“ไอติม” ชี้นักการเมืองรุ่นใหม่ต้องจับมือรุ่นเก่าพัฒนาประเทศ

พรรคประชาธิปัตย์ 21 เม.ย.-  “ไอติม” ยันสนใจงานการเมือง เปรียบ ประชาธิปไตยสมบูรณ์ เหมือนเก้าอี้ 4 ขา ย้ำนักการเมืองรุ่นใหม่ต้องร่วมมือรุ่นเก่าพัฒนาประเทศ


 

นายพริษฐ์ วัชรสินธุ หรือ ไอติม หลานชายนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยกับสำนักข่าวไทย ว่า เชื่อว่าเวลานี้หลายคนคาดหวังว่าประเทศไทยจะกลับสู่ระบอบประชาธิปไตย แต่ประชาธิปไตยในอดีตมีความขัดแย้งสูงจึงหวังว่า ประชาธิปไตยที่จะได้คืนมาจะเป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบและยั่งยืน หากถามว่าจะทำอย่างไรให้เป็นแบบนั้น ตนยึดมั่นในอุดมการณ์เสรีประชาธิปไตย คือ ความเชื่อที่ว่าประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบไม่ใช่แค่การเข้าสู่อำนาจหรือการเลือกตั้งแต่การบริหารอำนาจก็ต้องเป็นประชาธิปไตยด้วย 


“ประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบเปรียบเสมือนเก้าอี้ 4 ขา ขาที่หนึ่ง คือ การเลือกตั้ง การเคารพเสียงข้างมาก ไม่ล้มรัฐบาลนอกรัฐสภา ขาที่สอง คือ การเคารพสิทธิมนุษยชนของทุกคนไม่ว่าจะเสียงข้างมากหรือเสียงข้างน้อย ความเท่าเทียมกันของเพศ ศาสนา การจัดสรรงบประมาณที่ครอบคลุมทุกภาค โดยเฉพาะเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและเสรีภาพของสื่อ ขาที่สาม คือ การกระจายอำนาจอย่างเต็มรูปแบบด้วยการให้ทุกจังหวัดสามารถเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดได้ เพื่อที่แต่ละจังหวัดจะได้จัดการปัญหาโดยคนของตนเองได้ แต่ก็ต้องควบคู่กับความโปร่งใส ไม่มีการทุจริตคอร์รัปชั่น ส่วนขาที่สี่ คือ การถ่วงดุลอำนาจ การตรวจสอบรัฐบาลทั้งระบบศาล องค์กรอิสระและภาคประชาชน ซึ่งขณะนี้ประชาชนเริ่มตื่นตัวแล้ว แต่จะทำอย่างไรให้ประชาชนมีช่องทางเข้าถึงข้อมูลและสามารถตรวจสอบรัฐบาลได้ ทั้งนี้มองว่าหากเก้าอี้ขาดขาข้างใดข้างหนึ่งไป เก้าอี้ก็จะล้ม เช่นเดียวกับประชาธิปไตยที่จะไม่ยั่งยืนแล้วกลับสู่ความขัดแย้ง ซึ่งอาจนำไปสู่การรัฐประหารอีกครั้งได้”  นายพริษฐ์ กล่าวอีกว่า 

ส่วนตัวเป็นคนที่สนใจการเมืองมาตั้งแต่เด็ก เมื่อตอนอายุ 13 ปีที่ได้รับทุนการศึกษาไปเรียนที่ประเทศอังกฤษ สิ่งแรกที่ตนสังเกตเห็นคือ ระบบการปกครองของไทยและอังกฤษนั้นเหมือนกัน คือ ระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์เป็นพระประมุข แต่สิ่งที่ต่างกันคือความเหลื่อมล้ำ เพราะในประเทศอังกฤษ ผู้ปกครองจะส่งลูกไปเรียนที่โรงเรียนใกล้บ้านที่สุด ส่งคุณตาคุณยายไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลที่ใกล้บ้านที่สุด แต่ที่ประเทศไทย ทุกคนมักจะสนใจสมัครเรียนโรงเรียนที่มีชื่อเสียง ขณะที่คนป่วยหลายคนก็ต้องเสียค่าเดินทางจากต่างจังหวัดเพื่อมารักษาตัวในโรงพยาบาลที่กรุงเทพมหานคร จึงเป็นส่วนหนึ่งที่จุดประกายให้ตนอยากกลับมาพัฒนาประเทศไทย แต่ก็ไม่จำเป็นว่าจะต้องในฐานะทางการเมือง ทั้งนี้ ในช่วง 2 ปีแรกหลังจากจบการศึกษาได้ทำงานเป็นที่ปรึกษาเชิงกลยุทธ์ให้กับรัฐบาลต่างประเทศจึงได้มีโอกาสทำงานเกี่ยวกับนโยบายต่างๆทั้งการท่องเที่ยว การศึกษา การสาธารณสุข เรื่องดิจิทัลกับรัฐบาลทั่วโลก อาทิ อังกฤษ ศรีลังกา มาเลเซีย เป็นต้น ดังนั้น จึงมองว่าการพัฒนาประเทศไม่จำเป็นต้องผ่านงานทางการเมืองเพียงอย่างเดียว แต่หลังจากตนได้เก็บประสบการณ์จากงานที่ปรึกษาก็อยากจะทำงานทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตย เพราะมองว่าความสำเร็จของนักการเมืองขึ้นอยู่กับว่าได้ทำผลประโยชน์ให้กับประเทศและประชาชนได้มากแค่ไหน และระบอบประชาธิปไตยนั้น ถือว่าประชาชนเป็นเจ้านายของนักการเมือง ประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินใจว่านักการเมืองจะได้ทำงานต่อหรือหยุดการทำงาน จึงยอมรับว่า ขณะนี้สนใจการทำงานทางการเมือง

