กลุ่ม ทปอ.มรภ.ตั้งเป้าปี 65 สนองยุทธศาสตร์พัฒนาท้องถิ่น

กรุงเทพฯ 25 ม.ค. – ทปอ.มรภ. 38 แห่ง ตั้งเป้าปี 65 มุ่งพัฒนาท้องถิ่นร่วมปฏิรูปการศึกษา เร่งขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจ BCG Model


ผศ.ดร.ลินดา เกณฑ์มา อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา ในฐานะประธานที่ประชุมอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏ (ทปอ.มรภ.) เปิดเผยว่าจากการประชุม ทปอ.มรภ.เมื่อเร็ว ๆ นี้ ได้หารือกันเกี่ยวกับนโยบายในการปฏิบัติงานในปี 2565 ร่วมกันของกลุ่ม มรภ.ทั้ง 38 แห่ง ซึ่งที่ประชุมทปอ.มรภ.เห็นตรงกันว่านโยบายและหน้าที่สำคัญของทุกสถาบันในเครือข่ายที่ต้องปฏิบัติคือยุทธศาสตร์มหาวิทยาลัยราชภัฏเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น ซึ่งพบว่ามหาวิทยาลัยราชภัฎแต่ละแห่งได้มีการปรับเปลี่ยนยุทธศาสตร์ดังกล่าวให้ทันเหตุการณ์ปัจจุบัน ด้วยการนำเรื่องการปฏิรูปการศึกษามาร่วมขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจ BCG Model ซึ่งเป็นการพัฒนาเศรษฐกิจแบบองค์รวม 3 มิติไปพร้อมกัน คือ 1.เศรษฐกิจชีวภาพ ที่สร้างมูลค่าเพิ่ม 2. เศรษฐกิจหมุนเวียน เป็นการใช้เทคโนโลยีนำวัสดุต่าง ๆ กลับมาใช้ประโยชน์ให้มากที่สุด และ 3. เศรษฐกิจสีเขียวควบคู่ไปกับการพัฒนาสังคมและการรักษาสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นการประยุกต์ใช้องค์ความรู้ของคณาจารย์และนักศึกษาเข้ามาช่วยเหลือสังคมและชุมชนได้มาก พร้อมกับการถ่ายทอดภูมิปัญญา ศาสตร์พระราชา เพื่อนำเข้าสู่การยกระดับรายวิชาศึกษา มีการนำเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้กับมหาวิทยาลัยราชภัฏเพื่อให้ก้าวทันโลกสู่ศตวรรษที่ 21 โดยเน้นสร้างความเข้มแข็งและประสานงานในกลุ่มราชภัฏ เพื่อสร้างรายได้ สร้างอาชีพ เน้นผู้ประกอบการในยุคดิจิทัล รวมถึงการยกระดับธุรกิจเกษตรตามภูมิภาคต่าง ๆ ด้วย

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้หารือแนวทางการปรับหลักสูตร sandbox สนองนโยบายของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ( อว.) เพื่อเปิดโอกาสให้นักศึกษาทำงานและเรียนไปด้วย ที่สำคัญได้วุฒิการศึกษาด้วย นอกจากนี้ยังได้หารือและติดตามผลการดำเนินงานมูลนิธิคุรุอุปถัมภ์ และโครงการปฏิรูปการศึกษาในรูปแบบสหกิจศึกษาและการศึกษาเชิงบูรณาการกับการทำงาน เพื่อรองรับความต้องการของแรงงาน อีกทั้งยังหารือถึงรูปแบบการผลิตครู การปรับโครงการวิจัยเชิงบูรณาการเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุด ซึ่งงานทั้งหมดสามารถทำเป็นรูปธรรมได้ทันทีภายใต้เครือข่ายความร่วมมือที่เข้มแข็งของอธิการบดีและผู้บริหาร มรภ.ทั้ง 38 แห่ง. -สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผ่าไชน่า เรลเวย์ คว้า 3 โครงการรัฐในภูเก็ต

เหตุการณ์ตึก สตง.ถล่ม กลายเป็นปฐมบทในการปูพรมตรวจสอบบริษัท ไชน่า เรลเวย์ หลังพบเป็นผู้ชนะการประมูลโครงการก่อสร้างตึก สตง. และโครงการรัฐหลายแห่งทั่วประเทศ ล่าสุดที่ จ.ภูเก็ต ตรวจพบ 3 โครงการ และหนึ่งในนั้นกำลังมีปัญหาก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน

มหาสงครามโลก

นักวิชาการชี้ “มหาสงครามโลกครั้งที่ 3” เกิดแน่ถ้าโลกยังตึงเครียด

นักวิชาการด้านความมั่นคงและการต่างประเทศระดับแนวหน้าของไทย มีความเห็นตรงกันว่า หากผู้นำชาติมหาอำนาจไม่เร่งลดระดับความตึงเครียดสถานการณ์โลก

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว หลังอยู่ปฏิบัติภารกิจค้นหา-กู้ชีพ สนับสนุนกู้ภัยไทย เหตุตึก สตง.ถล่ม กว่า 1 สัปดาห์

ธรรมชาติใต้ดินเปลี่ยนไป หลังแผ่นดินไหว 1 สัปดาห์

แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่งแรงสั่นสะเทือนในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ แม้บนพื้นผิวดินจะไม่ได้สร้างความเสียหายมากนัก แต่พบความเปลี่ยนแปลงสภาพใต้ดินจนเกิดปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งหลุมยุบขนาดใหญ่ น้ำพุร้อนที่เคยพุ่งจากใต้ดินหายไป แต่น้ำตกที่แห้งในหน้าแล้งกลับมีน้ำไหลออกมา ซึ่งนักธรณีวิทยายืนยันเป็นผลพวงจากแผ่นดินไหวครั้งนี้

ข่าวแนะนำ

เน้นเครื่องจักรหนักเข้าถึงโซน B, C คาดมีผู้ติดค้างจำนวนมาก

ฝนตกหนักช่วงเช้า เพิ่มอุปสรรคค้นหาผู้ประสบภัย และการรื้อซากอาคาร สตง.ถล่ม เจ้าหน้าที่ทุกส่วนต้องหยุดปฏิบัติภารกิจชั่วคราว วันนี้ยังเน้นใช้เครื่องจักรหนักเข้าถึงโซน B และโซน C ที่มีลักษณะคล้ายร่างกายมนุษย์ติดอยู่ในซาก ด้านทีม K9 ประกาศยุติภารกิจค้นหาผู้สูญหาย

K9 หยุดปฏิบัติภารกิจค้นหาผู้สูญหายตึก สตง.ถล่ม

K9 หยุดปฏิบัติภารกิจค้นหาผู้สูญหายตึก สตง.ถล่ม เพราะปฏิบัติหน้าที่ครบ 10 วันแล้ว เป็นปกติของการทำงาน หากปฏิบัติภารกิจต่ออาจจะทำให้บาดเจ็บได้ และการกู้ภัยที่เหลือตอนนี้จำเป็นต้องใช้เครื่องจักรใหญ่เท่านั้น