กทม. 20 มี.ค.-อสมท ร่วมกับภาคีเครือข่ายองค์กรช่วยเหลือเด็กเดินหน้าโครงการ “รวมพลังแกนนำกันน็อก ปี 2” ปลูกจิตสำนึกให้ตระหนักถึงการสวมใส่หมวกกันน็อกให้เด็ก 100% ลดอุบัติเหตุให้เป็นศูนย์
บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ร่วมกับองค์การช่วยเหลือเด็ก (Save the Children) และภาคีเครือข่ายจากทุกภาคส่วน ผนึกกำลังสานต่อโครงการ “รวมพลังแกนนำกันน็อก ปีที่2” สนับสนุนให้เด็กเกิดความปลอดภัยในการเดินทางจากบ้านไปกลับโรงเรียน เพื่อให้เด็กมีชีวิตรอดปลอดภัย ทำให้เด็กๆ ได้รับประโยชน์จากโครงการดังกล่าวแล้วกว่า 1 แสนคน
คิม คุช ผู้อำนวยการองค์การช่วยเหลือเด็ก ประจำประเทศไทย กล่าวว่า จากสถานการณ์ภาพรวมของประเทศไทย ทุกๆ วันมีเด็กวัยเรียนราว 1.3 ล้านคน ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ แต่มีเพียงร้อยละ 7 เท่านั้นที่สวมหมวกนิรภัย สอดคล้องกับข้อมูลองค์การอนามัยโลกปี 2558 ระบุไทยมีอัตราผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนสูงเป็นอันดับ 2 ของโลก โดยแต่ละปีมีเด็กเสียชีวิตกว่า 2,600 คน และเป็นเด็กที่ได้รับบาดเจ็บ จนพิการอีกเกือบ 200 คนต่อวัน หรือกว่า 72,000 คนต่อปี
ทั้งนี้ องค์การช่วยเหลือเด็ก จึงริเริ่ม “โครงการ 7 เปอร์เซ็นต์” ตั้งแต่ปี 2557 จนถึงปัจจุบัน ทำให้เกิดเครือข่ายครูและนักเรียนแกนนำหมวกนิรภัยครอบคลุมโรงเรียนใน กทม.กว่า 448 แห่ง โดยเฉพาะในปีที่ผ่านมา ได้จัดอบรมเชิงปฏิบัติการให้กับครูแกนนำหมวกนิรภัยไปแล้วกว่า 319 คน จาก 167 โรงเรียนในสังกัด กทม.ตลอดจนขยายผลให้เกิดโรงเรียนปลอดภัยในพื้นที่นำร่อง 4 เขต คือ ภาษีเจริญ ดอนเมือง ป้อมปรามศัตรูพ่าย และประเวศ
นอกจากนี้เมื่อปีที่ผ่านมายังเดินหน้า “โครงการ หนูน้อยหัวแข็งปีที่2” จัดกิจกรรมโรดโชว์ในโรงเรียนเขตพื้นที่ กทม.ไปแล้ว 35 แห่ง มีนักเรียนเข้าร่วมกว่า 9,100 คน สำหรับความร่วมมือผลักดันโครงการ “รวมพลังแกนนำกันน็อก ปีที่2” ครั้งนี้ ภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนยังคงมุ่งมั่นสร้างจิตสำนึกให้ผู้ปกครอง และเด็กๆ ตระหนักถึงความสำคัญของการสวมใส่หมวกนิรภัย ทุกครั้งก่อนขับขี่รถจักรยานยนต์ให้ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ ลดอุบัติเหตุให้เป็นศูนย์ .-สำนักข่าวไทย
ชมผ่านยูทูบ