นายพริษฐ์  กล่าวอีกว่า อยากให้นักการเมืองรุ่นเก่ารับฟังความคิดเห็นของคนรุ่นใหม่ ขณะที่คนรุ่นใหม่ก็ต้องรับฟังความคิดเห็นของคนรุ่นเก่าด้วย เพราะคนรุ่นเก่าจะมีมุมมองและประสบการณ์ที่ต่างจากคนรุ่นใหม่ ซึ่งก่อนหน้านี้ ตนได้มีโอกาสไปพูดคุยกับแพทย์ที่เป็นเพื่อนร่วมงานของพ่อแม่ ทำให้ทราบว่าโรงพยาบาลแห่งหนึ่งกำลังจะมีการปรับโฉม ทุกอย่างจะเป็นดิจิทัล ไม่มีกระดาษแล้ว ในฐานะคนรุ่นใหม่ก็จะมองว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะเก็บข้อมูลได้มากขึ้นก็จะวิเคราะห์และพัฒนาการรักษาได้มากขึ้น รวมทั้งลดค่าใช้จ่ายและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการไม่ใช้กระดาษ แต่ในฐานะคนรุ่นเก่าไม่เห็นด้วย เพราะการเปลี่ยนแปลงของโรงพยาบาลนั้นเกิดขึ้นเร็วเกินไปและไม่ใช่เรื่องง่าย การที่ตนเข้ามาทำงานในพรรคประชาธิปัตย์ที่มีคนรุ่นเก่าจำนวนมากนั้น นับว่าเป็นบททดสอบที่ดี โดยจุดเป้าหมายของพรรคการเมืองคือการเข้าไปบริหารประเทศ เมื่อพรรคการเมืองเข้าไปบริหารประเทศแล้วก็ต้องทำงานร่วมกับข้าราชการกระทรวงต่างๆที่แน่นอนว่าจะต้องมีคนรุ่นเก่าจำนวนมากเช่นกัน ดังนั้น หลีกเลี่ยงไม่ได้ว่าการพัฒนาประเทศจะต้องเป็นความร่วมมือกันระหว่างคนรุ่นเก่าและคนรุ่นใหม่และจะทำให้เกิดความยั่งยืน


“คนรุ่นใหม่จะเอาอะไรไปสู้กับคนรุ่นเก่าได้นั้น ส่วนตัวมองว่าประชาชนไม่ได้เลือกคนที่อายุ แต่เลือกที่อุดมการณ์และนโยบาย ซึ่งเป็นสิ่งที่คนรุ่นใหม่จะนำไปเสนอ ดังนั้นหากมีโอกาสได้ลงสมัครรับเลือกตั้ง แต่พ่ายแพ้เพราะอุดมการณ์ไม่ตอบโจทย์ประชาชน ผมก็ต้องกลับมาทบทวนว่าสิ่งที่วิเคราะห์นั้นดีพอหรือไม่ แต่เชื่อมั่นว่าประชาชนจะไม่เลือกคนเพราะอิทธิพลหรือเงินของคนรุ่นเก่าอย่างแน่นอน ทุกคนทราบดีว่าอะไรดีที่สุดสำหรับตนเอง” 

