ป.ป.ช.เร่งติดตามทรัพย์สินคืนจากคดีทุจริต

กรุงเทพฯ 20 มี.ค.- ประธาน ป.ป.ช. ย้ำ จะเร่งติดตามทรัพย์สินคืนจากกรณีการทุจริต พร้อมให้ความร่วมมือกับองค์ระหว่างประเทศ เสริมสร้างต่อต้านการทุจริตและบังคับใช้กฎหมาย ตามกรอบความร่วมมือเอเปค


ที่โรงแรมอนันตรา สยาม ราชดำริ พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ร่วมการประชุมเชิงปฏิบัติการ เพื่อเสริมสร้างสมรรถนะเครือข่ายหน่วยงานต่อต้านการทุจริต และบังคับใช้กฎหมาย ภายใต้กรอบความร่วมมือเอเปค ในหัวข้อการติดตามทรัพย์สินคืน ซึ่งการจัดงานครั้งนี้เป็นความร่วมมือระหว่างสำนักงาน ป.ป.ช. คณะกรรมการการตรวจตราแห่งชาติ แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน และสำนักงานยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ 

วัตถุประสงค์ของการประชุม เพื่อต้องการพัฒนาส่งเสริมศักยภาพ ของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในหน่วยงานต่อต้านการทุจริตและการบังคับใช้กฎหมายต่อต้านการทุจริต และการให้สินบนของสมาชิกเขตเศรษฐกิจเอเปคทั้งเรื่องการศึกษาเส้นทางการเงิน การอายัด และริบทรัพย์สินที่ได้จากการกระทำความผิด กระบวนการในการส่งทรัพย์สินคืนกลับประเทศต้นทางอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการแลกเปลี่ยนข้อมูลประสบการณ์กรณีศึกษาเทคนิคและเครื่องมือสืบสวนสอบสวน เสริมสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างประเทศ ทั้งนี้มีผู้แทนจาก คณะกรรมการการตรวจตราแห่งชาติ สมาชิกเครือข่ายหน่วยงานต่าง ๆ และบังคับใช้กฎหมายภายใต้กรอบความร่วมมือเอเปค ผู้แทนจากสมาชิกเอเปก 21 เขตเศรษฐกิจ เข้าร่วมการประชุม


พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวว่า หน่วยงาน ป.ป.ช.ตระหนักว่าการทุจริตก่อให้เกิดผลลัพธ์อันเลวร้าย รวมถึงความยุ่งยากในการติดตามทรัพย์สินคืน ซึ่งกระแสการพัฒนาทางเศรษฐกิจยุคปัจจุบันเอื้อต่อการทุจริต  การส่งเสริมและสนับสนุนของเอเปคทำให้การค้าเสรีและการลงทุนเติบโตขึ้น แต่ทุกประเทศต้องไม่มองข้ามผลกระทบที่จะตามมา ในแง่ขอบเขตการทุจริต โดยเฉพาะการโอนย้ายทรัพย์สินที่ได้มาแบบผิดกฎหมาย ซึ่งทุกประเทศในกลุ่มเอเปคให้ความกระตือรือร้นในการจัดการกับปัญหาทุจริตเพิ่มมากขึ้น

ประธาน ป.ป.ช. กล่าวว่า สำหรับประเทศไทยให้ความสำคัญกับการติดตามทรัพย์สินคืนมาโดยตลอดและพัฒนาศักยภาพของประเทศตามพันธกรณีระหว่างประเทศ ด้วยกฏหมายใหม่ที่นำเสนอเครื่องมือและกลไกตอบสนองต่อปัญหาที่ซับซ้อน รวมถึงแก้ไขกฎหมายเพื่อเสริมสร้างกระบวนการติดตามทรัพย์สิน การเพิ่มประสิทธิภาพในการต่อสู้กับปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่น  กรอบความร่วมมือเอเปคเป็นเครือข่ายสำคัญที่มีบทบาทในการส่งเสริมความพยายามในการต่อต้านการทุจริตในประเทศ ซึ่งการประชุมเชิงปฏิบัติการครั้งนี้จะเป็นเครื่องยืนยันความมุ่งมั่นที่จะไม่ยอมรับ การกระทำของผู้ที่ทุจริต และติดตามส่งคืนทรัพย์สินที่มาจากการทุจริต ซึ่งสอดคล้องกับปฏิญญาปักกิ่งด้วย.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ป.ป.ส. รวบ 3 นักค้ายาเสพติดต่างชาติ ที่สนามบินสุวรรณภูมิ

ป.ป.ส. รวบนักค้ายาเสพติดต่างชาติ 3 ราย ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ส่งออกไปอิตาลี-อังกฤษ เลขาฯ ป.ป.ส. เผยความสำเร็จครั้งนี้เป็นผลจากการประสานงานใกล้ชิดระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ตรวจสอบตลาดปาล์มน้ำมัน หลังราคาพุ่ง

ช่วงนี้น้ำมันปาล์มตามท้องตลาดปรับราคาแพงขึ้น จากเดิมขวดละราว 10 บาท ทำให้ผู้บริโภคถึงกับโอดครวญ ขณะที่เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน ระบุแม้ช่วงนี้ราคาปาล์มน้ำมันขายได้ราคาดีที่สุดในรอบหลายปี แต่เกษตรกรกลับไม่มีปาล์มขาย

ข่าวแนะนำ

เดินหน้าเสนอ ครม. ตั้งคณะกรรมการร่วมไทย-กัมพูชา เจรจาพื้นที่ทับซ้อน

กระทรวงการต่างประเทศ เดินหน้าเสนอ ครม. ตั้งคณะกรรมการร่วมด้านเทคนิค JTC ไทย-กัมพูชา เจรจาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลระหว่างไทยกับกัมพูชา ตามแนว MOU 2544 ยืนยันไม่ทำให้เสียเกาะกูด

เข้าสู่ฤดูหนาว

อุตุฯ ประกาศไทยเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว

กรมอุตุฯ ประกาศการเข้าสู่ฤดูหนาวของประเทศไทย ปี 2567 ตั้งแต่วันที่ 3 พ.ย. โดยเป็นการเข้าสู่ฤดูหนาวช้ากว่าปกติประมาณ 2 สัปดาห์ เนื่องจากมีพายุก่อตัวในมหาสมุทรแปซิฟิกและเคลื่อนเข้าสู่ทะเลจีนใต้ และยังมีฝนบางพื้นที่ ปีนี้จะหนาวกว่าปีที่แล้ว

ช้างพลายขุนเดช

ย้ายแล้ว “ช้างพลายขุนเดช” ไปสถาบันคชบาลแห่งชาติ จ.ลำปาง

ย้ายแล้ว “ช้างพลายขุนเดช” สู่สถาบันคชบาลแห่งชาติ จ.ลำปาง จบดราม่า หลังฝากเลี้ยงที่มูลนิธิอนุรักษ์ช้างและสิ่งแวดล้อม จ.เชียงใหม่