ดึงคนรุ่นใหม่สานต่องานไหม

กรมหม่อนไหม 29 ธ.ค.- รมช.เกษตรฯ มุ่งดึงคนรุ่นใหม่สานต่องานไหม ผลัดกันเอกลักษณ์ไทยบุกตลาดยุคใหม่  


นายวิวัฒน์ ศัลยกำธร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มอบนโยบายให้กับผู้บริหารกรมหม่อนไหม โดยระบุว่า ไหมไทยมีศักยภาพทาง เส้นใยและลวดกลายการถักทอที่เป็นเอกลักษณ์ ที่สำคัญไหมได้สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศจนเป็นยอมรับไปทั่วโลก แต่ยอมรับว่า ปลูกหม่อนเลี้ยงไหม  การผลิตเส้นไหม  ผ้าไหม โยงใยอยู่กับผู้สูงอายุเท่านั้น  เมื่อผลิตภัณฑ์ไหมเป็นสินค้ามีศักยภาพ เป็นวัฒนธรรมอันเก่าแก่ สร้างชื่อเสียงมาอย่าวยาวนาน จึงต้องการให้หม่อนไหมของไทย ได้รับการสืบสานต่อไปยังลูกหลานคนรุ่นใหม่ เพราะตลาดต่างประเทศนิยมและมีความต้องการไหมคุณภาพ  รัฐบาลจึงต้องการส่งเสริมให้คนรุ่นใหม่ เข้ามาสืบสานต่อผลิตภัณฑ์ไหม ผ่านความร่วมมือของส่วนราชการ มหาวิทยาลัย ภาคเอกชน เพื่อส่งเสริมการวิจัย พัฒนาผลิตภัณฑ์ผ้าไหมไทย ในการออกแบบให้ทันสมัย ปรับไปตามกระแสโลกยุคใหม่ เมื่อใช้นวัตกรรมเชิงความรู้เข้ามาพัฒนาจะสร้างมูลค่าเพิ่มได้สูงมาก  เพราะหากปรับตัวไม่ทันจะประสบปัญหาเหมือนกับหลายอุตสาหกรรมที่ไม่ยอมปรับตัว  


ทั้งนี้รัฐบาลต้องการสร้างมูลค่าเพิ่ม สร้างรายได้ให้เกษตรกร ร้านค้าผ้าไหม ส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชน ผ้าไหมนับเป็นตลาดที่มีศักยภาพของไทยนับเป็นตลาดพึ่งพาได้อย่างยั่งยืน ผ่านการพัฒนาพันธุ์หม่อน ไหมพันธุ์ดี  และเครื่องมืออุปกรณ์ในการเลี้ยงไหม สาวไหม และทอผ้า เป็นต้น เพื่อกระตุ้นให้นักศึกษา เด็กนักเรียน และเยาวชนได้เรียนรู้และซึมซับอาชีพปลูกหม่อนเลี้ยงไหม และการพัฒนาธุรกิจต่อเนื่องซึ่งจะเป็นทางเลือกและช่วยสืบทอดอาชีพนี้ให้คงอยู่อย่างยั่งยืนทางหนึ่ง  รวมถึงดำเนินงานด้านหม่อนไหมในพื้นที่โครงการพระราชดำริ  

