ตร. 1 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” ยังติดใจโผแต่งตั้งโยกย้ายบางรายชื่อไม่เหมาะสม แต่ดีใจกับ “พล.ต.ต.นพศิลป์-พล.ต.ต.รุ่งโรจน์” ชมเป็นคนเก่ง มีความสามารถ ส่วนตัวเดินหน้าทำงานเต็มสูบแม้ไม่ได้รับการแต่งตั้งอีก
จากการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) เมื่อวานนี้ใช้เวลานานถึง 8 ชั่วโมง ในการจัดทำบัญชีรายชื่อ ซึ่งมีตำรวจที่ได้รับการแต่งตั้งโยกย้ายครั้งนี้ 250 นาย แต่ปรากฏว่า พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ไม่มีชื่อในการแต่งตั้งโยกย้าย ซึ่งก่อนหน้านี้เคยออกมาเปิดหน้ายื่นขอความเป็นธรรมกับ นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยว่า ยืนยันว่าไม่น้อยใจที่ไม่ได้รับการแต่งตั้ง ตามที่เคยให้สัมภาษณ์ไปแล้วว่าอยากให้คนทำงานได้รับโอกาส เช่น พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้บัญชาการประจำสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ตนเองก็ยินดีด้วย เพราะพล.ต.ต.นพศิลป์ เป็นคนเก่งและมีความสามารถ ทำงานด้านสืบสวน หรือ พล.ต.ต.รุ่งโรจน์ ฐากูรปุณยสิริ รองผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ที่ได้ขึ้นเป็นผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน จากผลงานร่วมรบที่แนวชายแดนไทย-กัมพูชา และคนอื่นๆ แต่ก็ยังมีบางรายชื่อ 2-3 นาย ที่มองว่าไม่เหมาะสมกับตำแหน่งที่ได้รับเลื่อนยศจาก พล.ต.ต. ขึ้นเป็น พล.ต.ท. ส่วนระดับยศ พ.ต.อ.ขึ้น พล.ต.ต. ตนเองยังไม่เห็นรายชื่อ จึงยังไม่สามารถให้ความเห็นได้
ทั้งนี้มองว่าถ้าเพียงแค่ตนเองเปิดเหน้ากระตุกเตือน ก.ตร. หรือผู้บังคับบัญชาให้แก้ไขเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมได้ก็เป็นสิ่งที่ดี หลังจากนี้ตนเองจะไปหารือกับกรรมาธิการการตำรวจ รวมทั้งคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ (ก.พ.ค.ตร.) เพื่อวางแนวทางโครงการการพิจารณาเรื่องการแต่งตั้งในหมวดความรู้ความสามารถให้มีความชัดเจนต่อไป ว่าควรคำนึงถึงอะไรบ้างในการแต่งตั้ง และช่วยผลักดัน ก.ตร. ชุดนี้ใช้ พ.ร.บ.ตำรวจ พ.ศ.2565 สำหรับการแต่งตั้งในอนาคตให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น เป็นธรรมกับทุกคน
นอกจากนี้มองว่าการที่ทั้ง พล.ต.ต.นพศิลป์ และคนอื่นๆ ได้เลื่อนตำแหน่ง ไม่ใช่แผนการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่วางตัวเลื่อนตำแหน่งไว้แล้ว แล้วต่อให้ตนเองออกมาร้องขอความเป็นธรรม แต่เป็นเพราะผลงานของนายตำรวจเหล่านี้ที่มีความสามารถโดดเด่น ส่วนตัวเองไม่เสียขวัญกำลังใจแม้จะไม่ได้รับการแต่งตั้งอีกในปีหน้า จะไม่มีการร้องเรียนใดๆ แต่จะยิ่งทำงานหนักเพื่อส่วนรวม.-416-สำนักข่าวไทย