บางจากฯ เห็นใจสวนปาล์มเตรียมปัดฝุ่นส่งเสริมบี 20

กรุงเทพฯ 26 มี.ค. – บมจ.บางจากฯ เตรียมปัดฝุ่น ส่งเสริมการใช้ไบโอดีเซลบี 20 สำหรับรถบรรทุก หวังช่วยแก้ปัญหาสตอกปาล์ม ยอมรับสตอกบี 100 เพิ่มคงยาก จากที่ปัจจุบันสตอกเต็มพิกัด รับภาระนับร้อยล้านบาท ส่วนราคาน้ำมันให้ทำใจปีนี้ทรงตัวระดับสูง


นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจากฯ กล่าวว่า เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมัน ทางบางจากฯ จะกลับไปศึกษาเรื่องส่งเสริมให้รถบรรทุกใช้บี 20ในรถบรรทุกอีกครั้ง หลังจากเคยร่วมกับกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) และ ผู้ประกอบการขนส่ง 2-3 ราย ทดสอบการใช้บี 20 พบว่าสามารถใช้ได้ แต่ต้องมีการเปลี่ยนไส้กรองและผู้ประกอบการเสนอให้ภาครัฐเข้ามาอุดหนุน อย่างไรก็ตาม บางจากฯ ในฐานะผู้นำด้านพลังงานทดแทนก็พร้อมที่จะเข้าไปร่วมส่งเสริมอีกรอบ แต่ต้องดูด้วยว่าจะดำเนินการอย่างไร

ส่วนการใช้บี 10 นั้น จากการทดสอบกับรถยนต์พบว่าใช้ได้ แต่ทั้งนี้ ก็ขึ้นอยู่กับค่ายรถยนต์ในไทยว่าจะยอมรับหรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้ทางภาครัฐคงจะต้องนำไปหารือ ขณะที่บางจากฯ อาจจะไม่สามารถสตอกในปริมาณที่เพิ่มขึ้น เพราะที่ผ่านมาทางบางจากฯ ได้ให้ความร่วมมือสตอกเพิ่มทั้งบี 100 และน้ำมันปาล์มดิบ จนเต็มถัง แต่ก็พร้อมให้ความร่วมมือ โดยการนำสตอกมาใช้ ทำให้หมุนเวียนซื้อซีพีโอในระบบได้มากขึ้น โดยการให้ความร่วมมือสตอกที่ผ่านมาตั้งแต่เดือนมกราคม ทำให้บางจากฯ มีภาระในการเก็บสตอกวงเงินนับร้อยล้านบาท


นายชัยวัฒน์ กล่าวด้วยว่า ในส่วนราคาน้ำมันในช่วงนี้ขยับสูงขึ้น บางจากฯ ยังคาดว่าราคาทั้งปีจะทรงตัวระดับนี้ ราคาน้ำมันดิบดูไบอยู่ในระดับ 60-65 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล โดยติดตามปัญหาการเมืองแต่ละภูมิภาค และที่สำคัญแม้ว่าสหรัฐจะผลิตน้ำมันจากแหล่งหินดินดานได้สูงขึ้น แต่เนื่องจากเป็นน้ำมันเบา ขณะนี้โรงกลั่นฯ จำเป็นต้องใช้น้ำมันหนักเป็นน้ำมันหลักในการกลั่น ดังนั้น ถึงแม้สหรัฐผลิตได้เพิ่ม แต่โรงกลั่นยังจำเป็นต้องใช้น้ำมันจากตะวันออกกลางในปริมาณสูงต่อไป จึงคาดว่าราคาน้ำมันจะทรงตัวระดับนี้แม้สหรัฐจะผลิตน้ำมันได้เพิ่มขึ้น ขณะนี้กลุ่มโอเปกและนอกโอเปกยังมีแนวโน้มจับมือลดกำลังผลิตต่อเนื่อง

สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2561 ยังอยู่ในระดับที่ค่อนข้างดี โดยค่าการกลั่น (GRM) อยู่ที่ประมาณ 6 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล และการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันอยู่ที่ประมาณ 110,000  บาร์เรล/วัน ยอดขายน้ำมันผ่านสถานีบริการดีขึ้น โดยส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ประมาณร้อยละ15.8 ในเดือนมกราคม ซึ่งนับว่าต่อเนื่องติดต่อกันตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2560 