นางสุดารัตน์ วัชรคุปต์ เหล่าวิทยา อธิบดีกรมหม่อนไหม รายงานที่ประชุมว่า ปัจจุบันมีเกษตรกรผู้ปลูกหม่อนเลี้ยงไหม 85,557 ราย พื้นที่เพาะปลูก 45,217 ไร่ นับว่าไหมมีมูลค่าทางธุรกิจสูงถึง 8,437 ล้านบาทในปีนี้  มีร้านผ้า ผลิตภัณฑ์ไหม 617 ราย  กรมหม่อนไหม จึงได้ร่วมกับหลายหน่วยงานรัฐในการพัฒนาไหมอย่างครบวงจร  เช่น กรมทรัพย์สินทางปัญหา เพื่อจดสิทธิบัตร แหล่งกำเนินสินค้า ร่วมกับกระทรวงพัฒนาสังคม กระทรวงแรงงานสร้างทายาทในวงการไหมยุคใหม่ การทำเกษตรแปลงใหญ่ การร่วมกับ อคส. พัฒนาผลิตภัณฑ์นำใบหม่อนผสมน้ำนมผลิตเป็นนมพร้อมดื่มสร้างรสชาดนมที่ให้ประโยชน์สูงขึ้น  การร่วมกับกระทรววิทยาศาสตร์ฯพัฒนาวิจัยไหม และยังร่วมมือกับต่างประเทศ เช่น แอฟฟริกกา จีน ญี่ปุ่น  สปป.ลาว ภูฎาน พัฒนาสินค้าไหม และบุกตลาดออนไลน์มากขึ้น  


และยังร่วมมือกับสถาบันการศึกษา แก้ปัญหาโรคใบหม่อน เทคนิคการเลี้ยงไหมคุณภาพ การพัฒนาพันธุ์ รวมไปถึงการออกแบบแฟชั่นยุคใหม่ผ้าไหม ผ่านแอพพลิเคชั่น บุกตลาดออนไลน์  ทั้งแหล่งท่องเที่ยวชุมชน และห้างสรรพสินค้าชั้นนำ  กรมหม่อนไหม จึงได้สนองนโยบาย “ต่อ เติม แต่ง” ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อต่อยอดพัฒนาศักยภาพบุคลากรด้านหม่อนไหมทุกระดับ พัฒนาระบบบริหารจัดการสินค้าหม่อนไหมสู่เกษตร 4.0  เพื่อสร้างความเข้มแข็งและเพิ่มขีดความสามารถรองรับการแข่งขันให้กับสินค้าไหมไทยและผลิตภัณฑ์ไหมในเวทีการค้าโลกในอนาคต เร่ิมจากยกรดับให้เป็น สมาร์ทออฟฟิศเซอร์ (Smart Officer)  หวังถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านหม่อนไหม อาทิ การเลี้ยงไหม การทอผ้าและพัฒนาผลิตภัณฑ์ผ้าไหม รวมถึงผลงานวิจัยที่ประสบผลสำเร็จ และข้อมูลด้านเศรษฐกิจและตลาดสินค้าหม่อนไปยังเกษตรกรผู้ปลูกหม่อนเลี้ยงไหมและผู้ประกอบการได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อเป็นการยกระดับผู้ปลูกหม่อนเลี้ยงไหมให้ก้าวสู่การเป็นสมาร์ทฟาร์เมอร์ (Smart Farmer)ด้วย

ปัจจุบันประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุเช่นเดียวกับหลายประเทศทั่วโลก โดยไทยมีผู้สูงอายุร้อยละ 16-17  จากประชากรทั้งประเทศกว่า 68 ล้านคน และมีการคาดการณ์ว่า ภายในปี 2564 ผู้สูงอายุของไทยจะเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 20   ในส่วนของเกษตรกรไทยส่วนใหญ่มีอายุเฉลี่ยกว่า 55 ปี มีประมาณร้แยละ 60 ของจำนวนเกษตรกรทั้งหมด

ทั้งนี้กรมหม่อนไหมเตรียมแผนลงนามความร่วมมือ (MOU) กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมกิจการผู้สูงอายุ (ผส.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อร่วมกันส่งเสริมอาชีพด้านหม่อนไหมสำหรับผู้ชรา ผู้พิการ และผู้ด้อยโอกาส ให้มีความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคม สร้างรายได้ให้สามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน อาทิ ส่งเสริมจัดตั้งกลุ่มผู้สูงอายุปลูกหม่อนเลี้ยงไหม การปลูกหม่อนเพื่อจำหน่ายใบ การสาวไหม มัดหมี่ และทอผ้าไหม เป็นต้น ทำให้ผู้สูงอายุ ผู้ด้อยโอกาส และผู้พิการมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นสามารถปรับตัวเท่าทันสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างไม่หยุดนิ่ง สอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ.- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“สุชาติ” จ่อลาออก สส. ให้สภามี สส.ทำงาน

