fbpx

ชาวไร่อ้อยหนุนลอยตัวราคาน้ำตาลเชื่อระยะยาวได้ประโยชน์

กรุงเทพฯ 17 ม.ค.- ชาวไร่อ้อยสนับสนุนการประกาศลอยตัวราคาน้ำตาลทรายของคสช.  ระบุแม้ระยะสั้นกระทบรายได้ราคาขายอ้อยลดลง แต่ระยะยาวเมื่อราคาปรับขึ้นลงได้จะส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายทั้งระบบ และสอดคล้องกับข้อตกลง WTO


นายกำธร กิติโชติทรัพย์ นายกสมาคมชาวไร่อ้อยเขต 7 กล่าวว่า การที่หัวหน้าคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ(คสช.) ออกคำสั่งมาตรา 44 ปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย และเป็นการประกาศลอยตัวราคาน้ำตาลทรายภายในประเทศให้ราคาปรับขึ้นลงตามกลไกตลาดที่สอดคล้องกับการเคลื่อนไหวของราคาน้ำตาลในตลาดโลกนั้น ชาวไร่อ้อยสนับสนุนเพราะเป็นการดำเนินการตามพันธสัญญาที่ประเทศไทยในฐานสมาชิกองค์การการค้าโลก(WTO) และช่วยสร้างความยั่งยืนในระยะยาวให้กับอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายไทย ลดการอุดหนุนจากรัฐ  ขณะเดียวกันผู้บริโภคคนไทยทั้งประเทศก็จะได้บริโภคน้ำตาลราคาถูกลง เพราะการลอยตัวทำให้ราคาขายปลีกน้ำตาลในไทย จะปรับลดลงตามราคาตลาดโลกประมาณ 2 บาทต่อกิโลกรัม ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านของไทยราคาขายปลีกน้ำตาลต่อกิโลกรัมสูงกว่าไทย โดยอยู่ที่ประมาณ 30 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งราคาน้ำตาลที่ลดลงจากการลอยตัวราคา ในระยะสั้นแม้ส่งผลกระทบต่อรายได้จากการจำหน่ายอ้อยของชาวไร่อ้อย  แต่ถ้าพิจารณาในระยะยาวแล้ว การปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย ที่เปลี่ยนแปลงไปโดยราคาน้ำตาลลอยตัวขึ้นลงตามกลไกตลาดที่สอดคล้องการเคลื่อนไหวของราคาน้ำตาลในตลาดโลก  ไม่ถูกกำหนดราคาจำหน่ายตายตัวอย่างที่ผ่านๆ มากว่า 30 ปีแล้วก็เชื่อว่า ชาวไร่อ้อย โรงงาน หรือกล่าวโดยรวมคือ ระบบอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายจะได้รับประโยชน์มากกว่า เพราะเมื่อราคาสูงขึ้นชาวไร่อ้อยก็ได้ประโยชน์เพิ่มขึ้นเช่นกัน แต่เมื่อราคาตกต่ำอย่างในฤดูกาลผลิตปี 2560/2561  ทางระบบอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายก็จะช่วยเหลือกัน 

โดยในปีนี้ได้ขอให้ทางโรงงานทดลองจ่ายเงินเพิ่มค่าอ้อยให้กับชาวไร่อ้อยก่อน 50 บาทต่อตันอ้อย จากที่ชาวไร่อ้อยได้ราคาอ้อยขั้นต้นที่ 880 บาทต่อตันอ้อยสำหรับอ้อยที่ปลูกทั่วประเทศและ 830 บาทต่อตันอ้อยสำหรับอ้อยที่ปลูกในพื้นที่เขต 5 ที่ค่าความหวาน 10 ccs จากนั้นสิ้นปีก็มาพิจารณารายรับรายจ่ายของระบบอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลในภาพรวมถึงเงินที่ทางโรงงานทดลองจ่ายไปก่อนนี้ได้ ปัจจุบันประเทศไทยมีเกษตรกรชาวไร่อ้อย 1 ล้านครอบครัว ฤดูการผลิตปี 2560/2561มีผลผลิตอ้อยมากกว่าปีที่ผ่านมา โดยประมาณการว่า จะมีผลผลิตรวม 109 – 110 ล้านตันอ้อย  และมีค่าความหวานเฉลี่ยที่สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย ประเมินเฉลี่ยทั่วประเทศอยู่ที่ 12 ccs. -สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกตรวจน้ำท่วมเชียงราย

