ตำรวจขีดเส้นตาย “เปรมชัย” ต้องมาให้ปากคำ 5 มีนาคมนี้

กรุงเทพฯ 24 ก.พ.-ตำรวจภาค 7 ขีดเส้นตายนายเปรมชัย กรรณสูต ไม่มาพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียก 5 มีนาคมนี้ เตรียมทำรายงานเสนอต่อศาลพิจารณาถอนประกันตัว หรือออกหมายจับทันที


พลตำรวจตรีกฤษณะ ทรัพย์เดช รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ในฐานะหัวหน้าชุดคลี่คลายคดี  เข้าป่าล่าสัตว์ ซึ่งมีนายเปรมชัย กรรณสูต พร้อมพวก 4 คน ตกเป็นผู้ต้องหา เปิดเผยกับสำนักข่าวไทยว่าหากวันที่ 5 มีนาคมนี้ นายเปรมชัยไม่เข้าให้ปากคำเพิ่มเติมตามที่แจ้งขอเลื่อนจากวันที่ 22 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และไม่มีเหตุผลสมควร พนักงานสอบสวนจะทำบันทึกรายงานเสนอศาลจังหวัดกาญจนบุรีพิจารณา เนื่องจากมีพฤติกรรมประวิงเวลาหรือหลบหนี ซึ่งศาลอาจจะถอนประกันตัว นายเปรมชัยและพวก หรือร้ายแรงถึงออกหมายจับ ซึ่งขึ้นกับดุลยพินิจของศาล เนื่องจากเป็นการเลื่อนพบพนักงานสอบสวนถึง 3 ครั้งแล้ว ครั้งแรกนัดหมายกับนายประกันทางโทรศัพท์ แต่ถึงเวลานายเปรมชัยก็ไม่ปรากฏตัว จึงออกหมายเรียกให้มาพบเมื่อ 22 กุมภาพันธ์  แต่นายประกัน อ้างนายเปรมชัยติดธุระสำคัญ และเป็นฝ่ายขอเลื่อนเข้าให้ปากคำวันที่ 5 มีนาคมเอง ซึ่งเท่ากับพนักงานสอบสวนให้โอกาศนายเปรมชัย 3 ครั้งแล้ว พร้อมยอมรับจนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถติดต่อนายเปรมชัยได้ ติดต่อได้แค่ทีมทนายความเท่านั้น


ส่วนความคืบหน้าของสำนวนคดีล่าเสือดำ และสัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ฝั่งตะวันตก ซึ่งเป็นสำนวนหลักในคดีของนายเปรมชัย การสอบสวนยังไม่สามารถชี้ชัดว่านายเปรมชัยหรือพวก เป็นคนลั่นไกปืนยิงเสือดำ แต่ผลการตรวจอาวุธปืนทั้งปืนลูกซอง ปืนไรเฟิล และปืนจุด22 เชื่อว่าปืนที่ยิงเสือดำคือปืนลูกซอง ซึ่งต้องรอผลรายงานการตรวจพิสูจน์อย่างเป็นทางการจากกองพิสูจน์หลักฐานยืนยันอีกครั้ง ว่าพบดีเอ็นเอของนายเปรมชัยที่โก่งไกปืนหรือไม่ ส่วนคลิปเสียง ติดสินบนเจ้าหน้าที่เพื่อแลกกับการปล่อยตัวถูกลบทิ้ง จนถูกตั้งข้อสั่งเกตุว่าอาจมีการแทรกแซงคดีเกิดขึ้น กรณีรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ยืนยันในส่วนที่ตนรับผิดชอบไม่มีการแทรกแซง การทำสำนวนและพยานหลักฐาน ซึ่งพล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราห์มณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กำชับให้เร่งรวบรวมพยานหลักฐาน รวบทั้งแนะแนวทางทำสำนวนรัดกุม ทำให้สำนวนคืบหน้า ขณะนี้เหลือเพียงผลตรวจทางนิติวิทยาของกองพิสูจน์หลักฐาน ผลตรวจซากชิ้นเนื้อเสือดำ ไก่ฟ้าหลังเทาและเก้ง เพื่อนำมาประกอบสำนวน   


ด้านพันตำรวจเอกวัชรินทร์ พูสิทธิ์ รองผู้บังคับการ ปปป. ยอมรับคลิปเสียงเจรจาติดสินบน เพื่อแลกกับการปล่อยตัวหลังถูกจับ ในโทรศัพท์ของนายปิยะพงษ์ ผู้ช่วยนายวิเชียร ชินวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า นเรศวร ด้านตะวันตก ถูกลบจริง โดยนายปิยพงษ์ ยอมรับว่าเป็นคนลบคลิปเสียงไป ปปป. จึงต้องหาคลิปเสียงอันใหม่มาตรวจพิสูจน์ นอกจากนี้เตรียมลงพื้นที่ จำลองเหตุการณ์เสมือนวันจริงที่คณะของนายเปรมชัย โทรศัพท์มาเจรจาต่อรองในลักษณะเสนอสินบนในเร็วๆนี้ด้วย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้

“แพทองธาร” นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมแสดงความยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้ ขอบคุณทุกภาคส่วนผ่านการต่อสู้กับอคติกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยโอบรับความหลากหลาย และเท่าเทียม

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 20 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ฝุ่น กทม.

คนกรุงจมฝุ่นต่อเนื่อง เช้านี้อยู่ระดับสีแดง 21 พื้นที่

กทม. อ่วมหนัก ฝุ่น PM 2.5 พุ่งต่อเนื่อง อยู่ระดับสีแดง ผลกระทบต่อสุขภาพ 21 พื้นที่ ย้ำสวมหน้ากากอนามัยขณะอยู่นอกอาคาร และงดกิจกรรมกลางแจ้ง