ด้านนายสมชัย เตชะวณิช ประธานเจ้าหน้าที่การตลาดและรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจการตลาด บางจากฯ กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้าหมายปริมาณขายน้ำมันผ่านสถานีบริการน้ำมันปีนี้เติบโตไม่ต่ำกว่าร้อยละ 6 จากประมาณ 320 ล้านลิตร/เดือนในปีที่แล้ว ซึ่งสูงกว่าตลาดรวมที่คาดว่าจะเติบโตร้อยละ 3.5 ในปีนี้ ตามการเปิดสถานีบริการน้ำมันใหม่ปีที่แล้ว 62 แห่ง และมีแผนเปิดสถานีบริการใหม่อีก 80 แห่งในปีนี้ โดยสถานีบริการน้ำมันที่เปิดใหม่ส่วนใหญ่เป็นรูปแบบที่ทันสมัย มีร้านค้าสะดวกซื้อและร้านกาแฟ รวมถึงการเพิ่มฐานสมาชิกบัตรแก๊สโซฮอล์คลับและดีเซลคลับปีละกว่า 600,000 ราย ทำให้มีฐานสมาชิกบัตรรวม 2.8 ล้านรายในปัจจุบัน ตลอดจนการเน้นงานบริการที่ตอบโจทย์ลูกค้ามากขึ้นด้วย

ทั้งนี้ บางจากฯ ได้เป็นตัวแทนมอบเงินจากคะแนนสะสมของสมาชิกบัตรบางจากที่เติมน้ำมัน หรือซื้อสินค้าและบริการตลอดปี 2560 รวมกับส่วนที่บริษัทฯ บริจาคสมทบเพิ่ม รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 3,149,564 บาท ให้กับองค์กรสาธารณประโยชน์รวม 13 องค์กร โดยปีนี้ บางจากฯ จะเพิ่มความสะดวกให้กับวิธีการบริจาคคะแนนสะสมให้กับองค์กรสาธารณประโยชน์ โดยนอกจากแจ้งความประสงค์ได้ในขั้นตอนการสมัครบัตรแล้ว สมาชิกยังเลือกบริจาครายครั้งผ่านมือถือ หรือ Bangchak Mobile Application  ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสะดวกมากยิ่งขึ้น. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

เครื่องบิน “ทักษิณ” ออกนอกเส้นทางไปไหน ?

4 ก.ย. – ไปไหน? เครื่องบินส่วนตัว “ทักษิณ” เลี้ยวออกนอกเส้นทาง หลังบินออกจากดอนเมือง ระบุปลายทางสิงคโปร์ พบบินวนอยู่ 2 รอบ ก่อนไปต่อ จับตามุ่งหน้า “ดูไบ” ตามที่มีกระแสข่าวหรือไม่. – สำนักข่าวไทย

“ทักษิณ” บินสิงคโปร์แล้ว ทนายยัน 9 ก.ย. มาศาลฟังคดีชั้น14

4 ก.ย.- “ทักษิณ” นั่งเจ็ทส่วนตัวบินสิงคโปร์แล้ว ตม.ไม่มีอำนาจกักตัว หลังศาลยกฟ้องคดี ม.112 ขณะที่ “ทนายวิญญัติ” ยัน 9 ก.ย. มาศาลฟังคดีชั้น 14 แน่นอน ช่วงเย็นวันนี้มีกระเเสข่าวว่านายทักษิณ ชินวัตร ขอเดินทางด้วยเครื่องบินส่วนตัวที่จอดไว้กับลานบินเอกชนย่านดอนเมือง เเละทราบว่าขอเดินทางไปยัง อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งนายทักษิณมีบ้านพักส่วนตัวที่ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี และอีกกระเเสเเจ้งว่านายทักษิณขอเดินทางไปพบเเพทย์ที่สิงคโปร์ 2 วัน เเละจะกลับมาขึ้นศาล โดย ตม.ตรวจสอบหนังสือเดินทางเเละสอบถามเหตุผลในการเดินทางของนายทักษิณในตอนนี้เเล้วเเละอนุญาตให้นายทักษิณเดินทางได้ กระเเสข่าวนี้เกิดขึ้น ท่ามกลางการเตรียมลงมติของสส.ในการเลือกนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 วันที่ 5 กันยายน 2568 เเละวันที่ 9 กันยายน นายทักษิณต้องไปฟังคำตัดสินคดีชั้น 14 รพ.ตำรวจ ซึ่งศาลฎีกาแผนคดีอาญานักการเมืองนัดให้นายทักษิณ ไปฟังคำวินิจฉัยในคดีนี้กับผู้บังคับการเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ หลังก่อนหน้านี้ศาลอาญา ตัดสินยกฟ้องนายทักษิณในคดี ม.112 เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม เเละอยู่ระหว่างที่อัยการกำลังพิจารณาว่าจะอุทธรณ์หรือไม่ หลังจากนั้นนายวิญญัติ ชาติมนตรี […]

