สุพรรณบุรี 7 ต.ค. – เกษตรกร อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี ยึดอาชีพทำนาสลับทำนาแห้ว สืบทอดกันมายาวนานจากรุ่นสู่รุ่น สร้างรายได้ตลอดปี พร้อมพัฒนาสายพันธุ์ให้ได้แห้วที่มีหัวขนาดใหญ่ สีขาวสวย น่ารับประทาน เป็นที่ต้องการของตลาดทั้งในประต่างประเทศ
อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี แหล่งปลูกแห้วใหญ่ที่สุดในประเทศ และปลูกแห้วขายกันตลอดทั้งปี ส่งทั้งลูกค้าในประเทศและต่างประเทศ แห้วเป็นพืชเศรษฐกิจอีกหนึ่งชนิดที่ขึ้นชื่อของจังหวัดสุพรรณบุรี เกษตรกรในพื้นที่ อ.ศรีประจันต์ส่วนใหญ่ มีอาชีพทำนาและปลูกแห้วสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น รวมถึงเกษตรกรหนุ่ม เวโรจน์ พัฒนะพรหมมาส หรือกอล์ฟ หนุ่มดีกรีปริญญาตรี สาขาด้านการจัดการ มารับช่วงเป็นเกษตรกรต่อจากคุณพ่อ เป็นรุ่นที่ 3 แล้ว
คุณกอล์ฟ บอกว่า แห้วที่ใช้ในการปลูกมี 2 สายพันธุ์ คือ สายพันธุ์แห้วไทยและจีน นำมาปลูกคู่กัน แนวคิดนี้ได้มาตั้งแต่สมัยรุ่นพ่อ เพราะต้องการให้แห้วของไทยมีความแตกต่างไม่เหมือนที่อื่น แต่ก่อนจะปลูกแต่แห้วไทยเพียงอย่างเดียว แต่เจอปัญหาเรื่องสายพันธุ์เพราะแห้วไทยลูกเล็ก แป้งเยอะ รสชาติเค็ม มัน จึงเกิดไอเดียนำสายพันธุ์แห้วจีนหรือแห้วทรงกระเทียม ซึ่งมีลักษณะเด่น หัวใหญ่ แป้งน้อย รสชาติหวานคล้ายมันแกว พอมาปลูกรวมกันจะเกิดการผสมข้ามสายพันธุ์ทำให้แห้วหัวใหญ่ แป้งเยอะ และมีรสชาติหวาน
สำหรับวิธีปลูกแห้ว นำแห้วมาผึ่งลม 2-3 วัน ใช้ขี้เถาแกลบกลบให้ทั่ว รดน้ำทุกเช้า หากอากาศร้อนให้รดน้ำเช้า-เย็น ประมาณ 30 วัน จะได้กล้าแห้วสูง 20-35 ซม. นำไปปลูกลงแปลง ระยะห่าง 70 x 70 ซม. แห้ว 1 ต้นพันธุ์ สามารถขยายออกเป็นแห้วอีก 100-200 หัว จึงต้องเว้นระยะห่างเพื่อให้แห้วเจริญเติบโตที่ดี เมื่ออายุครบ 6 เดือน ก็เก็บผลผลิตขาย มีพ่อค้าแม่ค้ามารับซื้อถึงสวน ราคาถังละ 260 บาท
นอกจากนี้ เกษตรกรในพื้นที่ได้รวมกลุ่มกันต่อยอดแปรรูป ทำเป็นน้ำแห้ว แห้วอบแห้ง น้ำพริกแห้ว และข้าวเกรียบแห้ว จนเป็นสิ้นค้า OTOP 5 ดาวอีกด้วย. – สำนักข่าวไทย