“ประสาร” เร่งปฏิรูปการศึกษา-ลดเหลื่อมล้ำ

จุฬาฯ 5 เม.ย. – “ประสาร” ชี้เศรษฐกิจไทยสดใสตามทิศทางเศรษฐกิจโลก เร่งปฏิรูปการศึกษา ลดเหลื่อมล้ำ เพื่อเป็นเสาหลักในการพัฒนาประเทศ


นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล อดีตผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และประธานกรรมการปฏิรูปประเทศด้านเศรษฐกิจและกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษา กล่าวปาฐกถาพิเศษเนื่องในโอกาสครบรอบ 80 ปี คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี ภายใต้หัวข้อ “ปฏิวัติธุรกิจ ปฏิรูปการศึกษา”  ว่า ปี 2560 เป็นปีแรกที่ทิศทางเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวพร้อมกันหลายภูมิภาค โดยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ประเมินอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจโลกปี 2560 อยู่ที่ร้อยละ 3.7 ขณะที่ปี 2561 และ 2562 มีทิศทางโตต่อเนื่องอยู่ที่ร้อยละ 3.9 ขณะที่ปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ ยังมีค่อนข้างมากโดยเฉพาะมาตรการกีดกันทางการค้าของสหรัฐ ซึ่งส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นทั่วโลก ส่วนอัตราดอกเบี้ยนโยบายของหลายประเทศมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น และแม้ว่าคาบสมุทรเกาหลีจะดูสงบ แต่ปัญหาความขัดแย้งด้านภูมิประเทศทั่วโลกยังมีให้เห็น ปัจจัยเหล่านี้จึงส่งผลให้ตลาดเงินตลาดทุนผันผวน

ขณะที่ทิศทางเศรษฐกิจไทยหลายสำนักคาดการณ์ว่าปีนี้จะเติบโตได้ดีตามทิศทางเศรษฐกิจโลก ด้านการบริโภคและการลงทุนของภาคเอกชนเริ่มปรับตัวสูงขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไป การใช้จ่ายภาครัฐถ้าเป็นไปตามแผนที่วางไว้จะถือเป็นแรงผลักดันสำคัญของเศรษฐกิจไทยปีนี้ และการส่งออกยังฟื้นตัวต่อเนื่อง 


ทั้งนี้ ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีเริ่มเข้ามามีบทบาทในการดำเนินชีวิตประจำวันของทั้งบุคคลและการดำเนินธุรกิจมากขึ้น ใช้ระบบปัญญาประดิษฐ์ ( AI) แทนพนักงาน รวมถึงธนาคารพาณิชย์เริ่มมีการปิดสาขาและแข่งขันกันฟรีค่าธรรมเนียม ซึ่งธนาคารพาณิชย์มีรายได้มากกว่า 10,000 ล้านบาทต่อปีจากค่าธรรมเนียม แต่จำเป็นต้องลดค่าธรรมเนียม เพื่อรักษาฐานลูกค้า 2 – 3 ล้านคนของแต่ละธนาคารไว้

นายประสาร กล่าวว่า ประเทศไทยกำลังเผชิญกับสิ่งที่เป็นปัญหาเชิงโครงสร้าง ประกอบด้วย ศักยภาพการเติบโตของประเทศที่ลดลงมาก ในช่วงปี 2543- 2556 จีดีพีขยายตัวร้อยละ 4.0 ขณะที่ช่วงปี 2530 – 2539 ขยายตัวร้อยละ 8-9 นอกจากนี้ ยังมีปัญหาความเหลื่อมล้ำทางสังคมติดอันดับต้น ๆ ของโลก และสถาบันทางเศรษฐกิจโดยเฉพาะสถาบันภาครัฐไม่ตอบโจทย์ประเทศและเท่าทันการเติบโตของโลก

สำหรับปัจจัยที่จะทำให้ประเทศเดินหน้า นั่นคือ การปฏิรูปการศึกษาไทย ซึ่งปัจจุบันต้องยอมรับว่าระบบคุณภาพการศึกษาไทยต่ำอยู่ในอันดับที่ 8 ของอาเซียน ต่อจากเวียดนามและกัมพูชา การปฏิรูปการศึกษาเป็นช่องทางในการปลดล็อคประเทศ ยกระดับคุณภาพชีวิตช่วยลดช่องว่างการเหลื่อมล้ำทางรายได้ ซึ่งถือเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องแก้ไขและวาระของคนไทยทั้งชาติ 


ทั้งนี้ ประเทศไทยมีการใช้งบประมาณด้านการศึกษาถึงร้อยละ 20 ของงบประมาณทั้งหมดถือว่าสูงระดับต้น ๆ ของเอเชีย แต่มีเด็กถึง 670,000 คนอยู่นอกระบบการศึกษาและมีเด็กในครอบครัวที่รายได้ต่อเดือนไม่ถึง 3,000 บาท จำนวน 2.5 ล้านคน โดยงบประมาณที่รัฐจัดสรรให้ถึงเด็กเพียงประมาณ  50 สตางค์ต่อคนต่อวันเท่านั้น  ขณะที่โรงเรียนในปัจจุบัน 30,000 แห่งมากกว่าครึ่งมีนักเรียนไม่ถึง 150 คน และมหาวิทยาลัยในประเทศไทยมีมากกว่า 100 แห่ง คาดว่าเกินความต้องการของประเทศ อย่างไรก็ตาม ทุกภาคส่วนช่วยกันปฏิรูปการศึกษาให้มีคุณภาพมากกว่าเน้นปริมาณและเท่าทันความต้องการของโลกสร้างองค์ความรู้พัฒนาสังคมและเป็นเสาหลักในการพัฒนาประเทศ .- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” ขอทุกฝ่ายรอศาลปกครองตัดสิน “ที่ดินเขากระโดง”

“อนุทิน” ขอทุกฝ่ายหยุดตอบโต้ปม “เขากระโดง” รอศาลปกครองตัดสินชี้ขาด ยันแม้ไม่ใช่ “มท.หนู” กรมที่ดินก็ตัดสินแบบนี้

เตือนภาคใต้ฝนเพิ่มขึ้น ส่วนไทยตอนบน อุณหภูมิลดลง

กรมอุตุฯ เตือนภาคใต้ฝนเพิ่มขึ้น ตกหนักบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ส่วนไทยตอนบน อุณหภูมิลดลงกับมีลมแรง อีสานอุณหภูมิลด 2-4 องศาฯ ส่วนภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน อุณหภูมิลดลง 1-3 องศาฯ

ข่าวแห่งปี 2567 : รวมฉ้อโกง “ดารา-คนดัง” ไม่รอด

ตลอดปี 2567 ยังมีผู้คนตกเป็นเหยื่อของกลโกง มิจฉาชีพ ที่มาในรูปแบบต่างๆ รวมถึงการลงทุนรูปแบบใหม่ๆ บางคนถึงขั้นสิ้นเนื้อประดาตัว และที่น่าตกใจเริ่มมีคนดังเข้ามาเกี่ยวข้องกับคดีมากขึ้น