นายพริษฐ์ กล่าวด้วยว่า หลังจากนี้ต้องทำหน้าที่ตามกฎหมายด้วยการเข้าไปรับราชการทหารก่อน หลังจากออกจากกรมมาแล้วก็จะพิจารณาดูว่ามีพรรคการเมืองใหม่ที่มีอุดมการณ์ตรงกับตนหรือไม่ แต่ในขณะนี้ พรรคประชาธิปัตย์ในยุคใหม่ที่ยึดมั่นในเสรีประชาธิปไตยก็น่าจะเป็นตัวแทนของตนได้ ส่วนจะได้มีโอกาสเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งหรือไม่นั้นต้องขึ้นอยู่กับสมาชิกพรรค ซึ่งไม่เพียงแค่ผู้สมัครเท่านั้นที่สมาชิกเป็นคนกำหนด แต่ตำแหน่งหัวหน้าพรรคก็ให้สมาชิกเป็นผู้กำหนดด้วยเช่นกัน นับว่าเป็นสิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์ให้มากกว่าที่กฎหมายกำหนดด้วย ทั้งนี้หากได้เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งแล้ว ก็ต้องดูว่าเวลาที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งนั้นสอดคล้องกับการทำหน้าที่ทหารของตนหรือไม่ด้วย ส่วนตัวก็หวังว่า หลังจากตนออกจากกรมแล้ว พรรคประชาธิปัตย์ยุคใหม่ก็ยังมีแนวคิดที่ตนอยากให้เป็น

อย่างไรก็ตาม หากออกจากกรมแล้วแต่ก็ยังไม่มีกำหนดการเลือกตั้งที่ชัดเจน ตนก็ยังทำงานเพื่อหาประสบการณ์ต่อไป ทั้งงานที่ปรึกษาเชิงกลยุทธ์ และงานรายการโทรทัศน์ที่เป็นสารคดีติดตามชีวิตของคนไทยในแต่ละสาขาอาชีพ ซึ่งมองว่าเป็นกระบวนการเรียนรู้ที่ดีและเป็นการเพิ่มความรู้ และจะไม่ละทิ้งงานดังกล่าวจนกว่าจะมีโอกาสได้เข้ามาทำงานทางการเมืองเพื่อในอนาคตจะได้สร้างนโยบายที่ตอบโจทย์ประชาชนได้ดี ยืนยันว่าการทำรายการติดตามชีวิตคนไทยแต่ละอาชีพไม่ใช่การหาเสียง เพราะไม่ได้ทำรายการในนามพรรคการเมืองแต่เป็นกระบวนการเรียนรู้ของตนเองและเชื่อว่าหลายคนก็อยากรู้ชีวิตของแต่ละอาชีพจึงได้ผลิตเป็นรายการโทรทัศน์ .- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

ปิดล้อมกว่า 8 ชม. จับหนุ่มคลั่งควงปืนสงครามขู่ยิง ตร.

ศรีสะเกษ 17 ก.ย. – พ่อค้ายาเสพติดคลุ้มคลั่ง ควงปืนสงคราม AK-47 ขู่ยิงเจ้าหน้าที่ หลังถูกชุดปฏิบัติการ 238 พิทักษ์นครลำดวน สนธิกำลังตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง ปิดล้อมบ้านเป้าหมายพื้นที่ อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ เกลี้ยกล่อมนานกว่า 8 ชั่วโมง สุดท้ายทนแรงกดดันไม่ไหว ยอมวางอาวุธมอบตัวแต่โดยดี เจ้าหน้าที่พยายามใช้ยุทธวิธีเจรจาเกลี้ยกล่อมนายวีระศักดิ์ อายุ 35 ปี มีประวัติพัวพันการค้ายาเสพติด ครอบครองอาวุธสงคราม และยังเป็นบุคคลตามหมายจับของศาลจังหวัดสุรินทร์ ซึ่งวิ่งเข้าไปหลบภายในบ้าน ต.หนองกุง อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ หลังตำรวจแสดงตัวเข้าตรวจค้น เพราะได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่าเป็นเครือข่ายค้ายาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่ มีพฤติกรรมอุกอาจ แต่นายวีระศักดิ์กลับวิ่งไปหยิบอาวุธปืนสงคราม AK-47 ออกมาขู่เจ้าหน้าที่ พร้อมตะโกนด้วยเสียงดุดันว่าถ้าเข้ามาจะยิง จากนั้นรีบหลบกลับเข้าไปในบ้าน เจ้าหน้าที่ต้องระดมกำลังทั้งตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ปิดล้อมบริเวณโดยรอบอย่างแน่นหนา เพื่อป้องกันเหตุร้าย บรรยากาศตึงเครียด เจ้าหน้าที่พยายามใช้ยุทธวิธีเจรจาเกลี้ยกล่อม ทั้งให้พ่อแม่และญาติสื่อสารทางโทรศัพท์ หวังให้ผู้ต้องหายอมมอบตัวแต่ไม่เป็นผล เนื่องจากนายวีระศักดิ์ยังอยู่ในอาการคลุ้มคลั่งจากการเสพยาบ้า ถือปืนพร้อมยิงตลอดเวลา นานกว่า 8 ชั่วโมง […]

ช่องโดนเอาว์เจอ PMN-2 อีก 8 ทุ่น ทบ.ชี้เขมรยังละเมิดข้อตกลง

17 ก.ย.- ทบ. แจงตรวจพบ PMN-2 เพิ่มเติมอีก 8 ทุ่นบริเวณช่องโดนเอาว์ จ.ศรีสะเกษ ชี้กัมพูชายังคงละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ย้ำควรรับผิดชอบและร่วมแก้ไขปัญหาอย่างจริงใจ วันนี้ (17 ก.ย.68) ที่กองบัญชาการกองทัพบก พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่ากองทัพบกได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 ภายหลังจากที่กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 132 ฐานปฏิบัติการชนะศึก ได้ร่วมกับศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ (TMAC) ปฏิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อเสริมภารกิจด้านความมั่นคงในพื้นที่ช่องโดนเอาว์ ฐานปฏิบัติการชนะศึก อ.กันทรลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ วานนี้ (16 ก.ย.68) โดยได้ตรวจพบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลแบบ PMN-2 จำนวน 8 ลูก มีสภาพใหม่ ติดตั้งในลักษณะพร้อมทำงาน ซึ่งทางหน่วยได้ทำการเก็บกู้รื้อถอนและนำเก็บเพื่อรอการทำลายเป็นที่เรียบร้อย สำหรับการตรวจพบระเบิดดังกล่าว เป็นเครื่องยืนยันว่าฝ่ายกัมพูชายังคงมีความพยายามอย่างไม่ลดละในการใช้อาวุธต่อกำลังของฝ่ายไทย ซึ่งถือเป็นการละเมิดต่อข้อตกลงหยุดยิงอย่างชัดเจน และเป็นพฤติกรรมที่สวนทางกับข้อตกลงที่กัมพูชาได้ให้ไว้ในที่ประชุม GBC เมื่อวันที่ 10 ส.ค.68 ที่ผ่านมา ในเรื่องความร่วมมือที่จะดำเนินการเก็บกู้ทุ่นระเบิด ซึ่งจากนี้กองทัพบกจะนำหลักฐานที่ได้ตรวจพบทั้งหมดในพื้นที่ รวบรวมนำส่งให้ส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อร้องเรียนตามกระบวนการในเวทีสากลต่างๆ ต่อไป รวมทั้งขอความร่วมมือกัมพูชา […]

ไทม์ไลน์เหตุเผชิญหน้า “บ้านหนองหญ้าแก้ว” เขมรป่วนไม่เลิก

17 ก.ย.- เปิดไทม์ไลน์เหตุเผชิญหน้า “บ้านหนองหญ้าแก้ว” เจ้าหน้าที่ใช้แก๊สน้ำตา-กระสุนยาง หลังชาวเขมรชุมนุมประท้วง ก่อความวุ่นวาย ล่าสุดสถานการณ์ทั่วไปอยู่ในความควบคุม แต่กลุ่มชาวกัมพูชายังคงปักหลักใกล้แนวชายแดน.-สำนักข่าวไทย

ทำเนียบฯ เตรียมพร้อมสถานที่รับนายกฯ-ครม.ใหม่

ทำเนียบ 17 ก.ย.- ทำเนียบรัฐบาล เตรียมพร้อมสถานที่รับนายกฯ-ครม.ใหม่ ถ่ายรูปติดบัตร ก่อนถวายสัตย์ปฏิญาณ ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่ทำเนียบรัฐบาลได้จัดเตรียมสถานที่สำหรับถ่ายรูปติดบัตรประจำตัวของคณะรัฐมนตรี ก่อนเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอน และยังมีการตัดแต่งต้นไม้ บริเวณโดยรอบทำเนียบรัฐบาล และตัดหญ้าด้านหน้าตึกไทยคู่ฟ้า เพื่อเตรียมพื้นที่สำหรับการถ่ายรูปหมู่คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ตั้งแต่เมื่อวานนี้ (16 ก.ย.) นอกจากนี้ ยังมีความเคลื่อนไหวที่ตึกบัญชาการ 1 ซึ่งเป็นห้องทำงานของรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่ช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา และวันนี้มีการส่งทีมงานเข้ามาดูห้องทำงานภายในตึกบัญชาการ 1 ด้วย สำหรับตำแหน่งว่าที่รองนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลอนุทิน มีชื่อทั้งหมด 7 คน ได้แก่ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม, นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง, ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์, นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข, นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี และนายโสภณ​ ​ซา​รัมย์​ รอง​นายก​รัฐมนตรี​ ขณะที่ตำแหน่งว่าที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี […]