สมุทรปราการ 18 ก.พ.- วานนี้ (17 ก.พ.) เวลา 20.00 น. พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร.และโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เดินทางมา ติดตามความคืบหน้า กรณี นักเรียน ม.3 โรงเรียนย่านสมุทรปราการ ถูกอาวุธมีดฟันเข้าที่ลำคอจนเสียชีวิต และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 2 ราย โดยใช้เวลาหารือ สภ.บางแก้ว ประมาณ 1 ชม. และเข้าตรวจสอบที่เหตุ 3 จุด บนถนนหนามแดง-บางพลี ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ
จุดแรกเป็นจุดที่คนร้าย ใช้อาวุธ มีดฟันเข้าที่ลำคอด้านขวาของ นายรชต พิลาหลวง อายุ 15 ปี ผู้ตาย จุดที่ 2 เป็นจุดที่ผู้ตายหล่นลงจากรถจักรยานยนต์ที่นั่งซ้อนมา และจุดที่ 3 เป็นจุดที่เพื่อนของผู้ตายอีก 2 คน ขับรถนำหน้าไปก่อน 1 คัน และพบกับกลุ่มคู่อริที่ดักอยู่กลางถนน หลังจากนั้นทางกลุ่มผู้เสียหายจึงได้พยายามขับรถหลบหนีแต่ไม่ทัน เนื่องจากว่ามีรถสวนทางมาเป็นเหตุให้ประสบอุบัติเหตุและล้มลงที่พื้น คู่อริจึงเข้ามารุมทำร้าย ใช้อาวุธมีดฟันเข้าที่ศีรษะแขนและขาของผู้เสียหายทั้ง 2 คน จนบาดเจ็บ
พล.ต.อ.วิระชัย ได้พูดคุยกับผู้เห็นเหตุการณ์ ซึ่งเล่าว่า ตนได้ยินเสียงรถชนกัน ก่อนจะได้ยินว่า มีวัยรุ่นกำลังทะเลาะกัน เมื่อมองไปที่ถนน ก็พบว่ามีวัยรุ่นถูกรุมทำร้ายนอนเจ็บอยู่ 1 คน แต่ว่าได้พยายามลุกขึ้นแล้ววิ่งหนีหายไป ซึ่งไม่ทราบว่าเรื่องราวทั้งหมดเกิดอะไรขึ้น เพราะในเวลานั้นค่อนข้างจะมืดพอสมควร จากนั้นไปตรวจสอบ จุดที่มีการพ่นสีโลโก้สถาบันทับโลโก้เดิม บริเวณใต้สะพานทางด่วนกาญจนาภิเษก ซึ่งห่างจากจุดเกิดเหตุที่ 3 ประมาณ 5 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่คาดว่า การพ่นสีของสถาบันทับกันเป็นฉนวนที่ทำให้เกิดความขัดแย้งกัน ระหว่างโรงเรียน 2 แห่ง โดยมีการต่อว่ากัน และท้าทายผ่านทางเฟซบุ๊ก จนนำไปสู่การขัดแย้งและทะเลาะวิวาทจนมีฝ่ายหนึ่งถูกทำร้ายร่างกาย
ขณะนี้ยังไม่ได้สอบปากคำ ผู้บาดเจ็บทั้ง 2 ราย และพยานที่เป็นเยาวชน เนื่องจากจะต้องสอบร่วมกับสหวิชาชีพ โดยคาดว่าจะดำเนินการสอบในวันจันทร์ที่ 19 ก.พ.นี้ เมื่อสอบแล้วเสร็จก็จะทำการออกหมายจับผู้กระทำผิดได้ ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และสำหรับคดีดังกล่าว จะต้องแยกเป็น 2 คดี คือคดีแรกคนร้ายฟันคอผู้เสียหาย และคดีที่สอง คือ ดักทำร้าย โดยใช้อาวุธมีดฟันทำร้าย
ตำรวจรู้ตัวผู้ร่วมกระทำความผิดทั้งหมดแล้ว มีไม่ต่ำกว่า 2 คน จึงขอฝากถึงผู้ปกครอง หรือญาติ ที่พาผู้กระทำผิดหลบหนี ว่าการกระทำเช่นนี้ต้องเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ขอให้นำตัวผู้กระทำความผิดทั้งหมดมามอบตัวก่อนที่ตำรวจจะเข้าจับกุม หลังจากนี้จะต้องเชิญผู้บริหารทั้ง 2 โรงเรียนมาประชุมหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาข้อขัดแย้งที่เกิดจากตัวบุคคลร่วมกันเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาแบบเดิมซ้ำอีกในอนาคต. – สำนักข่าวไทย


