สร.กฟผ.รณรงค์พนักงาน กฟผ.แต่งชุดดำค้าน MOU

กรุงเทพฯ  27 ก.พ. – สหภาพฯ กฟผ.รณรงค์พนักงาน กฟผ.แต่งดำ คัดค้าน MOU รัฐมนตรีพลังงานชะลอโรงไฟฟ้าถ่านหิน


นายศิริชัย ไม้งาม ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (สร.กฟผ.) เปิดเผยว่า วันที่ 28 กุมภาพันธ์นี้ สร.กฟผ.ได้รณรงค์ให้พนักงาน กฟผ.ทั้งหมดแต่งชุดดำและส่วนหนึ่งจะเดินทางมายังกระทรวงพลังงานในช่วงเช้า เพื่อคัดค้านกรณีที่นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้ใช้อำนาจเกินหน้าที่ไปลงนาม (MOU) กับเครือข่ายต่อต้านโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ – เทพา โดยให้ถอนการศึกษาด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ และให้มีการศึกษาพื้นที่เชิงยุทธศาสตร์ (SEA) ภายใน 90 วัน


“สิ่งที่เราคัดค้านคือการใช้อำนาจของรัฐมนตรีพลังงานไปลงนามโดยฝ่ายเดียวไม่ถูกต้องควรจะต้องเป็นเรื่องของคำสั่งจากนายกรัฐมนตรีหรือมติคณะรัฐมนตรี (ครม.)” นายศิริชัย กล่าว

ทั้งนี้ เนื่องจากการดำเนินงานด้านต่าง ๆ ของโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่และเทพาของ กฟผ.ตลอดเวลาที่ผ่านมาก็เป็นไปตามคำสั่งของทั้ง ครม.และนายกรัฐมนตรีภายใต้แผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้า (PDP 2015) ที่ผ่านการอนุมัติจากคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) และ ครม.ทั้งสิ้น ดังนั้น การไปลงนามชะลอของ รมว.พลังงาน จึงเป็นการใช้อำนาจที่เกินเลยหน้าที่หรือไม่

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าหลังจากรัฐมนตรีพลังงานไปลงนามเอ็มโอยูกับกลุ่มต่อต้านโรงไฟฟ้าถ่านหินในภาคใต้ เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2561แล้ว รัฐมนตรีพลังงานได้ทำหนังสือถึง กฟผ. ดำเนินการตามเอ็มโอยูดังกล่าว กฟผ.จึงได้ทำหนังสือถึงสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ สผ.ขอถอนผลการศึกษาอีไอเอและอีเอชไอเอโครงการโรงไฟฟ้าและท่าเทียบเรือเทพา และยุติการศึกษาอีเอชไอเอและอีไอเอ สำหรับโครงการโรงไฟฟ้าและท่าเทียบเรือของโครงการกระบี่ โดยยุติการจัดรับฟังความเห็นที่มีการนัดกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและชุมชนที่กระบี่เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ และกำลังรอนโยบายว่า SEA ใน 9 เดือนนี้จะดำเนินการอย่างไร


นายภิญโญ มีชำนะ อดีตอาจารย์ประจำคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ชี้ว่านับจากนี้ไปโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินคงเกิดได้ยาก และรับทราบว่าข้าราชการของ สผ.เองก็หนักใจ เพราะโครงการขนาดใหญ่เงินลงทุนเกือบ 200,000 ล้านบาท ล้มลงอย่างง่ายดาย ปัญหาจะตามมาอีกมากโดยเฉพาะความเชื่อมั่นการลงทุนในโครงการต่าง ๆ ซึ่งกรณีที่รัฐมนตรีพลังงานระบุว่าจะตั้งคณะทำงาน ศึกษา SEA โดยมีคนกลางเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย ก็ขอถามว่ารัฐบาลจะตั้งใคร เพราะที่ผ่านมาเคยมีตั้งคณะกรรมการไตรภาคีศึกษาเรื่องโรงไฟฟ้ากระบี่ ซึ่งตนก็ร่วมเป็นกรรมการแต่สุดท้ายแล้ว กลุ่มต่อต้านก็ไม่ยอมรับผลการศึกษา

“โรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่- เทพา ทำตามข้อกำหนดกฎหมายทั้งหมดศึกษาอีไอเอ อีเอชไอเอ ศึกษามานานหลายปี หลายรอบ กำลังผลิต 2,800 MW เงินลงทุนเกือบ 200,000 ล้านบาท แต่รัฐมนตรีพลังงานไปลงนามกับกลุ่มที่ไม่มีกฎหมายรองรับ ก็เป็นคำถามว่าโครงการลงทุนขนาดใหญ่ขนาดนี้ยังล้มได้ง่ายดาย แล้วโครงการลงทุนใหม่ ๆ จะเกิดได้อย่างไร” นายภิญโญ กล่าว. –  สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง