fbpx

“ไอติม” ชี้นักการเมืองรุ่นใหม่ต้องจับมือรุ่นเก่าพัฒนาประเทศ

พรรคประชาธิปัตย์ 21 เม.ย.-  “ไอติม” ยันสนใจงานการเมือง เปรียบ ประชาธิปไตยสมบูรณ์ เหมือนเก้าอี้ 4 ขา ย้ำนักการเมืองรุ่นใหม่ต้องร่วมมือรุ่นเก่าพัฒนาประเทศ


 

นายพริษฐ์ วัชรสินธุ หรือ ไอติม หลานชายนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยกับสำนักข่าวไทย ว่า เชื่อว่าเวลานี้หลายคนคาดหวังว่าประเทศไทยจะกลับสู่ระบอบประชาธิปไตย แต่ประชาธิปไตยในอดีตมีความขัดแย้งสูงจึงหวังว่า ประชาธิปไตยที่จะได้คืนมาจะเป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบและยั่งยืน หากถามว่าจะทำอย่างไรให้เป็นแบบนั้น ตนยึดมั่นในอุดมการณ์เสรีประชาธิปไตย คือ ความเชื่อที่ว่าประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบไม่ใช่แค่การเข้าสู่อำนาจหรือการเลือกตั้งแต่การบริหารอำนาจก็ต้องเป็นประชาธิปไตยด้วย 


“ประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบเปรียบเสมือนเก้าอี้ 4 ขา ขาที่หนึ่ง คือ การเลือกตั้ง การเคารพเสียงข้างมาก ไม่ล้มรัฐบาลนอกรัฐสภา ขาที่สอง คือ การเคารพสิทธิมนุษยชนของทุกคนไม่ว่าจะเสียงข้างมากหรือเสียงข้างน้อย ความเท่าเทียมกันของเพศ ศาสนา การจัดสรรงบประมาณที่ครอบคลุมทุกภาค โดยเฉพาะเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและเสรีภาพของสื่อ ขาที่สาม คือ การกระจายอำนาจอย่างเต็มรูปแบบด้วยการให้ทุกจังหวัดสามารถเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดได้ เพื่อที่แต่ละจังหวัดจะได้จัดการปัญหาโดยคนของตนเองได้ แต่ก็ต้องควบคู่กับความโปร่งใส ไม่มีการทุจริตคอร์รัปชั่น ส่วนขาที่สี่ คือ การถ่วงดุลอำนาจ การตรวจสอบรัฐบาลทั้งระบบศาล องค์กรอิสระและภาคประชาชน ซึ่งขณะนี้ประชาชนเริ่มตื่นตัวแล้ว แต่จะทำอย่างไรให้ประชาชนมีช่องทางเข้าถึงข้อมูลและสามารถตรวจสอบรัฐบาลได้ ทั้งนี้มองว่าหากเก้าอี้ขาดขาข้างใดข้างหนึ่งไป เก้าอี้ก็จะล้ม เช่นเดียวกับประชาธิปไตยที่จะไม่ยั่งยืนแล้วกลับสู่ความขัดแย้ง ซึ่งอาจนำไปสู่การรัฐประหารอีกครั้งได้”  นายพริษฐ์ กล่าวอีกว่า 

ส่วนตัวเป็นคนที่สนใจการเมืองมาตั้งแต่เด็ก เมื่อตอนอายุ 13 ปีที่ได้รับทุนการศึกษาไปเรียนที่ประเทศอังกฤษ สิ่งแรกที่ตนสังเกตเห็นคือ ระบบการปกครองของไทยและอังกฤษนั้นเหมือนกัน คือ ระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์เป็นพระประมุข แต่สิ่งที่ต่างกันคือความเหลื่อมล้ำ เพราะในประเทศอังกฤษ ผู้ปกครองจะส่งลูกไปเรียนที่โรงเรียนใกล้บ้านที่สุด ส่งคุณตาคุณยายไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลที่ใกล้บ้านที่สุด แต่ที่ประเทศไทย ทุกคนมักจะสนใจสมัครเรียนโรงเรียนที่มีชื่อเสียง ขณะที่คนป่วยหลายคนก็ต้องเสียค่าเดินทางจากต่างจังหวัดเพื่อมารักษาตัวในโรงพยาบาลที่กรุงเทพมหานคร จึงเป็นส่วนหนึ่งที่จุดประกายให้ตนอยากกลับมาพัฒนาประเทศไทย แต่ก็ไม่จำเป็นว่าจะต้องในฐานะทางการเมือง ทั้งนี้ ในช่วง 2 ปีแรกหลังจากจบการศึกษาได้ทำงานเป็นที่ปรึกษาเชิงกลยุทธ์ให้กับรัฐบาลต่างประเทศจึงได้มีโอกาสทำงานเกี่ยวกับนโยบายต่างๆทั้งการท่องเที่ยว การศึกษา การสาธารณสุข เรื่องดิจิทัลกับรัฐบาลทั่วโลก อาทิ อังกฤษ ศรีลังกา มาเลเซีย เป็นต้น ดังนั้น จึงมองว่าการพัฒนาประเทศไม่จำเป็นต้องผ่านงานทางการเมืองเพียงอย่างเดียว แต่หลังจากตนได้เก็บประสบการณ์จากงานที่ปรึกษาก็อยากจะทำงานทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตย เพราะมองว่าความสำเร็จของนักการเมืองขึ้นอยู่กับว่าได้ทำผลประโยชน์ให้กับประเทศและประชาชนได้มากแค่ไหน และระบอบประชาธิปไตยนั้น ถือว่าประชาชนเป็นเจ้านายของนักการเมือง ประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินใจว่านักการเมืองจะได้ทำงานต่อหรือหยุดการทำงาน จึงยอมรับว่า ขณะนี้สนใจการทำงานทางการเมือง

นายพริษฐ์  กล่าวอีกว่า อยากให้นักการเมืองรุ่นเก่ารับฟังความคิดเห็นของคนรุ่นใหม่ ขณะที่คนรุ่นใหม่ก็ต้องรับฟังความคิดเห็นของคนรุ่นเก่าด้วย เพราะคนรุ่นเก่าจะมีมุมมองและประสบการณ์ที่ต่างจากคนรุ่นใหม่ ซึ่งก่อนหน้านี้ ตนได้มีโอกาสไปพูดคุยกับแพทย์ที่เป็นเพื่อนร่วมงานของพ่อแม่ ทำให้ทราบว่าโรงพยาบาลแห่งหนึ่งกำลังจะมีการปรับโฉม ทุกอย่างจะเป็นดิจิทัล ไม่มีกระดาษแล้ว ในฐานะคนรุ่นใหม่ก็จะมองว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะเก็บข้อมูลได้มากขึ้นก็จะวิเคราะห์และพัฒนาการรักษาได้มากขึ้น รวมทั้งลดค่าใช้จ่ายและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการไม่ใช้กระดาษ แต่ในฐานะคนรุ่นเก่าไม่เห็นด้วย เพราะการเปลี่ยนแปลงของโรงพยาบาลนั้นเกิดขึ้นเร็วเกินไปและไม่ใช่เรื่องง่าย การที่ตนเข้ามาทำงานในพรรคประชาธิปัตย์ที่มีคนรุ่นเก่าจำนวนมากนั้น นับว่าเป็นบททดสอบที่ดี โดยจุดเป้าหมายของพรรคการเมืองคือการเข้าไปบริหารประเทศ เมื่อพรรคการเมืองเข้าไปบริหารประเทศแล้วก็ต้องทำงานร่วมกับข้าราชการกระทรวงต่างๆที่แน่นอนว่าจะต้องมีคนรุ่นเก่าจำนวนมากเช่นกัน ดังนั้น หลีกเลี่ยงไม่ได้ว่าการพัฒนาประเทศจะต้องเป็นความร่วมมือกันระหว่างคนรุ่นเก่าและคนรุ่นใหม่และจะทำให้เกิดความยั่งยืน


“คนรุ่นใหม่จะเอาอะไรไปสู้กับคนรุ่นเก่าได้นั้น ส่วนตัวมองว่าประชาชนไม่ได้เลือกคนที่อายุ แต่เลือกที่อุดมการณ์และนโยบาย ซึ่งเป็นสิ่งที่คนรุ่นใหม่จะนำไปเสนอ ดังนั้นหากมีโอกาสได้ลงสมัครรับเลือกตั้ง แต่พ่ายแพ้เพราะอุดมการณ์ไม่ตอบโจทย์ประชาชน ผมก็ต้องกลับมาทบทวนว่าสิ่งที่วิเคราะห์นั้นดีพอหรือไม่ แต่เชื่อมั่นว่าประชาชนจะไม่เลือกคนเพราะอิทธิพลหรือเงินของคนรุ่นเก่าอย่างแน่นอน ทุกคนทราบดีว่าอะไรดีที่สุดสำหรับตนเอง” 

นายพริษฐ์ กล่าวด้วยว่า หลังจากนี้ต้องทำหน้าที่ตามกฎหมายด้วยการเข้าไปรับราชการทหารก่อน หลังจากออกจากกรมมาแล้วก็จะพิจารณาดูว่ามีพรรคการเมืองใหม่ที่มีอุดมการณ์ตรงกับตนหรือไม่ แต่ในขณะนี้ พรรคประชาธิปัตย์ในยุคใหม่ที่ยึดมั่นในเสรีประชาธิปไตยก็น่าจะเป็นตัวแทนของตนได้ ส่วนจะได้มีโอกาสเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งหรือไม่นั้นต้องขึ้นอยู่กับสมาชิกพรรค ซึ่งไม่เพียงแค่ผู้สมัครเท่านั้นที่สมาชิกเป็นคนกำหนด แต่ตำแหน่งหัวหน้าพรรคก็ให้สมาชิกเป็นผู้กำหนดด้วยเช่นกัน นับว่าเป็นสิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์ให้มากกว่าที่กฎหมายกำหนดด้วย ทั้งนี้หากได้เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งแล้ว ก็ต้องดูว่าเวลาที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งนั้นสอดคล้องกับการทำหน้าที่ทหารของตนหรือไม่ด้วย ส่วนตัวก็หวังว่า หลังจากตนออกจากกรมแล้ว พรรคประชาธิปัตย์ยุคใหม่ก็ยังมีแนวคิดที่ตนอยากให้เป็น

