คปพ.ชี้ร่างทีโออาร์ประมูล “บงกช-เอราวัณ” เอื้อรายเดิม

กรุงเทพฯ 26 ก.พ. – เครือข่ายประชาชนปฏิรูปพลังงานไทย (คปพ.) แถลงการณ์ไม่เห็นด้วยกับนายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รมว.พลังงาน ที่ระบุว่าจะกำหนดร่างสัญญาการเปิดประมูลหรือทีโออาร์ “บงกช-เอราวัณ” แบบกำหนดราคาเดียวกับปัจจุบันและกำลังผลิต 1,500 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน โดยเห็นว่าเป็นการล็อกสเปกให้กับรายเดิม 


คปพ.นำโดยนางสาวรสนา โตสิตระกูล  แถลงว่า จะส่งข้อมูลให้พลเอกประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ หรือ กพช. พิจารณาทบทวนหากนายศิริยังยืนยัน ว่าหลักการทีโออาร์การประมูลแหล่งสัมปทานปิโตรเลียมที่จะหมดอายุปี 2565-2566 คือ แหล่งเอราวัณ-บงกช ที่จะใช้ระบบแบ่งปันผลผลิต หรือพีเอสซี โดยกำหนดปริมาณการผลิต รวม 1,500 ล้านลูกบาศ์ฟุตต่อวัน และราคาจะต้องไม่เกินราคาปัจจุบัน  โดยเห็นว่าการกำหนดเช่นนี้ทำให้รายใหม่แข่งขันได้ยากเป็นการล็อกสเปกให้กับรายเดิม  โดยน่าจะใช้การประมูลแบบเอสซีหรือระบบจ้างผลิตและวิธีบริหารจัดการปิโตรเลียมที่ประเทศได้ประโยชน์สูงสุดนั้น รัฐจะต้องจัดตั้งบรรษัทพลังงานแห่งชาติเพื่อบริหารการซื้อและการขายปิโตรเลียม 

คปพ.ยังเห็นว่าทีโออาร์ดังกล่าวเป็นการล็อกสเปกเอื้อประโยชน์ให้กลุ่มทุนเดิม ได้แก่ 1.รวบเป็นสัญญาขนาดใหญ่เพื่อเอื้อรายเดิม เพราะระบุว่าจะเปิดประมูลเพียง 2 สัญญา คือ เอราวัณ 1 สัญญา และบงกช 1 สัญญา 2.การที่รัฐมนตรีระบุถึงการเปลี่ยนเงื่อนไขปริมาณการผลิตก๊าซฯ ขั้นต่ำ จากที่ปรากฏข่าวว่า ข้าราชการกระทรวงพลังงานเสนอให้เริ่มต้น 400 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน แต่กลับเปลี่ยนให้เป็น 1,500 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวันตั้งแต่ปีแรก ทั้งที่ก๊าซธรรมชาติในโลกขณะนี้มีเหลือเฟือที่จะนำเข้าเพื่อแก้ปัญหาได้ การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวอาจผลเป็นการเอื้อกลุ่มทุนเดิมจริงหรือไม่   3.ทีโออาร์ไม่กำหนดให้มีการตัดสิทธิผู้ที่กระทำผิดกฎหมาย เช่น กลุ่มบริษัทที่ผู้รับสัมปทานที่มีคดีนำน้ำมันไม่เสียภาษีมาใช้บนแท่นผลิตปิโตรเลียม และกรณีเรียกรับสินบนจากบริษัทโรลส์รอยซ์ อันเป็นการขัดต่อกฎหมาย                