“อนุทิน” ปัดจัดโผ ครม. บอกไหว้พ่อแม่ก่อนโหวตนายกฯ

รัฐสภา 4 ก.ย.- “อนุทิน” ปัดจัดโผ ครม. บอกยังไม่มี เผยตั้งใจไหว้พ่อ-แม่ เป็นสิริมงคลก่อนโหวตนายกฯ คนที่ 32 นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เดินทางกลับเข้ามาที่อาคารรัฐสภาอีกครั้ง ช่วงเย็นวันนี้ (4 ก.ย.) โดยผู้สื่อข่าวพยามสอบถามถึงโผ “ครม.อนุทิน 1” ว่า มีการจัดเตรียมให้ใครนั่งตำแหน่งใดและนายอนุทิน จะควบตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยด้วยหรือไม่ ซึ่งนายอนุทิน ร้องหูย ก่อนจะบอกว่ายังไม่มี ข่าวก็ลงไปเรื่อย ยังไม่ได้จัดอะไร ขนาดหัวหน้ายังไม่ได้เลย ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า พรุ่งนี้จะมีการโหวตนายกรัฐมนตรีแล้ว ก่อนจะเข้าอาคารรัฐสภา จะไปไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ไหนเพื่อความเป็นสิริมงคลหรือไม่ นายอนุทินตอบว่า ไหว้พ่อไหว้แม่นี่แหละ เป็นสิริมงคลที่สุดแล้ว -สำนักข่าวไทย

“เท้ง” เมินออปชันสุดท้ายเพื่อไทย มั่นใจ สส.ปชน.ไม่แตกแถว ย้ำไม่มีฟรีโหวต

รัฐสภา 4 ก.ย.- “เท้ง” ลั่นไม่เสียดาย-ไม่ทบทวนมติโหวต “อนุทิน” นั่งนายกฯ เมินออปชันสุดท้ายเพื่อไทย ซัดไม่จริงใจ-ปล่อยข่าวชิงการเมือง มั่นใจ สส.พรรคประชาชน ไม่แตกแถว-ไม่มีฟรีโหวต นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ปฏิเสธกรณีที่มีกระแสข่าวความเห็นต่างภายในพรรคฯ ต่อการลงมติเลือกนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นนายกรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้ (5 ก.ย.) ว่า ไม่ได้มีความเห็นที่แตกต่างกันภายในพรรค และเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา จนถึงตลอดทั้งวัน ก็มีความชัดเจนแล้วว่า พรรคเพื่อไทย ยุติกระบวนการยุบสภา และเดินหน้าเสนอชื่อนายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ให้ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร พิจารณาเป็นนายกรัฐมนตรี พร้อมย้ำว่า กระบวนการตัดสินใจของพรรคประชาชน สิ้นสุดลงตั้งแต่คณะกรรมการบริหารพรรคฯ แถลงข่าว และลงนามร่วมกับพรรคภูมิใจไทยแล้ว ส่วนข้อเสนอไพ่ใบสุดท้ายของพรรคเพื่อไทย ที่จะยุบสภาทันทีหากนายชัยเกษม ได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภานั้น หัวหน้าพรรคประชาชน ระบุว่า ถ้ามีการเสนอมาก่อนหน้านี้ และมีการพูดคุยอย่างเป็นทางการ ก่อนพรรคฯ จะมีมติ ตนเชื่อว่า ตน และสส.ภายในพรรค จะรับไว้พิจารณา แต่กระบวนการที่ผ่านมา ยังคงมีการให้ข่าวกลับไป กลับมา […]