กรุงเทพฯ 31 ม.ค. – “ก้องเกียรติ” เตือนนักลงทุนระวังวิกฤติรอบใหม่ หากบิทคอยน์พัง ชี้ทางการควรเร่งออกกฎหมายดูแล
นายก้องเกียรติ โอภาสวงการ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า นักลงทุนควรระมัดระวังการลงทุนในเงินสกุลดิจิทัล หรือคริปโตเคอร์เรนซี รวมทั้งบิทคอยน์ เพราะหากบิทคอยน์พังจะเกิดผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกและอาจเกิดวิกฤติอีกครั้ง เพราะมูลค่าการลงทุนในเงินดิจิทัลหลายแสนล้านดอลลาร์สหรัฐ หากพังมูลค่าอาจจะกลายเป็นศูนย์ได้ และปัจจุบันราคาเงินสกุลดิจิทัลปรับลดลงมาก โดยเฉพาะบิทคอยน์ราคาร่วงลงถึงร้อยละ 50 และมีความผันผวนสูงมาก นักลงทุนต้องระวังให้มาก การลงทุนระยะสั้นที่ให้ผลตอบแทนสูงเกินไปมันจะอยู่ไม่นานเหมือนในอดีตที่เคยเกิดวิกฤติดอทคอม
“ถ้านักลงทุนจะทดลองซื้อเหรียญดิจิทัล ก็ไม่ควรทดลองด้วยเงินจำนวนมาก เพราะราคาเหรียญดิจิทัล ขึ้นลงตามดีมานซัพพลาย มูลค่าพื้นฐานเหรียญดิจิทัลแต่ละชนิดอยู่ตรงไหนไม่มีใครรู้ ส่วนตัวไม่เชื่อว่าจะมีใครปั้นเงินมาจากอากาศได้” นายก้องเกียรติ กล่าว
ส่วนกรณีที่นักลงทุนเข้าไปซื้อเงินดิจิทัลจากบริษัทที่ระดมทุนด้วยเงินดิจิทัล (ICO) นั้น นายก้องเกียรติ กล่าวว่า นักลงทุนควรวิเคราะห์ข้อมูลทั้งข้อดีและข้อเสีย เนื่องจากในประเทศไทยยังไม่มีกฎหมายมาดูแล ขณะที่หลายประเทศมีความกังวลและออกกฎมาควบคุม เพราะเกรงว่าบริษัทที่ระดมทุนด้วย ICO เข้าข่ายการพิมพ์ธนบัตรขึ้นมาใช้เอง หากเงินสกุลดิจิทัลใช้ในการแลกเปลี่ยนสินค้าได้ ควรมีการประเมินมูลค่าที่เหมาะสมของเงินดิจิทัล และไม่ควรผันผวนมากจนเกินไป อย่างไรก็ตาม ทั้งเรื่องเงินสกุลดิจิทัลและ ICO หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังพิจารณาออกกฎหมายดูแล ซึ่งเห็นว่าควรที่จะดำเนินการโดยเร็วและเชื่อว่าเมื่อทางการออกกฎกำกับดูแลบริษัทที่ระดมทุนด้วย ICO จะมีจำนวนน้อยลง .- สำนักข่าวไทย