นอกจากนี้ การกำหนดราคาก๊าซไม่สูงกว่าราคาปัจจุบันของไทยในปัจจุบัน นับเป็นการสร้างเงื่อนไขให้ผู้บริโภคได้รับผลกระทบ เพราะราคาก๊าซของไทยสูงกว่าราคาตลาดสหรัฐ  2 – 3 เท่าตัว โดยราคาก๊าซสหรัฐ ณ แหล่ง Henry Hub เดือนมกราคม 2561 ราคา 82 บาทต่อล้านบีทียู แต่ราคาก๊าซแหล่งบงกชใต้สูงถึง 267 บาท แหล่งบงกชเหนือสูงถึง 167 บาท และแหล่งเอราวัณสูงถึง 170 บาท  ดังนั้น เพื่อความโปร่งในการกำหนดราคา จึงควรกำหนดเป็นสูตรที่อ้างอิงราคาตลาดในแหล่งสำคัญของโลก เช่น ตลาด Henry Hub ของ สหรัฐ หรือตลาด Japan Korea Marker (JKM) โดยเป็นสูตร Henry Hub Link หรือ Japan Korea Marker (JKM) Link ตามหลักสากล.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พปชร.เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา

พปชร. เปิดตัวทัพใหญ่ ว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา เผยเลือดไหลเข้าพรรคพร้อมรับใช้ประชาชนอีกมาก

สาวถูกงูเห่ากัดใช้เบตาดีนทา สุดท้ายถูกหามเข้า ICU

อุทาหรณ์ สาวโพสต์โดนงูเห่ากัดตอนตี 5 ล้างแผล ทาเบตาดีนสู้พิษงู ลุกไปเข้าเวรเช้าต่อ ก่อนภาพตัด ถูกหามเข้าไอซียู

ตร.ไซเบอร์บุกค้น 9 จุด รวบรอบ 2 “มินนี่” เจ้าแม่เว็บพนัน

ตำรวจ บช.สอท. นำกำลังพร้อมหมายค้น ปูพรม 9 จุด ทั้งในกรุงเทพฯ จังหวัดเลย และจังหวัดใกล้เคียง จับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายพนันออนไลน์ “มินนี่” กว่า 30 หมายจับ

เตือนพายุฤดูร้อนไทยตอนบน ฉ.1 มีผล 6-8 มี.ค.นี้

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 1 มีผลกระทบช่วงวันที่ 6-8 มี.ค.68 เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง

ข่าวแนะนำ

Trudeau tells Trump that tariffs are 'very dumb,' says Canada striking back

ประเทศคู่ค้าตอบโต้กำแพงภาษีสหรัฐ

ออตตาวา 5 มี.ค.- ประเทศคู่ค้าขนาดใหญ่ของสหรัฐ ทั้งแคนาดา เม็กซิโก และจีน ออกมาตรการด้านภาษีและมาตรการอื่น ๆ ตอบโต้มาตรการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ ทั้งนี้หลังจากมาตรการของสหรัฐที่เก็บภาษีสินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโกเป็นร้อยละ 25 มีผลตั้งแต่วันที่ 4 มีนาคม นายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดาแถลงในอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมาว่า เป็นมาตรการที่โง่เขลาอย่างยิ่ง และแคนาดาได้มีมาตรการโต้กลับด้วยการเก็บภาษีในอัตราร้อยละ 25 ทันทีกับสินค้าของสหรัฐมูลค่า 30,000 ล้านดอลลาร์แคนาดา (ราว 701,115 ล้านบาท) และจะเก็บในอีก 21 วันกับสินค้าสหรัฐมูลค่า 125,000 ล้านดอลลาร์แคนาดา (ราว 2.9 ล้านล้านบาท)   ขณะที่ร้านจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ขนาดใหญ่ในแคนาดาต่างพร้อมใจกันเก็บเหล้าและไวน์ที่นำเข้าจากสหรัฐออกจากชั้นวางและยังเชิญชวนให้ผู้บริโภคหันไปซื้อสินค้าที่ผลิตเองในประเทศแทน  ผู้ผลิตคราฟต์เบียร์รายหนึ่งเปิดเผยว่า จะเพิ่มการใช้วัตถุดิบในประเทศเป็นหลัก แทนวัตถุดิบที่เคยนำเข้าจากสหรัฐ  แต่วัตถุดิบจำเป็นบางอย่างต้องนำเข้าจากเยอรมนี ส่วนกระป๋องอลูมิเนียมสำหรับบรรจุเบียร์ที่เคยนำเข้าจากสหรัฐเพราะแคนาดาไม่ได้ผลิตนั้น จะเปลี่ยนไปซื้อจากจีนแทนซึ่งมีราคาถูกกว่า ด้านเม็กซิโก ประธานาธิบดีคลอเดีย เชนบามแถลงว่า การขึ้นภาษีของสหรัฐไม่มีความชอบธรรม เพราะที่ผ่านมาเม็กซิโกให้ความร่วมมือกับสหรัฐมาโดยตลอดในการแก้ปัญหาต่าง ๆ ทั้งเรื่องผู้อพยพและยาเสพติด ดังนั้นรัฐบาลเม็กซิโกจะมีมาตรการตอบโต้สหรัฐด้วยมาตรการด้านภาษีและมาตรการอื่น ๆ  โดยจะมีการแถลงรายละเอียดเกี่ยวกับมาตรการตอบโต้อีกครั้งในวันที่ 9 […]

