สำนักงาน กกต. 13 ก.พ.- “สมชัย” เผย เสียงประธานกกต.มีสิทธิชี้ขาด พ.ร.ป. ว่าด้วย ส.ว. แนะให้โหวตฝ่าย สนช.ตามความเห็นที่ประชุม กกต. หวั่นร่างกฎหมายถูกคว่ำ
นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงการตั้งกรรมาธิการร่วม 3 ฝ่าย เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วย ส.ว . ว่า ขณะนี้มีความคิดที่เสนอออกมาจากสองฝ่าย คือ ความเห็นไม่ตรงกันระหว่าง กรธ. กับทาง สนช. ซึ่งแต่ละฝ่ายก็จะมีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน ในประเด็นการจำแนกประเภทผู้สมัครเข้ารับการสรรหาเป็น ส.ว. ที่เป็นผู้สมัครอิสระ กับองค์กรที่เป็นนิติบุคคล การลดจำนวนกลุ่มอาชีพ และการเปลี่ยนวิธีการเลือกไขว้มาเป็นการเลือกตรง ซึ่งจะมีผลต่อโครงสร้างใหญ่ของกฎหมาย ถ้าหากเลือกความคิดฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง กฎหมายก็จะถูกเขียนใหม่ไปในทางหนึ่ง ดังนั้นในขั้นของกรรมาธิการร่วม 3 ฝ่าย หากไม่สามารถที่จะเจรจากันด้วยเหตุผล และยังยืนยันความเห็นของตัวเองอยู่ เสียงของนายศุภชัย สมเจริญประธาน กกต. หนึ่งเสี่ยงจะกลายเป็นเสียงสำคัญ เป็นเสียงที่ชี้ขาด ว่ามติของกรรมาธิการร่วม 3 ฝ่าย จะเป็นไปทางไหน หากประธาน กกต. เลือกเหตุผลของ กรธ. ผลที่เกิดขึ้น อาจกลายเป็นแพ้โหวต ก็อาจทำให้กฎหมายล้มไปทั้งฉบับ ถูกคว่ำไปในที่สุด และจะต้องไปร่างกันใหม่
นายสมชัย กล่าวว่า ท่าทีของประธาน กกต. สำคัญมาก ไม่ว่าจะโหวตไปฝ่ายไหน ก็ต้องมีเหตุผลที่จะชี้แจงต่อสังคม ว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้น ประธาน กกต.เองก็จะกลายเป็นจำเลยของสังคมอีกคนหนึ่งว่า มีส่วนในการที่จะช่วยทำให้สถานการณ์ต่าง ๆ ไปในทิศทางที่เป็นปัญหาต่อบ้านเมือง ซึ่งจริงๆ แล้ว ทาง กกต. ควรจะโหวตไปทาง สนช. เนื่องจากในความเห็นแย้งจากที่ประชุมของ กกต. ที่ส่งไปยัง สนช. นั้น เราไม่ได้ทำความเห็นแย้งไปในประเด็นที่ กรธ. เสนอ เราไม่ติดใจเรื่องเกี่ยวกับการแบ่งประเภท การแบ่งกลุ่ม และวิธีการเลือกตรงหรือเลือกไขว้ เราถือว่ากระบวนการต่าง ๆ เหล่านี้เป็นการออกแบบ ซึ่งสามารถออกแบบอย่างไรก็ได้ แต่ยังไม่มีใครสามารถบอกได้ว่าอะไรที่สามารถป้องกันการทุจริต ป้องกันการฮั้ว ระหว่างกลุ่มต่าง ๆ ได้ดีกว่ากัน เป็นเพียงแค่การคาดการของแต่ละฝ่ายว่า แบบนี้ดีกว่า แบบนั้นดีกว่า ดังนั้น เรายังไม่เห็นอนาคตว่าเป็นยังไง เราก็ไม่ได้ทำความเห็นแย้งว่ามันขัดกับรัฐธรรมนูญ
“ท่าทีที่ปลอดภัยกับทาง กกต. คือโหวตไปทางซีกของ สนช. ก็เท่ากับว่าไม่ได้ไปขัดกับสภาใหญ่ แล้วก็ไม่ได้ทำให้เป็นประเด็นที่นำไปสู่การคว่ำกฎหมายฉบับนี้ แต่ก็แล้วแต่ท่านประธาน กกต. เพราะท่านก็มีความเห็นอิสระในการที่จะคิดตัดสินใจเอง ท่านไม่มีความจำเป็นต้องกลับมาถาม กกต. อีก เพราะเป็นเรื่องที่เราคุยกันในกรรมการ กกต. แล้ว ว่าจะไม่แย้ง เมื่อไม่แย้งความเห็น กกต.จึงเห็นว่าไม่เป็นปัญหา ดังนั้น ถ้ายึดตามมติเดิมแปลว่า กกต. ไม่ติดใจ ก็ไม่น่าจะต้องไปโหวตในฝั่งของ กรธ.”นายสมชัย กล่าว
นายสมชัย กล่าวว่า หากวันที่ประชุมร่วม 3 ฝ่าย กรธ. มีเหตุผลที่ดีมากๆ ทำให้จูงใจ สนช. และกกต.ให้สนับสนุน ก็ยังมีโอกาสเสี่ยง ว่า ตัวแทนของ สนช. ที่มาร่วมเป็นกรรมาธิการนั้นไม่ได้เป็นเสียงของ สนช.ทั้งหมด อาจทำให้ สนช.ทั้งหมดร่วมกันโหวตด้วยเสียงมากกว่า 2 ใน 3 ไม่เห็นด้วยทำให้กฎหมายดังกล่าวตกไปทั้งฉบับ .-สำนักข่าวไทย