ลงนามแล้ว! สัญญา PSC “บงกช-เอราวัณ” 1 ล้านล้านบาท

กทม. 25 ก.พ. – สัญญาประวัติศาสตร์พีเอสซี “บงกช-เอราวัณ” 1 ล้านล้านบาท ลงนามแล้ว รัฐเตรียมเปิดฉบับ 2 เดือน มิ.ย.นี้


วันนี้สัญญาลงทุน 1 ล้านล้านบาทได้มีการลงนามไปแล้ว คือ สัญญาบงกชและเอราวัณ และอีก 1 โครงการลงทุนสำคัญ ก็คือ ผลิตน้ำมันยูโร 5 กว่า 30,000 ล้านบาท บีโอไอกำหนดกรอบสนับสนุนต้องยื่นภายในปีนี้



นี่คือ การลงนามครั้งสำคัญของประเทศเป็นสัญญาประวัติศาสตร์ ซึ่งเป็นสัญญาระบบแบ่งปันผลผลิต หรือพีเอสซี ฉบับแรกของประเทศ หลังจากไทยเปิดสัมปทานมานาน 40 ปี และที่ผ่านมากว่าจะมาเป็นพีเอสซีฉบับนี้ต้องผ่านปัญหาการคัดค้านการชี้แจงมาหลายรอบ จนมาถึงวันนี้ ก็เป็นการร่วมลงนามสัญญาแปลงในอ่าวไทย ระหว่างกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ ทั้งหมายเลข G1/61 (แหล่งเอราวัณ) กับกลุ่ม PTTEP ถือสัดส่วน 60% และกลุ่มมูบาดาลา จากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ที่ถือสัดส่วน 40% และ สัญญาแบ่งปันผลผลิตสำหรับแปลงสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในอ่าวไทย หมายเลข G2/61 (แหล่งบงกช) กับกลุ่ม PTTEP ที่ถือสัดส่วน 100% หลังจากกลุ่ม PTTEP

โดย กระทรวงพลังงานระบุ ภายใต้ระบบ PSC ก่อให้เกิดความมั่นคงด้านพลังงาน ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อระบบเศรษฐกิจและประเทศ 6.5 แสนล้านบาทในระยะเวลา 10 ปี (ปี 2565-2574) แบ่งเป็นการลดราคาก๊าซฯ 5.5 แสนล้านบาท การจัดเก็บภาษีฯ ค่าสัมปมทานและอื่นๆ อีก 1 แสนล้านบาท เพราะผู้ชนะประมูลเสนอส่วนลดราคาก๊าซธรรมชาติลงมาโดยราคาคงที่อยู่ที่ 116 บาทต่อล้านบีทียูตลอด 10 ปี ประโยชน์ดังกล่าวจะถูกส่งผ่านในรูปของการลดค่าไฟฟ้าลงมา 15-20 สตางค์ต่อหน่วยจากเดิมราคา 3.6 บาทต่อหน่วยจะเหลือ 3.4 บาทต่อหน่วย, ลดราคาก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ 0.50-1.0 บาทต่อกิโลกรัม (กก.)รวมเป็นมูลค่าแสนล้านบาทประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมปิโตรเคมีเพราะมีวัตถุดิบผลิตต่อเนื่องราคาลดลงมูลค่า 1 แสนล้านบาท, เพิ่มความมั่นคงด้านก๊าซหุงต้ม หรือแอลพีจี ทำให้มีเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง 1 บาท/กก.คิดเป็นมูลค่า 1 แสนล้านบาท นอกจากนี้ กรมเชื้อเพลิงฯ เตรียมพร้อมเพื่อเปิดเชิญชวนให้เอกชนยื่นประมูลขอสิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียมรอบใหม่สำหรับแปลงสำรวจในพื้นที่อ่าวไทยด้วยระบบพีเอสซี ภายในเดือน มิ.ย.นี้ ซึ่งหลักเกณฑ์และเงื่อนไขจะใช้แบบเดียวกับที่เปิดประมูลแหล่งก๊าซธรรมชาติเอราวัณและบงกช โดยเฉพาะการกำหนดให้ผู้เข้าร่วมประมูลต้องเสนอให้หน่วยงานรัฐเข้าไปถือหุ้นสัดส่วน 25% เป็นต้น

