ผู้ค้าปลีกกลาง-เล็กพอรับอัตราแรงงานใหม่ได้

กรุงเทพฯ 18 ม.ค. – นายกสมาคมค้าส่งปลีกไทยระบุผู้ค้าปลีกกลางและเล็กพอรับอัตราแรงงานเพิ่มไหว ห่วงรายใหญ่กระทบ แนะรัฐอย่าคุมสินค้าปล่อยกลไกตลาดแทน


นายสมชาย พรรัตนเจริญ นายกสมาคมค้าส่งปลีกไทย กล่าวว่า อัตราค่าจ้างแรงงานที่ปรับเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 5-22 บาทของแต่ละจังหวัดนั้น โดยส่วนตัวพอรับอัตราดังกล่าวได้ แม้ว่าทำให้ต้นทุนร้านค้าปลีกขนาดเล็กและขนาดกลางไม่ได้รับผลกระทบมากนัก แต่ก็ถือว่าเป็นต้นทุนที่ผู้ประกอบการต้องแบกรับ  ซึ่งผลกระทบดังกล่าวผู้ค้าปลีกรายใหญ่ที่มีพนักงาน 1,000 คนขึ้นไปกระทบมากแน่นอน ดังนั้น จะทำให้การแข่งขันประเภทลดแลกแจกแถมของผู้ประกอบการค้าปลีกรายใหญ่น้อยลง 

อย่างไรก็ตาม ในแง่ของราคาสินค้าอุปโภคและบริโภคจากอัตราแรงงานที่ปรับเพิ่มขึ้นนี้คงต้องอยู่กับผู้ผลิตสินค้ารายใหญ่แต่ละรายว่าจะบริหารจัดการกันอย่างไร เพราะหากสินค้าจากต้นทางไม่มีการปรับราคาสินค้าขึ้น ผู้ค้าปลีกขนาดกลางและขนาดเล็กก็จะไม่มีการปรับเพิ่มขึ้นแต่อย่างใด แต่ด้วยสภาพการค้าปัจจุบันเปิดเสรีตามกรอบการค้ากับหลายประเทศ ทำให้สินค้าจากต่างประเทศเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยมากขึ้นกว่าอดีตที่ผ่านมา ผู้บริโภคมีทางเลือกมากขึ้น จึงคิดว่าหน่วยงานภาครัฐไม่ควรจะเข้ามาควบคุมสินค้าโดยใช้กลไกตลาดเป็นตัวควบคุมแทน โดยหน่วยงานภาครัฐหันมาสนับสนุนและส่งเสริมให้มีการผลิตสินค้าอย่างมีคุณภาพเพิ่มขึ้นจะทำให้ประเทศชาติมีการพัฒนามากยิ่งขึ้น


นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์ สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำระดับดังกล่าวถือว่ารับได้และไม่ส่งผลกระทบต่อต้นทุนการส่งออกข้าวให้สูงมากนัก โดยอาจมีผลต่อราคาส่งออกข้าวให้ปรับเพิ่มขึ้นไม่ถึง 1 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน เนื่องจากระดับการปรับขึ้นดังกล่าวไม่ได้ปรับขึ้นในอัตราเดียวกันทั่วประเทศและเป็นอัตราที่ไม่สูงมาก 

ทั้งนี้ หากปรับเพิ่มมากกว่านี้อาจจะกระทบต่อความสามารถการแข่งขันได้ เพราะการส่งออกข้าวเป็นอุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานค่อนข้างมาก เพราะต้องใช้แรงงานตั้งแต่เกี่ยวข้าว การขนถ่ายข้าว การขนส่ง การบรรจุ จนถึงการลำเลียงเพื่อการส่งออก ประกอบกับค่าเงินบาทที่แข็งค่าอย่างต่อเนื่องขณะนี้ทำให้เป็นต้นทุนที่สูงขึ้นของการส่งออกข้าวของไทยอยู่แล้ว. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง