จ.สมุทรสาคร 28 มี.ค.- รมว.แรงงาน เผยสแกนม่านตาแรงงานต่างด้าว 22 จังหวัดติดทะเล คืบแล้วร้อยละ 99 ยืนยันทันเส้นตาย 31 มี.ค.นี้
พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ลงพื้นที่ สำนักงานสะพานปลาสมุทรสาคร จ.สมุทรสาคร ติดตามผลการดำเนินงานภารกิจโครงการจัดระเบียบการเก็บข้อมูลเพื่อใช้เป็นสิ่งพิสูจน์ อัตลักษณ์บุคคลของแรงงานต่างด้าว (Iris Scan) รวมทั้งสิ้น 3ประเภทกิจการ ได้แก่1.แรงงานประมงทะเล 2.โรงแปรรูปสัตว์น้ำ และ 3.อุสาหกรรมต่อเนื่องประมง ในเขต 22จังหวัดติดต่อชายทะเล ประกอบด้วย จังหวัดสมุทรสาคร,สมุทรปราการ,สมุทรสงคราม,เพชรบุรี, ประจวบคีรีขันธ์,ระยอง,ตราด, ระนอง,ชลบุรี, ฉะเชิงเทรา,จันทบุรี, ชุมพร,ปัตตานี,สุราษฎร์ธานี,นครศรีธรรมราช, ตรัง, สงขลา, สตูล, นราธิวาส, ภูเก็ต, กระบี่ และพังงา ซึ่งได้ดำเนินการมาแล้วตั้งแต่เดือนธันวาคม 2560 และต้องจัดการให้แล้วเสร็จภายในกำหนดคือวันที่ 31 มีนาคมนี้
พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวว่า ในส่วนจังหวัดสมุทรสาคร ถือว่าเป็นจังหวัดที่มีแรงงานต่างด้าวมากที่สุดใน 22 จังหวัด รายงานล่าสุดพบว่าสามารถดำเนินการได้ทะลุเป้าหมาย เก็บอัตลักษณ์แรงงานต่างด้าวได้ถึง 68,610 คน จากเป้าหมายที่วางไว้ 56,638 คน โดยใช้เครื่องสแกนม่านตารวม 12 เครื่อง นอกจากเจ้าหน้าที่กระทรวงแรงงานแล้ว ยังได้กองกำลังตำรวจตระเวนชายแดนมาช่วย ส่งผลให้การดำเนินการเร็วขึ้น
ส่วนภาพรวมใหญ่เบื้องต้นตั้งเป้าแรงงานต่างด้าวไว้ที่จำนวน 168,538 คน นั้น ล่าสุดดำเนินการจัดเก็บอัตลักษณ์ได้เสร็จสิ้นตามเป้าหมายก่อนเวลาที่กำหนด ที่สำคัญสามารถจัดเก็บอัตลักษณ์ได้เกินเป้าหมายถึง 1,417 คน รวมทั้งสิ้น 169,955 คน แบ่งเป็นประมงทะเล 57,883 คน และแปรรูปสัตว์น้ำฯ 112,072 คน แม้จะได้เกินตามเป้าที่วางไว้ แต่พบว่ายังมีแรงงานอีกบางส่วนที่ยังอยู่ในทะเลยังไม่กลับเข้ามา ถือว่าการทำงานยังไม่สมบูรณ์ ตีเป็นตัวเลขแล้วเสร็จไปประมาณร้อยละ 99 เพราะจากรายงานยังมีแรงงานต่างด้าวที่ยังไม่มาสแกนอีก 700 ราย แยกเป็นในโรงงาน 400 ราย และในทะเลอีก 300 รายในโรงงานไม่เป็นปัญหาเพราะให้เจ้ลหน้าที่ประสานเจ้าของโรงงานให้รีบมาลงทะเบียน ส่วนในทะเลถือว่าน่าห่วง แต่ยังมั่นใจเพราะได้ประสานไปยังเจ้าของเรือให้รีบนำเรือเข้าฝั่งภายในวันที่ 30 มีนาคมนี้ มั่นใจจะสามารถดำเนินการส่วนที่เหลือได้ทัน 31 มีนาคมนี้อย่างแน่นอน
ส่วนภาพใหญ่การขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าวกัมพูชา ลาว เมียนมาที่ศูนย์ บริการเบ็ดเสร็จ (OSS) จำนวน 1.7 ล้านคน ล่าสุดรายงานตัวเลขเมื่อเช้านี้ (28 มี.ค.) ดำเนินการไปแล้วกว่า 9 แสนกว่าราย เหลืออีกประมาณ 7 แสนกว่าราย กระทรวงได้แก้ปัญหาโดยที่ผ่านมาได้ปรับลดขั้นตอนการปฏิบัติ โดยแรงงานที่ผ่านการพิสูจน์สัญชาติและมีเอกสารที่ใช้แทนหนังสือเดินทางแล้ว ให้เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองตีวีซ่า เพื่อขยายเวลาให้อยู่ได้ถึง 31 มีนาคม 2563 และกรมการจัดหางานอนุญาตให้ทำงานต่อไปได้ โดยมีเงื่อนไขให้คนต่างด้าวต้องไปทำทะเบียนประวัติและตรวจโรคให้เสร็จภายใน 30 มิถุนายน 2561 มิฉะนั้นหลัง 30 มิถุนายน 2561 จะไม่สามารถทำงานได้อีกต่อไป
นอกจากนี้ยื่นเอกสารเพื่อรายงานตัวกับเจ้าหน้าที่ที่หน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานทั่วประเทศ และยังเปิดให้สามารถใช้ระบบออนไลน์เพื่อเข้าไปรายงานตัวทางเว็บไซต์ของกรมการจัดหางาน www.doe.go.th ได้ตลอด 24 ชม.จนถึง 24.00 น. ของวันที่ 31 มีนาคม 2561 ซึ่งเมื่อคืนที่ผ่านมามีมาลงเทียนประมาณ 14,000 คน
อย่างไรก็ตามยังคงมั่นใจว่าไม่มีความจำเป็นต้องขยายระยะเวลาตามที่หลายฝ่ายกังวล ทั้งหมดจะสามารถดำเนินการใด้ทัน 31 มีนาคมนี้แน่นอน .-สำนักข่าวไทย