ทอ.เตรียมพร้อมจัดเต็มแสดงการบินครบรอบ 88 ปี 7-8 มี.ค.นี้

กองทัพอากาศ เตรียมพร้อมจัดเต็มแสดงการบินครบรอบ 88 ปี 7-8 มีนาคมนี้ โดยวันนี้เครื่องบินขับไล่กริพเพน-หมู่บินผาดแผลงจีน-อินเดีย ซ้อมบินแสดงสมรรถนะเป็นครั้งแรก ขณะที่ ทอ.แนะ 3 จุดเช็กอินรอบ บน.6 ชมแอร์โชว์วันจริง

Trump kicks off joint address to Congress

“ทรัมป์” ถูกขัดจังหวะขณะแถลงต่อที่ประชุมร่วมรัฐสภา

วอชิงตัน 5 มี.ค.- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐถูกสมาชิกสภาพรรคเดโมแครตขัดจังหวะขณะแถลงต่อที่ประชุมร่วมรัฐสภา (joint address to Congress ) เป็นครั้งแรก หลังจากหวนกลับมายังทำเนียบขาว ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีเป็นสมัยที่ 2 การแถลงเริ่มขึ้นเมื่อเวลา 21.19 น.วันอังคารตามเขตเวลาตะวันออก ตรงกับเวลา 09.19 น.วันนี้ตามเวลาไทย โดยก่อนแถลง สมาชิกสภาพรรครีพับลิกันในที่ประชุมร่วมได้ปรบมือและส่งเสียงเชียร์ให้แก่เขา นายทรัมป์เริ่มด้วยการกล่าวว่า อเมริกากลับมาแล้ว รัฐบาลของเขาทำสิ่งต่าง ๆ สำเร็จในช่วงเวลา 43 วัน มากกว่าที่รัฐบาลส่วนใหญ่ทำสำเร็จใน 4 ปี หรือ 8 ปี และอ้างว่าเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สมัยใหม่ที่ชาวอเมริกันส่วนใหญ่เชื่อว่าประเทศเดินไปในทิศทางที่ถูกต้อง อย่างไรก็ดี ในระหว่างที่นายทรัมป์พูดได้ไม่ถึง 10 นาที สมาชิกสภาพรรคเดโมแครตได้ขัดจังหวะด้วยเสียงโห่ ทำให้นายไมค์ จอห์นสัน ประธานสภาผู้แทนราษฎรจากพรรครีพับลิกันต้องกล่าวเตือน และสั่งให้ตำรวจศาลเชิญตัวนายอัล หรืออลเ็กซานเดอร์ กรีน สส.รัฐเท็กซัส พรรคเดโมแครตออกจากที่ประชุม หลังจากนายกรีนลุกขึ้นยืนและชูไม้เท้าขึ้นมา พร้อมกับตะโกนว่า นายทรัมป์ไม่มีอำนาจในการปกครอง.-814.-สำนักข่าวไทย

สะพัด “4 ผู้มีอิทธิพลทางการเมือง” พบกันแล้ว

สะพัด “ทักษิณ-แพทองธาร-เนวิน-อนุทิน” ผู้มีอิทธิพลทางการเมือง 4 คน พบกันแล้ว แต่ไม่ได้รับการเปิดเผยว่าหารือกันในประเด็นใด