กรุงเทพฯ
28 เม.ย.-โพลเผยผลสำรวจประชาชนร้อยละ
85มองสร้างบ้านตุลาการดอยสุเทพไม่เหมาะสม
และส่วนใหญ่ให้ยุติก่อสร้างรื้อถอนคืนผืนป่า
ศูนย์สำรวจความคิดเห็นประชาชนสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์
หรือ “นิด้าโพล” เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน
เรื่อง“คนไทยคิดอย่างไร
กับโครงการสร้างบ้านพักตุลาการศาลบริเวณดอยสุเทพ” ทำการสำรวจระหว่างวันที่
21 – 23 เมษายน 2561 จากประชาชนทุกรับการศึกษาทั่วประเทศ
1,250 หน่วยตัวอย่าง
โดยสอบถามประชาชนถึงความเหมาะสมในการสร้างบ้านพักตุลาการศาลบริเวณดอยสุเทพ
พบว่าส่วนใหญ่ ร้อยละ 85.20 ระบุว่าไม่เหมาะสม เพราะเป็นการทำลายป่าไม้
ทำลายธรรมชาติ สิ้นเปลืองงบประมาณ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวไม่ควรมีสิ่งปลูกสร้าง และบางส่วนมองว่าบ้านพักควรสร้างในเมืองน่าจะดีกว่า
รองลงมาร้อยละ 14.56 ระบุว่าเหมาะสม
เพราะเป็นพื้นที่ที่ถูกต้องตามกฎหมาย ไม่เป็นการบุกรุกหรือรุกล้ำพื้นที่ป่า
และเพื่อความสะดวกของเจ้าหน้าที่ที่มาปฏิบัติงาน และร้อยละ 0.24 ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ
ด้านการรับทราบของประชาชนว่าตามกฎหมายแล้วสามารถสร้างบ้านพักบริเวณดอยสุเทพได้
พบว่าประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 81.12 ระบุว่า
ไม่ทราบ รองลงมา ร้อยละ 18.56 ระบุว่า ทราบ และร้อยละ 0.32
ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ
สำหรับความคิดเห็นเรื่องการรื้อถอนบ้านพักตุลาการศาลบริเวณดอยสุเทพออกทั้งหมด
พบว่าส่วนใหญ่ร้อยละ 53.84 เห็นด้วย เพราะจะได้คืนผืนป่าให้กลับมาสมบูรณ์เหมือนเดิม
รองลงมาร้อยละ 43.68 ไม่เห็นด้วย
เพราะจะทำให้สิ้นเปลืองงบประมาณในการรื้อถอน
และยังสามารถใช้ทำประโยชน์อย่างอื่นได้อีก และร้อยละ 2.48 ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ
และเมื่อถามถึงแนวทางในการแก้ปัญหาเรื่องการสร้างบ้านพักตุลาการศาลบริเวณดอยสุเทพ
พบว่าประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 37.36 ระบุว่าให้ยุติการก่อสร้างรื้อถอนบ้านพักทั้งหมด
และปลูกป่าทดแทนให้กลับเป็นตามเดิม รองลงมาร้อยละ 25.92 ระบุว่า
ให้ดำเนินการก่อสร้างต่อไปไม่ต้องรื้อถอนแต่ให้ประชาชนเข้าไปใช้ประโยชน์แทน ร้อยละ
22.96 ระบุว่า ให้ยุติการก่อสร้างและรื้อถอนบางส่วนที่กระทบกับสิ่งแวดล้อม
ร้อยละ7.52 ระบุว่า
ให้ดำเนินการก่อสร้างต่อไปและให้ตุลาการศาลเข้าไปใช้พื้นที่เหมือนเดิม
เพราะถูกต้องตามกฎหมาย ร้อยละ 2.80 ระบุว่าให้ยุติการก่อสร้าง
และทำความตกลงไม่มีการเรียกร้องค่าเสียหาย และร้อยละ 1.20 ระบุอื่น
ๆ ได้แก่ ให้ดำเนินการก่อสร้างต่อไป และปลูกต้นไม้ทดแทนไปด้วย
ให้ภาคเอกชนเข้ามาบริหารจัดการทำเป็นรีสอร์ทเพื่อให้คนในพื้นที่ได้มีงานทำ.-สำนักข่าวไทย