กรุงเทพฯ 22 เม.ย.-ในวันนี้มีการเปิดตัวศิลปะการป้องกันตัวที่เรียกว่า “ไอคิโด” ที่กำลังเป็นที่แพร่หลายไปทั่วโลก และถือเป็นพื้นฐานในการนำไปใช้ในอาชีพที่ต้องเผชิญกับคนร้าย เช่น ทหาร ตำรวจ และการรักษาความปลอดภัยต่างๆ
สมาคมไอคิโดประเทศไทยจัดงานสัมมนา และโชว์ศิลปะการป้องกันตัวจากญี่ปุ่น ที่เรียกว่า “ไอคิโด” โดยมีผู้ก่อตั้งคือ ปรมาจารย์มอริเฮะ อูเยชิบะ ในปี ค.ศ.1925 (ประมาณ 93 ปีมาแล้ว) ปัจจุบันแพร่หลายไปทั่วโลก มีผู้ฝึกสอนทั่วโลกกว่าล้านคน ศิลปะชนิดนี้นำไปผสมผสานกับวิชาอื่นๆ และใช้ในการควบคุมเหตุร้ายของตำรวจ ทหาร การรักษาความปลอดภัย การให้คำปรึกษา และจิตบำบัด โดยมีหลักสูตรเรียนทางจิตวิทยากับไอคิโด สามารถเรียนได้สูงถึงระดับปริญญาเอก
ไอคิโด เป็นการรวบรวม กลั่นกรอง เอาคุณลักษณะพิเศษของศิลปะการต่อสู้หลายแบบของญี่ปุ่นในสมัยโบราณเข้าด้วยกัน ศิลปะการต่อสู้บางแบบที่พบในวิชาไอคิโดมีอายุนับย้อนหลังไปได้ถึงกว่า 700 ปี ปรมาจารย์ไอคิโดศึกษาวิชาเหล่านี้จากอาจารย์ดั้งเดิม ซึ่งหลายคนล่วงลับไปโดยไม่ได้ถ่ายทอดวิชาให้คนอื่น ๆ อีก นอกจากปรมาจารย์ของไอคิโดเท่านั้น
ศิลปะการต่อสู้แบบไอคิโด ก็คือ ยิวยิตสู วิชาดาบ และหอก ปรมาจารย์ยังได้ศึกษาศาสนาอย่างลึกซึ้ง โดยมีการพัฒนาทางจิตวิญญาณเอาปรัชญาของศาสนามาประยุกต์เข้ากับศิลปะการต่อสู้ เพื่อให้ศิลปะการต่อสู้ก้าวพ้นไปจากระดับของการเอาชนะคู่ต่อสู้หรือทำร้าย ทำลายชีวิตผู้อื่น ไปสู่จุดมุ่งหมายที่สูงส่งหรือลึกซึ้งกว่า
ไอคิโด ไม่ใช่เป็นเพียงแค่วิธีทุ่มคู่ต่อสู้ หรือเอาชนะผู้อื่นเพื่อสนองอัตตาของตนเองเท่านั้น แต่จุดมุ่งหมายที่ว่าก็คือ การฝึกไอคิโดเป็นไปเพื่อปรับปรุงความสามารถในการรับรู้คนอื่นๆ ให้ละเอียดอ่อนขึ้น ทั้งในด้านจิตใจ ความรู้สึก ความต้องการ, ปรับปรุงความสามารถในการควบคุมตนเอง, กุญแจที่ถือว่าเป็นหัวใจของวิชาไอคิโดก็คือ “มูซูบิ” (Musubi) ถ้าเป็นภาษาอังกฤษ คือคำว่า Unity ความเป็นหนึ่งเดียว โดยในแนวทางปฏิบัติ มูซูบิ หมายถึงความสามารถที่จะสร้างความกลมกลืน ทั้งในด้านร่างกายและจิตใจ กลมกลืนกับพลังและความเคลื่อนไหวของคู่ฝึก เป็นการศึกษาในเรื่องของการสื่อสารระหว่างบุคคล
ศิลปะการป้องกันตัวชนิดนี้เริ่มได้รับความสนใจมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในระดับชั้นมัธยม จนถึงอุดมศึกษา เพราะเป็นการเข้าถึงปรัชญาการป้องกันตัว เน้นในเรื่องความสงบ ความกลมเกลียว นำไปปรับใช้กับชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ยังเป็นการส่งเสริมการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ มีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง มีจิตใจแจ่มใส.-สำนักข่าวไทย