ทำเนียบ 7 ก.ค.-“สุชาติ” เผยเตรียมลาออก สส. เพื่อให้บัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้ขึ้นมา มองให้สภามี สส.ทำงาน นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงธรรมเนียมปฏิบัติของคนที่เป็น สส.ระบบบัญชีรายชื่อ จะลาออกเมื่อเป็นรัฐมนตรี หรือไม่ว่า ที่ผ่านมายังไม่มีการลาออกแต่โดยธรรมเนียมก็ควรจะลาออก เพราะการทำหน้าที่ของรัฐมนตรีก็เต็มเวลาอยู่แล้ว ไม่มีเวลาที่จะไปช่วยงานสภา ซึ่งขณะนี้สภาเสียงปริ่มน้ำ ซึ่งตนมีความตั้งใจที่จะลาออกจาก สส ระบบบัญชีรายชื่ออยู่แล้ว เพื่อให้ สส.ระบบบัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้เลื่อนขึ้นมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สส. ลำดับถัดไปที่จะขึ้นมาเป็น สส.แทนนายสุชาติ คือ นายเอกพร รักความสุข บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 38.-316.-สำนักข่าวไทย

พม.ร้องเอาผิด “จอนนี่ มือปราบ” สร้างรีสอร์ทรุกล้ำที่ส่วนกลาง

บก.ปทส. 7 ก.ค. – จนท.กรมพัฒนาสังคมฯ ร้องตำรวจป่าไม้ตรวจสอบปมรีสอร์ทของ “จอนนี่มือปราบ” อินฟลูชื่อดัง บุกรุกพื้นที่นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ในอุบลราชธานี และถูกข่มขู่ไม่ให้เข้าพื้นที่ นายวัชระ โกเสนตอ นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ ได้รับมอบอำนาจจากนายกันตพงศ์ รังษีสว่าง อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นำหลักฐานเอกสารเข้าแจ้งความกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ บก.ปทส. เพื่อให้ดำเนินคดีกับ ด.ต.ยุทธพล หรือ “จอนนี่ มือปราบ” อดีตตำรวจที่ผันตัวลาออกจากราชการมาเป็นอินฟลูเอนเซอร์ กรณีสร้างรีสอร์ทรุกเข้าไปในเขตนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ตำบลคำเขื่อนแก้ว อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี นายวัชระ เปิดเผยว่า กรมพัฒนาสังคมฯ รับแจ้งจากนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ว่ามีผู้เข้าไปทำประโยชน์ในที่ดินของนิคมโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยส่วนที่รุกล้ำเข้ามาเป็นพื้นที่ที่นิคมกันไว้เป็นป่าไม้ส่วนกลาง 20% รุกล้ำเข้ามาประมาณ 1 ไร่ และเริ่มก่อสร้างรีสอร์ทเมื่อปี 2564 เป็นต้นมา และทางกรมฯ ก็ได้ลงบันทึกประจำวันและมีหนังสือให้ระงับการดำเนินการรีสอร์ทมาตั้งแต่ปี 2565 แต่เจ้าของรีสอร์ทไม่ให้ความร่วมมือ และยังมาโวยวายที่นิคมฯ ข่มขู่เจ้าหน้าที่ ไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปที่รีสอร์ท ทั้งนี้นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย มีพื้นที่ตามแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมสร้างตนเองฯ ชัดเจน เนื้อที่ […]

Camp Mystic after Texas floods

เปิดภาพความเสียหายน้ำท่วมแคมป์ในเท็กซัส

เท็กซัส 6 ก.ค.- ทีมกู้ภัย อาสาสมัครและตำรวจ ช่วยกันรื้อถอนเศษซากความเสียหายและซากต้นไม้กิ่งไม้ใกล้ที่ตั้งแคมป์ในรัฐเท็กซัสของสหรัฐ ซึ่งมีนักเรียนหญิง 27 คน สูญหายจากเหตุน้ำท่วมฉับพลันที่เกิดขึ้นเมื่อเช้ามืดวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น   ค่ายมิสติก (Camp Mystic) เป็นค่ายกิจกรรมนักเรียนหญิงล้วน มีนักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมในค่าย 700 คน ในช่วงที่เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลันครั้งใหญ่ในเทศมณฑลเคอร์ ทางตอนกลางของรัฐเท็กซัส แคมป์แห่งนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำกัวดาลูปในแถบหุบเขาตอนกลางรัฐเท็กซัส ซึ่งเป็นศูนย์กลางที่เกิดน้ำท่วม ก่อตั้งโดยโค้ชฟุตบอลมหาวิทยาลัยเท็กซัส เมื่อเกือบหนึ่งร้อยปีก่อนในปี 2469 เพื่อให้เยาวชนหญิงได้สัมผัสบรรยากาศแบบคริสเตียนในการพัฒนาตนเอง.-820(814).-สำนักข่าวไทย

กรมอุตุฯ เตือน 4 ภาครับมือฝนถล่ม ระวังน้ำท่วม-น้ำป่าไหลหลาก

กทม. 6 ก.ค.- กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยยังมีฝนฟ้าคะนอง เตือน “เหนือ อีสาน ตะวันออก ใต้” รับมือฝนตกหนัก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณจังหวัดภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบนและลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง พายุโซนร้อน “ดานัส” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้ไต้หวัน ในช่วงวันที่ 6–7 กรกฎาคม 2568 โดยไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย แต่จะทำให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ชาวแม่อายกังวลพบสารหนูในร่างกาย สธ.ยันไม่เกินมาตรฐาน

เชียงใหม่ 8 ก.ค. – หลังชาวบ้านริมลำน้ำกก บริเวณชายแดนด้าน อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ เครียดและกังวลกับปัญหาสารหนูปนเปื้อนเกินมาตรฐานในลำน้ำกก ส่งผลต่อวิถีชีวิตและการใช้น้ำมานานกว่า 3 เดือน ตอนนี้ชาวบ้านยิ่งตื่นกลัวมากขึ้น หลังมีกระแสข่าวการสุ่มตรวจปัสสาวะเด็กในชุมชนอย่างน้อย 2 คน พบสารหนูในร่างกาย ขณะที่สาธารณสุขเชียงใหม่ ยอมรับการสุ่มตรวจกลุ่มเสี่ยง 10 ราย พบสารหนู 9 ราย แต่ไม่เกินมาตรฐาน.-สำนักข่าวไทย

ค้นรัง “ก๊กอาน” เจ้าพ่อคราวน์กาสิโน คนสนิท “ฮุนเซน”

8 ก.ค. – ตำรวจไซเบอร์เปิดปฏิบัติการ “ปิดตึกบัญชีม้า ล่านายทุนเขมร” ค้น 19 จุด 3 จังหวัด เครือข่าย “ก๊กอาน” เจ้าพ่อคราวน์กาสิโน คนสนิท “สมเด็จฮุน เซน” ตามหมายจับสมคบกันก่ออาชญากรรมข้ามชาติ พัวพันในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ในปอยเปต กัมพูชา.-สำนักข่าวไทย