ทั้งนี้ กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ ระบุว่า จะติดตามใกล้ชิดเพื่อให้การผลิตช่วงรอยต่อที่จะสิ้นสุดสัญญากับรายเก่าไม่กระทบ จากสัญญาเดิมสิ้นสุดปี 2565-2566 ขณะเดียวกันต้องให้รายใหม่เข้าไปดำเนินการเพื่อเปลี่ยนผ่านหลังสิ้นสุดสัญญาเพื่อให้การผลิตก๊าซฯ เป็นไปตามกำหนดซึ่งทางผู้ชนะประมูลหลังจากนี้ 45 วัน จะต้องส่งแผนการดำเนินงาน ช่วงเปลี่ยนผ่าน เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปตามข้อกำหนดประมูล คือ หมดสัญญาจะต้องผลิตต่อเนื่องและกำหนดขั้นต่ำการผลิตรวมไว้ 1,500 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวันแบ่งเป็นเอราวัณ 800 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน จากปัจจุบัน 1,240 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัยและบงกช 700 ลูกบาศก์ฟุตต่อวันจากปัจจุบันผลิต 900 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน

นายพงศธร ทวีสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท.สผ. กล่าวว่า เม็ดเงินลงทุน ทั้ง 2 แหล่งคาดว่าประมาณ 1 ล้านล้านบาท โดย ปตท.สผ.ไม่ต้องระดมทุนหรือกู้เงินเพิ่ม เพราะจะใช้จากกระแสเงินสด โดยขณะนี้มีกระแสเงินสดราว 4,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และรายได้ผลการดำเนินการแต่ละปี ซึ่งการตั้งราคาก๊าซฯที่ต่ำก็เพื่อประโยชน์ของประชาชน แต่ก็ไม่กระทบค่อผู้ถือหุ้น เพราะปริมาณก๊าซที่ผลิตเพิ่มขึ้นทำให้ต้นทุนผลิตลดลงร้อยละ 20-25 ส่งผลให้กำไรทั้ง 2 โครงการไม่ลดลงแต่อย่างใด และที่สำคัญราคาก๊าซแม้คงที่ 116 บาท แต่ราคาขายจริงยังขึ้นกับราคาน้ำมัน อัตราเงินเฟ้อและอื่นๆ คาดจะขายได้ราว 4-5 ดอลลาร์/ล้านบีทียู และในอนาคต คาดว่าจะเจรจาหาผู้ร่วมทุนเพิ่มเติมทั้งบงกช-เอราวัณ เพื่อให้มีผู้ร่วมทุนราว 3 รายต่อแหล่ง โดยตามข้อกำหนดของกรมเชื้อเพลิงฯ ระบุไว้ว่า จะสามารถหาผู้ร่วมทุนรายใหม่หลังเริ่มผลิตไปแล้ว 1 ปี นั่นก็คือราวปี 2566-2567

ด้าน คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนหรือบีโอไอ เห็นชอบมาตรการส่งเสริมให้โรงกลั่นน้ำมันปรับคุณภาพน้ำมันจากมาตรฐานยูโร 4 เป็นมาตรฐานยูโร 5 เพื่อลดค่าฝุ่นละอองและมลพิษสิ่งแวดล้อมจากน้ำมันในระยะยาวโดยมาตรการนี้จะช่วยเร่งรัดให้มีการปรับปรุงน้ำมันมาตรฐานเป็น ยูโร 5 เร็วขึ้นโดยผู้ประกอบการโรงกลั่นน้ำมันจะได้รับสิทธิประโยชน์ยกเว้นอากรขาเข้าเครื่องจักรในการปรับปรุงคุณภาพน้ำมัน ทั้งนี้จะต้องยื่นขอรับสิทธิและประโยชน์ตามมาตรการนี้ภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2562 -. สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” โชว์ตัวว่าที่ รมต.ทีมเศรษฐกิจ ล้อมวงกินเค้กส้ม

