กทม. 12 ก.พ.-เกือบเดือนแล้วที่คนกรุง ต้องสูดดมมลพิษอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทำให้องค์กรรณรงค์อิสระด้านสิ่งแวดล้อม เผยคนไทยเสี่ยงเสียชีวิตก่อนวัยอันควรเพิ่มขึ้นมากกว่า 5,000 คนต่อปี แนะรัฐควรปฏิรูประบบการจราจรขนส่ง แก้ปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 เกินค่ามาตรฐานได้ในระยะยาว
กว่าครึ่งเดือนแล้วที่คนกรุงต้องเผชิญกับมลพิษทางอากาศ โดยจุดนี้คือถนนอินทรพิทักษ์ เขตธนบุรี ที่พบค่า PM2.5 เกินค่ามาตรฐานมากว่า 2 สัปดาห์แล้ว ชาวบ้านย่านฝั่งธนฯ ได้แต่ทำใจ และชินชากับฝุ่นละออง ที่ต้องสูดดมอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
ถึงแม้จะไม่ปรากฏตัวเลข ผู้ป่วยระบบทางเดินหายใจเพิ่มขึ้น แต่ไม่ควรชะล่าใจ โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับปอด ถุงลมโป่งพอง หรือภูมิแพ้ ควรหลีกเลี่ยงการเข้าใกล้เขตก่อสร้าง หรืองดออกจากบ้าน
ผลวิจัยของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ระบุ ตั้งแต่ปี54 มลพิษทางอากาศในไทย เป็นสาเหตุให้เสียชีวิตก่อนวัยอันควรกว่า 1,500 คนต่อปี และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นมากกว่า 5,000 คนต่อปี หน่วยงานรัฐ ควรยกระดับดัชนีคุณภาพอากาศให้ทันสมัย สอดคล้องกับวิกฤตฝุ่นละอองในปัจจุบัน เตือนคนไทยได้ทันถ่วงที
ไม่ใช่แค่ไทยที่ต้องเผชิญกับวิกฤตมลพิษทางอากาศ แต่ปักกิ่ง เมืองหลวงของจีน ก็ยากที่จะหาอากาศบริสุทธิ์จนต้องออกมาตรการเข้มงวด ทั้งสั่งปิดโรงงาน แบ่งวันวิ่งรถ ออกป้ายทะเบียนรถอีโค่คาร์ หวังลดมลพิษได้จริง ขณะที่เมืองกรุง ทำได้เพียงแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ภายใต้ พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร 2522 มีอำนาจสั่งระงับก่อสร้างทันที
สำหรับการแก้ปัญหาระยะยาว องค์กรด้านสิ่งแวดล้อมฯ แนะ ภาครัฐควรปฏิรูประบบการจราจรขนส่ง ลดใช้รถยนต์ส่วนบุคคล เพื่อแก้ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 เกินค่ามาตรฐาน ก่อนที่คนกรุงต้องเสียชีวิตแบบผ่อนส่งไม่รู้ตัว.-สำนักข่าวไทย