ทบ.พาสื่อทัวร์ปราสาทตาเมือนธม ปัดโต้กัมพูชากล่าวหาไทยรุกราน

สุรินทร์ 8 ก.ค.- ทบ. พาสื่อทัวร์ปราสาทตาเมือนธม หวังเรียกนักท่องเที่ยวดูโบราณสถาน มองเป็นเรื่องดี หลังประชาชนทะลักเข้าชมปราสาท เผยไม่โต้กัมพูชากล่าวหาไทยรุกราน มุ่งยึดการสื่อสาร ไทย-กัมพูชา ไม่พัฒนาไปสู่ความตึงเครียด พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก (ทบ.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการพาสื่อมวลชนลงพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม ว่า พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) อยากให้พาสื่อมวลชนส่วนกลางมาลงพื้นที่ ทั้ง จ.สุรินทร์ จ.บุรีรัมย์ จ.อุบลราชธานี โดยอยากให้สื่อสัมผัสกับพื้นที่จริง 2 ส่วน โดยส่วนที่ 1 คือทหารที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในพื้นที่ ส่วนที่ 2 เรื่องของพื้นที่ส่วนหลังในเรื่องความพร้อมต่าง ๆ ที่ทางทหารและฝ่ายปกครองได้เตรียมความพร้อมกันไว้ ซึ่งปราสาทตาเมือนธมเป็นจุดแรกที่เป็นจุดที่มาลงพื้นที่หลังฟังคำบรรยายของกองกำลังสุรนารี โดยส่วนหนึ่งที่เดินทางมาในวันนี้เพื่อเยี่ยมชมโบราณสถาณที่สำคัญ ตามจริงเราขึ้นทะเบียนกับกรมศิลปากรเมื่อปี พ.ศ. 2478 รวมถึงได้มีการมอบสิ่งของบำรุงขวัญและให้กำลังใจ เจ้าหน้าที่ทุกส่วนที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในพื้นที่แห่งนี้ ผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีที่ผ่านมามีปากเสียงกันในพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม ได้มีการรับรายงานเรื่องนี้หรือไม่ พล.ต.วินธัย กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ได้ได้รับรายงาน ส่วนที่ผ่านมาก็เป็นไปตามที่สื่อมวลชนได้รับข้อมูล ถือว่าไม่ได้อยู่ในจุดที่น่ากังวล ผู้ปฏิบัติงานทั้งฝ่ายไทยและฝ่ายกัมพูชา ก็สามารถใช้ความสัมพันธ์ในลักษณะที่เป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในพื้นที่ […]

“แพทองธาร” ชูแนวคิดวัฒนธรรมสร้างสรรค์ ยกระดับสู่เวทีโลก

ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ 8 ก.ค.- “แพทองธาร” เปิดโครงการการประชุมนานาชาติด้านซอฟต์พาวเวอร์ SPLASH – Soft Power Forum 2025 ชี้วัฒนธรรมไทยมีครบถ้วนทุกองค์ประกอบที่จะทำให้ต่างชาติหลงรัก กำลังกลายเป็นเศรษฐกิจรูปแบบใหม่ ชูแนวคิดวัฒนธรรมสร้างสรรค์ ยกระดับสู่เวทีโลก ตั้งเป้าส่งออกอัญมณีให้ถึง 1 ล้านล้านบาท ภายใน 5 ปี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการการประชุมนานาชาติด้านซอฟต์พาวเวอร์ (SPLASH – Soft Power Forum 2025) ณ เวทีกลาง Exhibition Hall 4 ชั้น G ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพฯ โดยมีรัฐมนตรี คณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ หน่วยงานภาครัฐภาคเอกชนเข้าร่วม โดยนางสาวแพทองธาร กล่าวว่า รู้สึกดีใจอย่างมากที่มีโอกาสได้มางานนี้อีกครั้ง ซึ่งปีที่แล้วเป็นปีที่แรก และปีนี้งานยิ่งใหญ่กว่าเดิม มีคนให้ความสนใจจำนวนมาก ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าชื่นใจ ทุกวันนี้เราอยู่ในโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วมีสิ่งที่เราคาดการณ์ไม่ได้เกิดขึ้นมากมายทั้งในเรื่องของสภาพเศรษฐกิจและอีกหลายปัจจัยทั่วโลก ที่เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว รวมถึงเทคโนโลยีต่างๆที่เข้ามาทำให้เราต้องมีการปรับตัวที่เพิ่มมากขึ้น ตนเชื่อว่าการเข้าสู่บริบทของการเปลี่ยนแปลงนั้น การเข้าใจเป็นสิ่งที่สำคัญมาก […]