นนทบุรี 29 เม.ย. – สหรัฐชื่นชมรัฐบาลไทยปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา คงสถานะบัญชีประเทศที่ต้องจับตามอง หรือ WL
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า คืนวันที่ 27 เมษายน 2561 ตามเวลาประเทศไทย ผู้แทนการค้าสหรัฐอเมริกา (USTR) ได้ประกาศสถานะการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาของประเทศคู่ค้ารายสำคัญ ภายใต้กฎหมายการค้าสหรัฐมาตรา 301 พิเศษ (Special 301) โดยปีนี้ ประเทศไทยสามารถรักษาสถานะอยู่ในบัญชีประเทศที่ต้องจับตามอง ( WL) ได้ต่อไป หลังจากสหรัฐปรับสถานะไทยให้ดีขึ้นจากบัญชีประเทศที่ต้องจับตามองพิเศษ (PWL) เป็น WL เมื่อปลายปีที่แล้ว
นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า การประกาศครั้งนี้สหรัฐชื่นชมนโยบายและความก้าวหน้าด้านการคุ้มครองและป้องปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาของไทยหลายเรื่อง โดยเฉพาะการที่รัฐบาลโดยคณะกรรมการ นโยบายทรัพย์สินทางปัญญาแห่งชาติ ซึ่งมีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน และคณะอนุกรรมการปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งมีพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นประธาน ได้กำกับดูแลและติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด ทำให้การบรูณาการระหว่างหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ทั้งพลเรือน ทหาร ตำรวจ เป็นไปอย่างราบรื่น รวมทั้งทำให้การปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาได้ผลอย่างเป็นรูปธรรม
ส่วนกระทรวงพาณิชย์ สหรัฐได้ชื่นชมที่ไทยได้เข้าเป็นภาคีพิธีสารมาดริดว่าด้วยการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าระหว่างประเทศ และมีการดำเนินการอย่างจริงจังเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งจะช่วยให้ผู้ประกอบการทั้งในประเทศและต่างประเทศได้รับความคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาอย่างสะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์ยังได้ทำหน้าที่เป็นแกนกลางประสานข้อมูลกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อชี้แจงทำความเข้าใจกับรัฐบาลสหรัฐและภาคเอกชนเจ้าของทรัพย์สินทางปัญญา รวมทั้งจัดทำรายงานพร้อมความเห็นเป็นลายลักษณ์อักษรส่งให้แก่ USTR ทำให้สหรัฐได้รับทราบถึงนโยบายและการดำเนินการต่าง ๆ และประเมินสถานะของไทยบนพื้นฐานข้อมูลที่ถูกต้อง
สำหรับประเทศที่สหรัฐจัดให้อยู่ในบัญชี PWL ปีนี้มี 12 ประเทศ ได้แก่ อัลจีเรีย อาร์เจนตินา แคนาดา ชิลี จีน โคบัมเบีย อินเดีย อินโดนีเซีย คูเวต รัสเซีย ยูเครน และเวเนซูเอลา และประเทศที่ถูกจัดให้อยู่ในบัญชี WL มี 24 ประเทศ เช่น บราซิล เอกวาดอร์ อียิปต์ กรีซ เม็กซิโก ปากีสถาน เปรู โรมาเนีย ซาอุดิอารเบีย สวิตเซอร์แลนด์ ตุรกี เวียดนาม และไทย
ทั้งนี้ นายสนธิรัตน์ เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวด้วยว่าผลการจัดสถานะประจำปีนี้ถือว่าน่าพอใจและขอขอบคุณหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาคที่ร่วมแรงร่วมใจในการทำงานอย่างหนักมาโดยตลอด อาทิ กอ.รมน. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองทัพบก กองทัพเรือ กรมทรัพย์สินทางปัญญา กรมศุลกากร กรมสอบสวนคดีพิเศษ กรมสรรพากร กรมประชาสัมพันธ์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เป็นต้น และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับความร่วมมืออย่างดีเช่นนี้ต่อไป
อย่างไรก็ตาม การที่จะรักษาสถานะของไทยไว้ในบัญชี WL หรือผลักดันให้ไทยหลุดจากทุกบัญชีในอนาคตนั้น ยังคงมีสิ่งที่รัฐบาลจะต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่องต่อไป โดยเฉพาะการปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาทุกรูปแบบ การพัฒนาระบบคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ตลอดจนการส่งเสริมความโปร่งใสและการมีส่วนร่วมของภาคเอกชนในการกำหนดนโยบาย มาตรการ และการดำเนินงานของภาครัฐ ซึ่งล้วนแต่เป็นสิ่งที่รัฐบาลให้ความสำคัญ
ทั้งนี้ นอกจากการเสริมสร้างความเชื่อมั่นด้านการค้าการลงทุนจากการจัดสถานะของสหรัฐแล้ว การดำเนินการของไทยมีเป้าหมาย เพื่อพัฒนาระบบการคุ้มครองและป้องปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน และเหมาะสมกับระดับการพัฒนาประเทศ สามารถตอบสนองความต้องการด้านการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาของคนไทยและจูงใจให้คนไทยเข้าสู่ระบบการคุ้มครองและสามารถใช้ประโยชน์จากทรัพย์สินทางปัญญามากยิ่งขึ้น รวมทั้งสร้างความเข้มแข็งให้นักประดิษฐ์ นักคิด นักสร้างสรรค์ไทย เพิ่มขีดความสามารถด้านการแข่งขันของประเทศ ด้วยทรัพย์สินทางปัญญา อันจะเป็นการส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศให้เป็นไปอย่างมั่นคงยั่งยืนต่อไป.-สำนักข่าวไทย