พรรคภูมิใจไทย 6 ก.ย.- “อนุทิน” โชว์ตัว ว่าที่ 3 รมต.ทีมเศรษฐกิจป้ายแดง ล้อมวงกินเค้กส้ม “เอกนิติ” นั่งขุนคลัง เตรียมนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ชี้ปล่อยฟื้นคนละครึ่งกระแสเต็มฟีด ขณะ “สีหศักดิ์” เตรียมนั่ง รมว.กต. มั่นใจชื่อนี้นานาชาติยอมรับ รับเผือกร้อนแก้ปมชายแดนไทย-กัมพูชา ขณะ “อรรถพล” อดีต CEO ปตท. นั่ง รมว.พลังงาน ทำงานได้เลยไม่ต้องรำมวย ยอมรับเก้าอี้กลาโหม ต้องมีความรู้ในวิชาชีพ ปัดตอบชิงดำ “บิ๊กป้อม-ธรรมนัส” นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว อดีต ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ อดีตเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงลอนดอน และอดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ รวมถึงนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง และนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ดื่มกาแฟร่วมกันที่ร้านจานิสตาร์ ชั้น 1 ที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ภายหลังหารือร่วมกันที่บริเวณชั้นบน ทั้งนี้ คาดว่านายสีหศักดิ์ ถูกทาบทาม […]

รัฐมนตรีส่ง จนท.ทยอยขนของออกจากทำเนียบ

ทำเนียบ 6 ก.ย. – รัฐมนตรีในรัฐบาลชุดเดิม ส่งเจ้าหน้าที่ทยอยขนของออกจากทำเนียบรัฐบาล​ หลัง​สภาฯ โหวตเลือก “อนุทิน​” นั่งนายกรัฐมนตรี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เริ่มมีการทยอยขนของออกจากทำเนียบรัฐบาล หลังสภาฯ มีมติโหวตนายกรัฐมนตรีคนใหม่ บรรดารัฐมนตรีและทีมงานของรัฐบาลนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ได้ส่งทีมงานทยอยเก็บของ ก่อนเวลาประมาณ​ 10.00 น.​ พบรถบรรทุก​ 6 ล้อ​ คลุมผ้าใบทึบ ออกจากบริเวณหลังตึกไทยคู่ฟ้า​ รวมไปถึงมีเจ้าหน้าที่มาล้างทำความสะอาดและเปลี่ยนน้ำยาเครื่องปรับอากาศใหม่ ทั้งตึกไทยคู่ฟ้า และตึกบัญชาการ 1 และมีการขนภาพวาดติดฝาผนังออกจากห้องทำงานของนางสาวหทัย ทิวไผ่งาม​ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี​ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า​ แม้ว่าจะเป็นช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์​ มีการแจ้งเตรียมขนของของรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดเดิมออก ทั้งวันเสาร์และอาทิตย์.-314-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” สุดชิล ใส่เสื้อฮาวาย เข้าพรรคประชุมแกนนำ

ภูมิใจไทย 6 ก.ย. – “อนุทิน” ว่าที่นายกฯ สุดชิล ใส่เสื้อฮาวายลายใบไม้ เดินทางเข้าที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ประชุมแกนนำในวันหยุด นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ด้วยท่าทีผ่อนคลาย สีหน้ายิ้มแย้ม สวมเสื้อฮาวายลายใบไม้ เมื่อมาถึงผู้สื่อข่าวพยายามขอสัมภาษณ์ แต่นายอนุทิน ขอตัวขึ้นไปประชุมก่อน และระบุว่าขณะนี้ยังไม่มีข่าว ขณะที่พรรคภูมิใจไทย เตรียมความพร้อมในการจัดงานพิธีสำคัญ ภายหลังมีแกนนำพรรค และว่าที่รัฐมนตรีตามโผ ครม.อนุทิน 1 เช่น นายภราดร ปริศนานันทกุล นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ นอกจากนี้ยังมีผู้ที่ส่งช่อดอกไม้มาแสดงความยินดี รวมไปถึงต้นกล้วยไม้สีขาวก้านยาว ในกระถางพลาสติกสีเขียวอ่อนขนาดใหญ่ ประมาณ 1 คนโอบ ติดนามบัตรมีชื่อของนายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด.-314-สำนักข่าวไทย

อุตุฯ เตือน “อีสาน กลาง ใต้” รับมือฝนถล่ม

6 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนภาคอีสาน ภาคกลาง และภาคใต้ รับมือฝนถล่ม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออกบริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี และตราด ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ทะเลอันดามันตอนล่าง และอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศจีนตอนใต้ในช่วงวันที่ 8 – 9 ก.ย. โดยพายุนี้ไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย – สำนักข่าวไทย