นายกฯ บินเชียงราย ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม

“นายกฯ แพทองธาร” ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม เตรียมมอบถุงยังชีพแก่ผู้ประสบภัยในพื้นที่ จ.เชียงราย พร้อมตรวจเยี่ยมการลำเลียงสิ่งของช่วยเหลือของกองทัพ

ชิงทองระนอง68บาท

รวบแล้วโจรชิงทอง 68 บาท กลางห้างดังระนอง

รวบแล้ว 2 คนร้ายชายหญิง จี้ชิงทอง 68 บาท ในห้างดังกลางเมืองระนอง ฝ่ายชายรับสารภาพ ชีวิตตกต่ำ ไม่มีรายได้ จึงชวนหลานสาววัย 16 ปี มาร่วมก่อเหตุชิงทอง

น้องชายรัวยิงพี่สาวตายกลางงานศพแม่ อ้างฉุนไม่ให้ร่วมจัดงานศพ

น้องชายชักปืนรัวยิงพี่สาวเสียชีวิตกลางงานศพแม่ ภายหลังน้องชายเข้ามอบตัวกับตำรวจ อ้างเหตุผลฆ่าเพราะโมโห รู้สึกว่าพี่สาวใจดำมากที่กีดกันไม่ให้ตนช่วยจัดงานศพแม่

บุกทลายโรงงานผลิตยาเถื่อน ย่านทุ่งครุ

เจ้าหน้าที่ อย. ร่วมสืบนครบาล บุกทลายโรงงานผลิตยาเถื่อน ย่านทุ่งครุ มีเบาะแสต้นตอการทะลักของยาเขียวเหลือง ตะลึงพบซากจิ้งจกตายในหม้อต้ม ขณะที่เจ้าของโรงงานยันประกอบอาชีพโดยสุจริต

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนพายุ “ซูลิก” ฉบับที่ 12 ฝนถล่มหลายจังหวัด

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุ “ซูลิก” ฉบับที่ 12 ภาคเหนือ อีสาน กลาง รวมทั้งกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากกับมีลมแรง

ชายแดนแม่สายยังเละจมโคลน จับตาพายุลูกใหม่

แม้จะผ่านน้ำท่วมใหญ่ในรอบร้อยปีมาหลายวันแล้ว แต่ตอนนี้ชายแดนแม่สายยังเต็มไปด้วยความเสียหายและดินโคลนจำนวนมาก ชาวบ้านหลายคนยังไม่สมารถกลับเข้าบ้านได้

นายกฯ ตรวจความพร้อมการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค

นายกฯ ตรวจความพร้อมการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค การซ้อมเป็นรูปขบวนเรือในแม่น้ำเจ้าพระยา ครั้งที่ 7 ณ โรงเรือพระราชพิธี ท่าวาสุกรี และวัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร ขณะที่ “เจ้าอาวาสวัดอรุณฯ” ให้กำลังใจทำหน้าที่ได้เต็มที่-ประสบความสำเร็จ

พายุโซนร้อน “ซูลิก” ทำฝนตกหนัก 76 จังหวัด 19-23 ก.ย.

พายุดีเปรสชันบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนบนทวีกำลังขึ้นเป็นพายุโซนร้อน “ซูลิก” แล้ว คาดขึ้นฝั่งเวียดนามคืนนี้ หัวพายุส่งผลให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออกมีฝนแล้ว ช่วงระหว่างวันที่ 19-23 ก.ย.67 มีพื้นที่เสี่ยงฝนตกหนักถึงหนักมาก 76 จังหวัด