นายกฯพอใจประชุมอาเซียน-ออสเตรเลียสานสัมพันธ์ให้เกิดความมั่นคงมั่งคั่ง

ซิดนีย์ 18 มี.ค. -นายกฯ พอใจประชุมสุดยอดอาเซียน-ออสเตรเลีย สานสัมพันธ์ให้เกิดความมั่นคง มั่งคั่ง พร้อมเห็นชอบปฏิญญาซิดนีย์ และลงนามความตกลงป้องกันการก่อการร้าย พบนายกฯออสเตรเลียดูต้นแบบเรื่องท่องเที่ยว-ความสะอาด และเตรียมนำร่องทำโฮมสคูลในไทย 


“ดาวี ไชยคีรี” ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทย ซึ่งติดตามภารกิจพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ประชุมสุดยอดอาเซียน –ออสเตรเลีย สมัยพิเศษ 2018 ระหว่างวันที่ 17-18 มีนาคม ที่นครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย รายงานว่า พลเอกประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมว่า บรรยากาศในการประชุมครั้งนี้ดีมาก ทุกประเทศต่างช่วยกันนำเสนอประเด็นต่างๆ ที่เป็นการส่งเสริมความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างอาเซียนกับออสเตรเลีย เพื่อทำให้เกิดความมั่นคง มั่งคั่ง ในภูมิภาค ส่งเสริมการเติบโตอย่างยั่งยืนสร้างความเข้มแข็งทางธุรกิจ ระดับไมโครเอสเอ็มอี จึงอยากให้เอสเอ็มอีของไทยปรับตัว รวมถึงความร่วมมือในการต่อต้านการก่อการร้ายสากลระหว่างอาเซียน-ออสเตรเลียให้ปลอดจากภัยรูปแบบใหม่  แต่ทั้งหมดจะต้องใช้เวลา ทั้งนี้ที่ประชุมได้เห็นชอบปฏิญญาซิดนีย์ในกรอบกว้างๆ และลงนามความตกลงป้องกันการก่อการร้าย ความร่วมมือด้านก่อการร้ายสากล ท่ามกลางสถานการณ์โลกที่เปลี่ยนแปลง ออกกฎระเบียบคุมการค้าขายออนไลน์ ทั้งนี้เห็นควรให้มีการปรับปรุง พัฒนาเขตการค้าเสรีไทย-ออสเตรเลีย หรือทาฟต้าให้คลุมทุกประเทศสมาชิก

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เรื่องที่ได้รับความสนใจคือปัญหาโรฮีนจา โดยตนได้พูดคุยกับนางออง ซาน ซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐเมียนมาและผู้นำทางการทหารเมียนมา เพื่อช่วยกันแก้ไข โดยให้เมียนมาไปหาแนวทาง พร้อมเสนอให้สมาชิกมีเอกภาพในการช่วยเหลือกัน


พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่าในการหารือทวิภาคีกับนายกรัฐมนตรี ออสเตรเลีย ได้เน้นย้ำเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนต่อประชาชน เพราะปัจจุบันมีคนไทยในออสเตรเลียกว่าแสนคน ทั้งนี้ได้เชิญนายกรัฐมนตรีออสเตรเลียเยือนไทย ซึ่งนายกรัฐมนตรีออสเตรเลียตอบรับ  ขณะที่นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย เน้นย้ำเรื่องการบังคับใช้กฎหมาย เพื่อให้ทุกคนเข้าถึงความเท่าเทียมทางโอกาสพร้อมแสดงความเป็นห่วงเรื่องกฎกติกา และความทันสมัยของกฎหมาย ซึ่งตนได้มีการอธิบาย ว่าไทยได้ปรับปรุงให้เป็นสากลแล้ว 

