กรุงเทพฯ 5 เม.ย. – คมนาคมเดินหน้าแก้ปัญหาพนักงานรถไฟขาด ขณะที่ รฟท.ยอมรับหากไม่ได้รับการปลดล็อครับพนักงานใหม่จะเข้าสู่วิกฤติปี 64-65 อาจจำเป็นต้องยกเลิกบางเส้นทาง
นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวถึงปัญหาขาดพนักงานฝ่ายปฏิบัติการของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) หลังจากได้รับผลกระทบมติ ครม.เมื่อปี 2541 ทำให้สามารถรับพนักงานเพิ่มจากอัตราที่เกษียณแต่ละปีร้อยละ 5 ของผู้ที่เกษียณทั้งหมด ส่งผลให้ขาดเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานโดยเฉพาะฝ่ายปฏิบัติการ ทั้งเจ้าหน้าที่ประจำสถานี พนักงานประจำรถ พนักงานห้ามล้อ ขณะที่พนักงานที่เหลือในปัจจุบันต้องปฏิบัติงานและทำโอทีเพิ่มจนบางครั้งเกิดความอ่อนล้า ว่า เข้าใจถึงปัญหาดังกล่าวและที่ผ่านมาเคยเสนอคณะกรรมการนโยบายและกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ (คนร.) และเดือนพฤษภาคมนี้จะเสนอปัญหาดังกล่าวเข้าสู่การประชุม คนร.อีกครั้ง หากอนุมัติจะเสนอ ครม.อนุมัติปลดล็อคมติเดิม คาดว่า รฟท.จะสามารถเปิดรับพนักงานใหม่ได้
นางสิริมา หิรัญเจริญเวช รองผู้ว่าการ รฟท. ยอมรับว่า รฟท.มีปัญหาขาดพนักงานจริง เมื่อตรวจสอบพบว่าพนักงานต้องทำงานเฉลี่ยคนละ 6 วัน ๆ ละ 12 ชั่วโมง ขณะที่ขณะนี้มีพนักงานปฏิบัติงาน 10,300 คน ลูกจ้าง 4,000 คน จากกรอบอัตราที่เคยมีก่อนมีมติ ครม.ปี 2541 จำนวน 18,000 คน และเป้าหมาย ปัจจุบันต้องการมีพนักงาน 16,000 คน ควรเป็นพนักงาน 14,000 คน และลูกจ้างไม่เกิน 2,000 คน เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน ขณะที่ต้นทุนค่าใช้จ่ายด้านโอทีคิดเป็นร้อยละ 25 ของเงินเดือนพนักงานทั้งองค์กรปีละ 3,000 ล้านบาท หรือค่าตอบแทนโอทีพนักงานปีละ 750 ล้านบาท
“ประเมินว่าหากยังไม่สามารถรับพนักงานใหม่เพิ่มได้ เมื่อรถไฟทางคู่เฟสแรกเสร็จปี 2564-2565 ปัญหาขาดพนักงานจะเข้าสู่ภาวะวิกฤติอาจจำเป็นต้องพิจารณาปิดเส้นทาง เพื่อนำมาเกลี่ยปฏิบัติงานในเส้นทางที่จำเป็นต่อการให้บริการ” นางสิริมา กล่าว.-สำนักข่าวไทย