กรุงเทพ ฯ 4 เม.ย. – ดัชนีหุ้นไทยร่วงแรงกว่าภูมิภาค ลดลง 40.26 จุด กลุ่มธนาคารพาณิชย์เจอแรงขายหนัก หวั่นกำไรวูบจากยกเลิกการเก็บค่าธรรมเนียมออนไลน์ และแรงกดดันให้ลดดอกเบี้ย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,724.98 จุด ลดลง 40.26 จุด หรือร้อยละ 2.28 มูลค่าการซื้อขาย 93,160.59 ล้านบาท การซื้อขายหุ้นไทยวันนี้ (4 เม.ย.) ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนบวกเพียงสั้น ๆ จากนั้นก็ปรับตัวลดลง โดยเฉพาะภาคบ่ายดัชนีไหลลงแรง เนื่องจากมีแรงขายในหุ้นขนาดใหญ่ เช่น PTT KBANK BBL โดยดัชนีลดลงต่ำสุดที่ 1,724.90 จุด และสูงสุดของวันที่ 1,771.58 จุด
นายภาดล วรรณรัตน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยดิ่งลงต่อเนื่อง เนื่องจากนักลงทุนกังวลสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ประกอบกับมีแรงขายหุ้นในกลุ่มแบงก์ ภายหลังจากทำโปรโมชั่นยกเลิกการเก็บค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมออนไลน์ ทำให้ประมาณการกำไรปีนี้ของธนาคารถูกปรับลดลงไปด้วย
นายชัยยศ จิวางกูร ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กรุงศรี กล่าวว่า กลุ่มแบงก์ปรับตัวลงนำตลาดฯ หลังจากมีกระแสข่าวออกมาว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอยากให้ธนาคารพาณิชย์ช่วยลดอัตราดอกเบี้ยลง เพื่อช่วยเหลือเอสเอ็มอี ทำให้มีแรงขายหุ้นในกลุ่มแบงก์และกลุ่มไฟแนนซ์ออกมา
ด้านธนาคารกสิกรไทย แจ้งว่า ที่ประชุมคณะกรรมการธนาคารวันที่ 4 เมษายนมีมติอนุมัติการปรับเป้าหมายทางการเงินของธนาคารในส่วนการเติบโตของรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ย สำหรับปี 2561 เป็นหดตัวร้อยละ 6 -8 จากก่อนหน้าคาดว่าจะทรงตัวจากปีก่อน เป้าหมายทางการเงินอื่น ได้แก่ สินเชื่อยังคงคาดว่าจะเติบโตร้อยละ 5-7 ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) อยู่ที่ร้อยละ 3.2-3.4 สินเชื่อด้อยคุณภาพอยู่ที่ร้อยละ 3.3-3.4
ด้านประเภทนักลงทุน สถาบัน ขายสุทธิ 3,859.63 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ขายสุทธิ 3,862.21 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศ ซื้อสุทธิ 204.11 ล้านบาท และนักลงทุนรายย่อย ซื้อสุทธิ 7,517.73 ล้านบาท .-สำนักข่าวไทย