อย่างไรก็ตาม หากออกจากกรมแล้วแต่ก็ยังไม่มีกำหนดการเลือกตั้งที่ชัดเจน ตนก็ยังทำงานเพื่อหาประสบการณ์ต่อไป ทั้งงานที่ปรึกษาเชิงกลยุทธ์ และงานรายการโทรทัศน์ที่เป็นสารคดีติดตามชีวิตของคนไทยในแต่ละสาขาอาชีพ ซึ่งมองว่าเป็นกระบวนการเรียนรู้ที่ดีและเป็นการเพิ่มความรู้ และจะไม่ละทิ้งงานดังกล่าวจนกว่าจะมีโอกาสได้เข้ามาทำงานทางการเมืองเพื่อในอนาคตจะได้สร้างนโยบายที่ตอบโจทย์ประชาชนได้ดี ยืนยันว่าการทำรายการติดตามชีวิตคนไทยแต่ละอาชีพไม่ใช่การหาเสียง เพราะไม่ได้ทำรายการในนามพรรคการเมืองแต่เป็นกระบวนการเรียนรู้ของตนเองและเชื่อว่าหลายคนก็อยากรู้ชีวิตของแต่ละอาชีพจึงได้ผลิตเป็นรายการโทรทัศน์ .- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มหาวิทยาลัยแจงเหตุ นศ.สาวปี 3 แทงแฟน นศ.ปี 1 สาหัส

มหาวิทยาลัยออกแถลงการณ์ชี้แจงกรณีนักศึกษาหญิงทำร้ายนักศึกษาชาย ในหอพักจนบาดเจ็บสาหัส ด้านตำรวจยืนยันนักศึกษาหญิงที่ก่อเหตุมอบตัวแล้ว ยอมรับเป็นแฟนและทะเลาะกัน

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

ข่าวแนะนำ

คุมเพลิงไหม้ “วิน โพรเสส” ได้แล้ว 95%

เหตุไฟไหม้โรงงานเก็บขยะเคมีอันตราย วินโพรเสส อ.บ้านค่าย จ.ระยอง วันนี้ เจ้าหน้าที่ควบคุมเพลิงได้แล้ว 95% เหลือเพียงจุดความร้อนที่อยู่ใต้ซากกองเพลิง ซึ่งยังต้องใช้สาร F500 ฉีดลดความร้อน แต่ยังมีกลิ่นฉุนแอมโมเนีย ด้านกรมโรงงานอุตสาหกรรมเช็กกล้องวงจรปิดตรวจสอบว่าเป็นการวางเพลิงเพื่อทำลายหลักฐานเช่นเดียวกับเหตุที่เกิดขึ้นใน อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา หรือไม่

นายกฯ แจงเรียก “สุชาติ-รัฐมนตรี” เข้าพบ แค่ตามงาน

นายกฯ อารมณ์ดี เดินลงตึกไทยฯ พบสื่อ แจงเรียก “สุชาติ-รมต.” มีชื่อหลุด ครม.เข้าพบแค่ตามงาน ย้ำปรับ ครม.เสร็จเมื่อไหร่เดี๋ยวก็รู้ ยันกินข่าวเที่ยงวานนี้ไม่มี ”ทักษิณ“

รวบ 2 ใน 4 อุ้มฆ่าหนุ่มไทใหญ่ทิ้งป่า อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่

รวบแล้ว 2 ใน 4 ผู้ต้องหาอุ้มฆ่า “จ๋อมวัน” หนุ่มไทใหญ่ ก่อนนำศพไปทิ้งในป่าที่ จ.เชียงใหม่ ปมสังหารอ้างไม่พอใจถูกแซวเรื่องหญิงคนสนิท

ดวงอาทิตย์ตั้งฉาก กทม.ครั้งแรกของปี

วันนี้เป็นครั้งแรกของปีที่ดวงอาทิตย์จะโคจรมาอยู่ในตำแหน่งตั้งฉากกับพื้นที่ กทม. ส่งผลให้ดวงอาทิตย์เคลื่อนผ่านใกล้จุดเหนือศีรษะ หรือตั้งฉากกับพื้นที่บริเวณต่างๆ ของไทย 2 ครั้งต่อปี คือช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค. และเดือน ก.ค.-ก.ย.