กรุงเทพฯ 21 มี.ค. – ธพ.สั่งปั๊มน้ำมันเตรียมพร้อมให้บริการสงกรานต์ เข้มความปลอดภัย ผลตรวจสอบคุณภาพน้ำมันปี 60 พบภาคใต้เป็นแชมป์ ยอมรับปราบปรามยาก เพราะเป็นปั๊มเคลื่อนที่และผู้ใช้กับผู้ขายสมยอมกัน
นายวิฑูรย์ กุลเจริญวิรัตน์ อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) เปิดเผยว่า กรมฯ ได้ขอความร่วมมือผู้ประกอบการน้ำมันเชื้อเพลิง สถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง สถานีบริการก๊าซ และผู้ขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิง เตรียมความพร้อมน้ำมันเชื้อเพลิงให้เพียงพอช่วงวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ระหว่างวันที่ 11 – 17 เมษายน 2561 ซึ่งจะมีการใช้น้ำมันเพิ่มมากขึ้น และเฝ้าระวังสอดส่องและอำนวยความสะดวกจัดที่จอดรถให้เพียงพอ ห้องน้ำสะอาดให้กับประชาชนที่มาใช้บริการ และเพื่อให้สอดคล้องกับแผนบูรณาการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ของคณะกรรมการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน ซึ่งมีหัวข้อในการรณรงค์ปีนี้ คือ “ขับรถมีน้ำใจ รักษาวินัยจราจร”
นอกจากนี้ ได้ขอให้กวดขันอย่างเข้มงวดไม่ให้มีการจำหน่ายและดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง เฝ้าระวัง รักษาความปลอดภัยการก่อเหตุร้ายในสถานีบริการ และจัดให้มีแสงสว่างให้เพียงพอ
“ขณะนี้มีข่าวการก่อเหตุร้ายในปั๊มน้ำมันมากขึ้น เพราะปั๊มเป็นจุดพบปะมีร้านค้าให้บริการ และยิ่งช่วงสงกรานต์ปั๊มจะขยายเวลาเปิดจากปกติปิดดึกขึ้น ดังนั้น ก็ขอให้มีการระแวดระวังมีแสงสว่างให้เพียงพอ โดยขณะนี้เกือบทุกปั๊มมีซีซีทีวี ซึ่งก็จะติดตามเหตุการณ์ต่าง ๆ ได้ หากมีการก่อเหตุ” นายวิฑูรย์ กล่าว
สำหรับผลปฏิบัติงานตรวจสอบคุณภาพน้ำมันเชื้อเพลิงปีงบประมาณ 2560 ได้ดำเนินการตรวจสอบคุณภาพน้ำมันเชื้อเพลิงของสถานีบริการ ร้านค้าน้ำมันเชื้อเพลิง และรถขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิง รวม 9,117 ราย 15,853 ตัวอย่าง พบการจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีคุณภาพต่ำ 25 ราย 28 ตัวอย่าง คิดเป็นร้อยละ 0.27 และ 0.18 ตามลำดับ พบการกระทำผิดส่วนใหญ่เป็นสถานีบริการอิสระ พื้นที่ตรวจพบส่วนใหญ่อยู่ในภาคใต้ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ และภาคกลาง ตามลำดับ ส่วนใหญ่มาจากการนำน้ำมันลักลอบจากต่างประเทศมาผสมเพื่อจำหน่าย และการปนน้ำมันแก๊สโซฮอล์ต่างชนิด ส่วนสถิติในรอบ 5 เดือนของปีงบประมาณ 2561 (ต.ค.60-ก.พ.61) ได้ดำเนินการตรวจสอบคุณภาพน้ำมันเชื้อเพลิง 2,178 ราย 4,351 ตัวอย่าง พบการจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีคุณภาพต่ำ 1 ราย 1 ตัวอย่าง คิดเป็นร้อยละ 0.05 และ 0.02 ตามลำดับ สำหรับปั๊มน้ำมันที่ตรวจพบการกระทำผิดเป็นสถานีบริการในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งกรมธุรกิจพลังงานได้ดำเนินคดีตามกฎหมายกับผู้ค้าน้ำมันที่ตรวจพบผิดดังกล่าวแล้ว
“ชายแดนใต้การตรวจสอบการนำน้ำมันลักลอบจากเพื่อนบ้านเข้ามาขายทำได้ลำบาก เพราะเป็นลักษณะการค้าเคลื่อนที่และผู้บริโภคกับผู้ขายสมยอมกันเพราะได้ราคาถูก” นายวิฑูรย์ กล่าว
ทั้งนี้ กรมธุรกิจพลังงานขอแนะนำให้ประชาชนผู้บริโภคขอรับใบเสร็จรับเงินจากสถานีบริการทุกครั้งที่เติมน้ำมัน หากพบว่าผู้ค้าน้ำมันรายใดจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงไม่ได้คุณภาพอันเป็นเหตุทำให้เครื่องยนต์เสียหาย ขอให้แจ้งกรมธุรกิจพลังงานทราบทันที โทร. 09 2257 2714 หรือโทรสาร 0 3819 6934 สำหรับในส่วนภูมิภาคแจ้งได้ที่สำนักงานพลังงานจังหวัด เพื่อจะได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปดำเนินการตรวจสอบต่อไป.-สำนักข่าวไทย