องรับผิดชอบด้วยการลาออกทันที และในทางการเมือง ก็มีทางเลือกเดียวที่เหลือขณะนี้คือ การเปิดโอกาสทางเลือกใหม่ให้ผู้นำคณะบริหารชุดใหม่ที่น่าเชื่อถือเพื่อร่วมกันลดความเสียหายและเร่งฟื้นฟูความเชื่อถือกลับคืนมาโดยด่วน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

หนุ่มอุดรฯ ดวงเฮง ถูกลอตเตอรี่เกาหลีใต้ 45 ล้านบาท

สุดเฮง! หนุ่มอุดรฯ ถูกลอตเตอรี่เกาหลีใต้ รับเงินรางวัล 45 ล้านบาท ลูกสาวเผยพ่อเป็นคนชอบทำบุญ ก่อนหน้านี้เพิ่งโทรมาบอกให้ใส่บาตร เชื่อผลบุญหนุนโชคลาภ

สามีภรรยาจากอยุธยารับ “เจ้าจอร์จ” ไปดูแล

สามีภรรยาใจบุญจาก จ.พระนครศรีอยุธยา ขอรับ “เจ้าจอร์จ” สุนัขพันธุ์อเมริกันบูลลี่ ไปอุปการะแล้ว หลังกัดแทะร่างพระเจ้าของที่มรณภาพในกุฏิด้วยโรคประจำตัว

ดีเอสไออนุมัติสืบสวนคดีแตงโม คาดตั้งชุดเริ่มสืบได้ 27 ม.ค.นี้

อธิบดีดีเอสไอ อนุมัติให้สืบสวนคดีแตงโม ว่ามีการบิดเบือนกระบวนการยุติธรรมทางอาญาหรือไม่ และมีบุคคลหรือเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องหรือไม่ คาดเริ่มได้ 27 ม.ค.นี้