กรุงเทพฯ 17 ม.ค. – ผู้ว่าการธปท.เตือนคนเข้าใจผิด คิดว่าจำนวนเหรียญดิจิทัลมีจำกัด หวังราคาสูงขึ้นทุกวัน ย้ำไม่ใช้เงินเป็นเพียงตราสารการลงทุน
นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยถึงความนิยมในเงินสกุลดิจิทัล โดยเฉพาะบิทคอยน์ว่า การลงทุนในบิทคอยน์มีความเสี่ยงสูงมาก ทั้งเรื่องความผันผวนของราคา และความเสี่ยงด้านเทคโนโลยี ที่อาจจะถูกแฮ็กระบบคอมพิวเตอร์ ระบบการซื้อขาย ซึ่งอาจทำให้เกิดความเสียหาย มูลค่าบิทคอยน์อาจจะสูญหายไป ขณะเดียวกันฝากเตือนประชาชนว่า กำลังมีความเข้าใจคลาดเคลื่อนว่า ราคาของเงินสกุลดิจิทัลจะสูงขึ้นทุกวัน เพราะปริมาณเงินดิจิตัลมีจำกัด ทั้งที่ความจริงเงินสกุลดิจิทัลมีเกิดใหม่ขึ้นตลอดเวลา ปริมาณจึงเพิ่มขึ้นตลอดเวลาเช่นกัน
ดังนั้นประชาชนที่เข้าไปลงทุน จะต้องศึกษาอย่างรอบคอบ และย้ำว่าเงินสกุลดิจิทัล ไม่ใช่เงินตราที่ได้รับการรับรองตามกฎหมาย และในทางปฏิบัติก็ไม่ควรเรียกเงินดิจิทัลว่าเหรียญ เพราะถือเป็นตราสารการลงทุนมากกว่า และมีลักษณะเหมือนจริง แต่จับต้องไม่ได้
อย่างไรก็ตาม สำหรับในประเทศไทย ยังไม่พบว่า สถาบันการเงินของไทยเข้าไปเกี่ยวข้องกับการซื้อขายเงินสกุลดิจิทัล เพราะมีความระมัดระวังสูง และยังไม่พบว่า กระทบต่อเสถียรภาพของระบบการเงินไทย
ส่วนกรณีที่กระทรวงการคลังต้องการให้ธปท. กำกับดูแลเรื่องนี้ นายวิรไทกล่าวว่า ปัจจุบันมีคณะทำงานที่มีตัวแทนจากหลายหน่วยงานดูแลเรื่องนี้อยู่แล้ว ซึ่งแต่ละหน่วยงานมีอำนาจตามกฎหมายและความถนัดที่แตกต่างกันไป และการกำกับดูแลจะต้องดูแลในหลายมิติ เช่น คปภ. มีหน้าที่ดูแลผลิตภัณฑ์ด้านประกันภัย ,ธปท.ดูแลช่องทางการจำหน่าย ส่วนสคบ.จะทำหน้าที่คุ้มครองผู้บริโภค ซึ่งเบื้องต้นทุกฝ่ายเห็นว่า ข้อกังวลมากที่สุดเกี่ยวกับเงินสกุลดิจิทัล คือ อาจจะถูกนำมาใช้เป็นช่องทางในการฟอกเงิน ซึ่งเรื่องนี้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน กำกับดูแลอย่างใกล้ชิดอยู่แล้ว
นายปรีดี ดาวฉาย ประธานสมาคมธนาคารไทย และกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวถึงกระแสความนิยมเงินดิจิทัล หรือ คริปโต เคอร์เรนซี่ ว่า เงินดิจิทัลไม่ใช่เงินตามพ.ร.บ. เงินตรารับรองเพียงธนบัตรและเหรียญกษาปณ์ที่สามารถชำระหนี้ได้ตามกฎหมายเท่านั้น ดังนั้นคนที่จะเข้าไปลงทุนต้องรับความเสี่ยง เพราะราคาอาจไม่ได้ขึ้นตามที่คาดหมาย และอาจเกิดความเสียหาย ซึ่งในอดีตเคยมีความเสียหายการลงทุนในแชร์ลูกโซ่ อย่างไรก็ตามสำหรับลูกค้าธนาคารได้ให้สิทธิ์ในการตัดสินใจลงทุนของลูกค้า แต่ก็พร้อมเตือนถึงความเสี่ยง พิจารณาอย่างรอบคอบ และขอแนะนำว่าอย่าไปกู้เงินไปลงทุน เชื่อว่ายังมีสินทรัพย์ประเภทอื่นที่ยังสามารถลงทุนและให้ผลตอบแทนได้– สำนักข่าวไทย