ขณะที่สัมพันธ์ระหว่าง2 ประเทศจะมีการจัดโรดโชว์ แลกเปลี่ยนความรู้ทางธุรกิจในสิ่งที่แต่ละประเทศเชี่ยวชาญ เช่นไทยเก่งเรื่องการต่อท่อ เส้นทางรถไฟฟ้า และการท่องเที่ยว ขณะที่เห็นว่าออสเตรเลีย มีระบบการบริหารจัดการเมืองที่ดี เป็นระเบียบมีความสะอาด และการบริหารจัดการน้ำ จึงจะยกเป็นต้นแบบไปพัฒนาในไทย และยังมีแนวความคิด นำร่องมีศูนย์โฮมสคูลในประเทศไทยเพื่อลดภาระผู้ปกครอง 

นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่าการเดินทางมาประชุมครั้งนี้ ได้อะไรกลับไปหลายเรื่องที่เป็นประโยชน์ โดยเฉพาะ สำหรับการเตรียมเป็นประธานอาเซียนปีหน้าและเป็นประธานจัดประชุมเอเปคในปี 2565 ซึ่งจะสร้างศูนย์ประชุมนานาชาติรองรับ.-สำนักข่าวไทย 


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คลอดลูกแฝดตกตึก

หญิงวัย 31 เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น รพ.ดัง เสียชีวิต

สลด! หญิงวัย 31 ปี เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น โรงพยาบาลดัง เสียชีวิต ด้านโรงพยาบาลแถลงแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมทบทวนมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นอีก

ทหารควง M16 ยิงเพื่อนตำรวจดับคาบ้านพัก

ทหารพรานควง M16 บุกยิงเพื่อนตำรวจเสียชีวิตภายในบ้านพัก ก่อนขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านผู้ตาย เข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.เมืองปัตตานี เบื้องต้นคนก่อเหตุให้การวกวน เนื่องจากอยู่ในอาการหลอน

ลูกน้องปืนโหดรัวยิงหัวหน้างานดับคา สนง.ปฏิรูปที่ดินฯ

ลูกน้องชักปืนกระหน่ำยิงหัวหน้างานดับกลางห้องทำงาน สำนักงานปฏิรูปที่ดิน จ.น่าน ก่อนลั่นไกยิงตัวเอง ปมเหตุขัดแย้งเรื่องงาน

จนท.ปะทะเดือด! เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ

ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง นำกำลังปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ อ.กรงปินัง จ.ยะลา เกิดการปะทะ เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ ยึดอาวุธสงคราม 3 กระบอก

ข่าวแนะนำ

นักวิชาการชี้เลือกตั้งนายก อบจ.ไม่ใช่ภาพสะท้อนเลือกตั้งใหญ่

การเลือกตั้งนายกและสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด ผ่านพ้นไปแล้วทั้ง 47 จังหวัด ขณะนี้รอประกาศผลอย่างเป็นทางการจาก กกต. แต่ผลที่ออกมาชี้ให้เห็นว่าผู้สมัครที่มีเครือข่ายพรรคการเมืองใหญ่สนับสนุนได้ชัยชนะหลายจังหวัด แต่นักวิชาการชี้ว่ายังไม่สามารถสะท้อนให้เห็นภาพชัดถึงผลสนามเลือกตั้งใหญ่ในอนาคตได้

เปิดใจ 5 ตัวประกันคนไทย บอกเหมือนตายแล้วเกิดใหม่

เปิดใจ 5 ตัวประกันคนไทย บอกเหมือนตายแล้วเกิดใหม่ ได้ชีวิตใหม่ ไม่สิ้นเคยหวัง เชื่อว่าต้องได้กลับบ้านในสักวัน เผยอยากกินลาบ-ซอยจุ๊

ดาวเทียมพบฝุ่นหนักในอาเซียน หลายประเทศทะลุ 190 AQI

ดาวเทียมพบฝุ่นหนักในอาเซียน “เมียนมา ลาว กัมพูชา มาเลเซีย” หลายประเทศทะลุ 190 AQI ส่วนไทย อีก 2 วัน มีลมแรงช่วยพัดฝุ่นกระจายตัวดีขึ้น ด้าน ปภ.ช. สั่งพรุ่งนี้ (3 ก.พ.) ดีเดย์ ทุกหน่วยทั่วประเทศเคาะประตูบ้าน “ห้ามเผา” ฝ่าฝืนจับสถานเดียว