นนทบุรี 13 ก.พ. – เจ้าหน้าที่ใช้อำนาจตามมาตรา 44 เข้าตรวจค้นคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จับลูกน้อง “โกตี๋” ประกอบวัตถุระเบิดซุกซ่อนภายในห้องพัก
เมื่อเวลา 23.40 น. วานนี้ (12 ก.พ.) พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมเจ้าหน้าที่ทหาร ใช้อำนาจตามมาตรา 44 เข้าตรวจค้นห้องพักคอนโดมิเนียม ย่านเมืองทองธานี หลังได้รับแจ้งว่าพบวัตถุคล้ายระเบิดภายในห้องดังกล่าว เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด (อีโอดี) ได้เข้าตรวจสอบอย่างละเอียด พบสายไฟ ตะปู และที่ริมผนังห้องพบกระเป๋า ภายในมีระเบิดขว้างชนิด M26 สภาพพร้อมใช้งาน จำนวน 1 ลูก นอกจากนี้ยังพบไปป์บอมบ์อีก 2 ลูก พลุดอกไม้ไฟพันด้วยเทปสีดำ ภายในบรรจุตะปู 3 ตัว ระเบิดปิงปอง 4 ลูก ลูกบอลสำหรับจุดไล่นก 23 ลูก เสื้อแดงสกรีนข้อความ “มวลชนคนลำลูกกา” ผ้าพันคอสีเหลือง 1 ผืน และมือตบผูกด้วยริบบิ้นธงชาติ 1 อัน
เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวนายกฤษ์ชาภณ พูลศิลป์ อายุ 53 ปี ซึ่งเป็นผู้พักอาศัยภายในห้องพักดังกล่าวไว้สอบสวน เบื้องต้นรับสารภาพว่า เช่าห้องดังกล่าวมาตั้งแต่ปี 2556 และเป็นเครือข่ายของนายโกตี๋ หรือนายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ แกนนำเสื้อแดงฮาร์ดคอร์ปทุมธานี โดยวัตถุระเบิดที่พบไม่ใช่ของตนเอง แต่เก็บมาได้ และไม่คิดจะนำไปก่อเหตุที่ไหน
ด้าน พล.ต.อ.ศรีวราห์ เปิดเผยว่า เบื้องต้นผู้ต้องหารับสารภาพว่าเป็นลูกน้องของนางระพิน เครือข่ายโกตี๋ แต่นายกฤษ์ชาภณ ปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นผู้ประกอบระเบิด โดยวัตถุระเบิดที่พบในห้องเป็นของที่เก็บได้และนำมาสะสมไว้เท่านั้น ซึ่งตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ เพราะจากลักษณะไปป์บอมบ์ที่พบ ใกล้เคียงกับที่คนร้ายใช้วางระเบิดหน้าห้างสยามพารากอน เมื่อปี 2557 ส่วนจะมีบุคคลอื่นเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ยังไม่ทราบ โดยจะให้เจ้าหน้าที่ตรวจดีเอ็นเอบนแปรงสีฟัน 3 ด้าม ที่พบในห้องเกิดเหตุ
รอง ผบ.ตร. กล่าวอีกว่า นายกฤษ์ชาภณ เป็นหนึ่งใน 27 บุคคลที่ฝ่ายความมั่นคงเฝ้าระวังมาตั้งแต่ปี 2557 เนื่องจากอยู่ในเครือข่ายของโกตี๋ แต่ไม่พบประวัติในคดีอาญา การตรวจพบวัตถุระเบิดในครั้งนี้ เป็นสิ่งที่ยืนยันได้ว่ายังมีกลุ่มคนที่มีอาวุธหนัก ซึ่งสามารถใช้การได้ตลอดเวลา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสืบสวนผู้ต้องหาทราบว่าเป็นอดีตทหารปลดประจำการ โดยเช่าห้องพักแห่งนี้มานานกว่า 5 ปี แต่ไม่ยอมจ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ และไม่จ่ายค่าเช่าห้อง เจ้าของห้องจึงให้ออก และเตรียมให้คนเช่าใหม่เข้ามาอยู่แทน จึงให้แม่บ้านเข้ามาทำความสะอาด และพบวัตถุต้องสงสัยดังกล่าว ซึ่งหลังจากควบคุมตัวนายกฤษ์ชาภณ ตำรวจได้ส่งตัวให้ทหารร้อย รส.ควบคุมตัวไปสอบสวนขยายผลเป็นเวลา 7 วัน ก่อนจะส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีต่อไป. – สำนักข่าวไทย